สังคม

สั่งสอบ 7 ตร. บุกจับนักพนัน-ขู่บังคับโอนเงิน ผกก.ยันลูกน้องทำตามหน้าที่ เซียนพนันข้องใจถูกจัดฉาก

โดย paweena_c

30 ก.ค. 2567

87 views

เซียนพนันร้อง ทนายรัชพล หลังตำรวจบุกจับ บังคับรีดเงินคืน 8 แสนบาท อ้างถูกโกง ขณะผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และผู้กำกับการ สน.ลาดกระบัง แถลงข่าวชี้แจงการจับกุม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบตำรวจทั้ง 7 นาย

คุณเอ (นามสมมุติ) อาชีพทำ ธุรกิจส่วนตัว เดินทางนำหลักฐานเข้าร้องเรียน กับทนายรัชพล ศิริสาคร ที่สำนักงานกฎหมาย ทนายรัชพล ศิริสาคร จำกัด หลังจากตนกับเพื่อน 7 คน รวมเจ้าของบ้านเป็น 8 คน ไปเล่นพนันในบ้านหรูหลังหนึ่งในพื้นที่เขตลาดกระบัง กทม. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 30 นาย บุกเข้าไปจับกุมภายในบ้าน และได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาที่ สน.ลาดกระบัง ก่อนจะอ้างว่าทั้ง 7 คน เล่นไพ่โกงเจ้าของบ้าน

และให้เอาเงินในบัญชีทั้งหมดโอนคืนให้กับเจ้าของบ้าน รวมแล้วกว่า 2 ล้านบาท หลังดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา พวกตนลักลอบเล่นการพนันและนำตัวส่งฟ้องศาล

คุณเอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนรู้จักกับเจ้าของบ้าน จากการไปเล่นบ่อนพนันต่าง ๆ โดยทางเจ้าของบ้านได้ชักชวนให้พวกตน มาเล่นป๊อกแปดป๊อกเก้าในบ้านจะได้เสียค่าต๊งน้อย เข้าไปเล่นมา 3-4 ครั้ง จนเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ซึ่งทางเจ้าของบ้านได้ชักชวนพวกตนให้มาเล่น โดยเริ่มเล่นตอนเวลา 13.00 น .จนถึง 14.20 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 30 นาย บุกเข้ามาจับภายในบ้าน

ขณะถูกจับกุมทางเจ้าของบ้านได้เล่นพนันอยู่กับตนแต่ไม่ถูกจับ แต่พวกตนทั้ง 7 คนถูกควบคุมตัวไปที่สน.ลาดกระบัง เบื้องต้นเท่าที่ตนทราบมีของกลางเป็นเงิน 260,000 บาท หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข่มขู่ พวกตน ว่าทางลูกสาวเจ้าของบ้านได้แจ้งความดำเนินคดีพวกตนไว้ ว่ามีการมาเล่นไพ่และร่วมกันโกงเจ้าของบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านเสียเงินไปเกือบ 10 ล้านบาท

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดจับได้ข่มขู่พวกตนว่า ใครมีเงินเท่าไหร่ให้นำออกมา โดยนำกระดาษ A4 ให้พวกตนเขียนรหัสบัตร ATM เพื่อโอนเงิน ซึ่งตนมีเงินอยู่จำนวน 800,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ได้ตำรวจได้ข่มขู่ ให้ตนโอนเงินคืนให้กับเจ้าของบ้าน

ขณะนั้นตนต้องยอม เนื่องจากไม่อย่างนั้นจะโดนดำเนินคดีข้อหาอื่นเพิ่มเติมด้วย จึงได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ ให้กับเจ้าของบ้าน หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาพวกตนร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน โดยส่งหลักฐานฟ้องศาลเป็นเงิน ของกลางแค่หลักร้อย แต่แท้จริงเงินของกลางมีประมาณ 260,000 บาท หลังเสียค่าปรับ ที่ศาลเรียบร้อยได้มีการ พูดคุยกัน จนทราบว่าเจ้าของบ้านไม่ได้ถูกดำเนินคดี ทั้งที่เล่นอยู่ด้วยกัน

จึงสอบถามไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข้อมูลบางอย่างว่า ตำรวจระดับสารวัตรที่เข้าไปจับเป็นญาติกับ เจ้าของบ้านคนนี้ ซึ่งตนมองว่าไม่ยุติธรรม จึงได้เดินทางมาร้องทนายรัชพล ให้ตามเงินจำนวนดังกล่าวคืน และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมเจ้าของบ้านถึงไม่โดนจับ ทั้งที่นั่งอยู่ในวง แล้วทำไมตำรวจถึงได้บังคับให้พวกตนโอนเงินให้กับเจ้าของบ้าน ยืนยันว่าไม่เคยเล่นโกงและเจ้าของบ้านไม่เคยเสียเงินหลักสิบล้าน ในการเล่นพนัน เคยเล่นพนันด้วยกันเจ้าของบ้านเคยเสีย 8 แสนบาทถึง 1 ล้านบาทเท่านั้น

ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า หลังตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้เสียหาย มั่นใจในสิ่งที่ผู้เสียหายมาร้องเรียน เพราะมีหลักฐานการโอนเงิน ไปยังบัญชีเจ้าของบ้านจริง ในช่วงเวลาที่ถูกจับกุมตัวอยู่ที่ สน.ลาดกระบัง หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปร้องที่กองปราบปราม ส่วนตำรวจไปบอกว่าให้ผู้เสียหายนำเงินไปคืน เจ้าของบ้าน ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะแจ้ง ม.157 ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบต่อไป

ด้านพลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 พร้อมด้วย พันตำรวจเอก สมคิด ประเชิญสุข ผู้กำกับการ สน.ลาดกระบัง นำเอกสารใบบันทึกประจำวันมาชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าของบ้าน และลูกสาวได้มาลงบันทึกประจำวันที่ สน.ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 67 เวลา 13.10 น. บอกว่า วันที่ 10 มิถุนายน ช่วงบ่าย 2 โมง จะมีการลักลอบเล่นการพนันที่บ้านหลังหนึ่ง ย่านลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร และหากมีการลักลอบเล่นการพนันจริงจะแจ้งให้ตำรวจเข้าจับ

ต่อมาตำรวจรับแจ้งว่ามีการเล่นพนันจริง ประมาณ บ่าย 2 โมง 20 นาที จึงเข้าจับผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลาง ในข้อหา ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน และพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย ทั้งหมดรับสารภาพ แล้วนำตัวส่งฟ้องศาลซึ่งศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตำรวจไม่ได้จับกุมเจ้าของบ้าน และลูกสาว เนื่องจากอยู่ในสถานะสายลับ และเป็นผู้แจ้งเบาะแสให้ตำรวจเข้าจับ

ซึ่งในวันที่จับใช้กำลังตำรวจแค่ 7 นาย เท่านั้น ไม่ได้มีตำรวจ 30-40 นาย ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง และที่อ้างว่าสารวัตรชุดจับกลุ่มเป็นญาติกับเจ้าของบ้าน นั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริง ที่ผ่านมาทั้ง 7 นาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีมาตลอด ไม่เคยนอกลู่นอกทาง

เงินของกลางที่ยึดได้คือ 700 บาท ไม่ใช่ 2 แสนบาท ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องเงิน 8 แสนบาท ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

ด้านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 ชี้แจงว่าตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยมอบหมายให้พันรวจเอกโฆษิต บุญทวี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งมีคลิปภาพขณะจับกุม เป็นหลักฐานประกอบการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย และให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของตำรวจทั้ง 7 นายด้วย

มีรายงานข่าวว่า ผู้เสียหายทั้ง 7 คน เป็นแก๊งหลอกเล่นพนัน จะตระเวนไปฉ้อโกงเจ้ามือวงพนันในพื้นที่ต่างๆ โดยแต่ละคนจะแบ่งหน้าที่กันเพื่อร่วมหัวกันโกงแบบไม่ให้เจ้ามือรู้ แล้วทำเป็นคนไม่รู้จักกันมาก่อน พอได้เงินก็จะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน ซึ่งหัวหน้าแก๊งของกลุ่มนี้จะเป็นคู่สามีภรรยากัน

https://youtu.be/8RajryvDnwE

คุณอาจสนใจ

Related News