หนังคนละม้วน! พี่สาวโต้ปมอุ้มน้องชายหวังมรดก 100 ล้าน ยันน้องไม่อยากกลับเองเหตุถูกลูกเมียทำร้าย

พี่สาวเปิดหน้าโต้ หลังถูกภรรยาน้องชายอ้างหวังฮุบสมบัติ 100 ล้านของน้องชาย ยันเอาตัวน้องชายมาดูแลเพราะครอบครัวดูแลไม่ดี แถมน้องชายยังถูกเมียและลูกทำร้ายร่างกาย

จากเหตุการณ์ ที่นางสุนีย์ ตันบุญเฮง มาร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่าสามี คือนายวิศิษฐ์ ถูกพี่สาวของนายวิศิษฐ์ คือ คุณสาวิตรี นำตัวออกไปจากบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยคุณสาวิตรี ได้เรียกแท็กซี่มาเอาตัวสามีของเธอไป โดยอาศัยจังหวะที่เธอต้องไปขึ้นศาล ในคดีที่เธอถูกคุณสาวิตรี ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย

ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม นางสุนีย์พร้อมลูกชาย ได้ไปตามหาสามี ที่บ้านพี่สาวที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่ถูกคนดูแลบ้านกีดกันไม่ให้ไปพบกับสามี พร้อมกับปิดประตูเหล็ก และเอาลวดมาผูกกับประตูเพื่อไม่ให้คุณสุนีย์ไปพบกับสามี และคนดูแลบ้านยังบอกว่าหากไม่พอใจก็ให้ไปแจ้งความเพราะมีอะไรให้ไปคุยกับเจ้าของบ้าน ก็คือ พี่สาวของสามีเอง

โดยชนวนเหตุทั้งหมดมาจากเรื่องของมรดกในครอบครัวของสามี จำนวน 100 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาพี่สาวของสามี ได้ยื่นต่อศาลคัดค้านให้สามีพ้นจากการเป็นผู้จัดการมรดก โดยอ้างว่าสามีมีอาการป่วย และยังพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้สามียกมรดกในส่วนของสามีให้กับพี่สาว

ทั้งนี้ตนยอมรับว่ามีปัญหากับพี่สาวของสามี เพราะพี่สาวของสามีมักจะพูดใส่ร้ายตนต่าง ๆ นา ๆ เช่นบอกว่าตนหวังที่จะฮุบสมบัติของสามี กล่าวหาว่าตนทำร้ายร่างกายสามีและตัวพี่สาวของสามี ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

ขณะที่พี่สาวของนายวิศิษฐ์ ได้พาน้องชายมาตอบโต้ในเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริงอย่างที่นางสุนีย์พูด โดยยอมรับว่าได้จ้างรถแท็กซี่ ไปเอาตัวน้องชายออกมาจากบ้านจริง แต่เป็นเพราะทนเห็นน้องชายถูกทำร้ายร่างกาย และให้อยู่อย่างทรมานไม่ได้

ที่ผ่านมาน้องชายมีอาการป่วยทางสมอง แต่ฝั่งภรรยากลับไม่เคยพาไปพบหมอตามนัด อาหารการกินก็ไม่ดี ที่สำคัญเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว น้องชายยังถูกภรรยา ลูกชายคือนายแบงค์ และลูกสะใภ้ คือนางสาวอั้ม รุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนได้พาน้องชายไปแจ้งความที่ สน.บางขุนนนท์ มาแล้ว

ส่วนตนก็ถูกนายแบงค์ ทำร้ายร่างกายด้วยการล้อคคอเพื่อหวังจะให้ตนเป็นอัมพาต ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้เพื่อดำเนินคดีกับแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้พี่สาวของคุณวิศิษฐ์ ยังได้เปิดเผยคลิปวีดีโอ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ วันที่ 22 ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พยายามจะเข้าไปพาตัวน้องชายไปหาหมอ แต่ก็ถูกภรรยาของน้องชายขัดขวาง จนมีการโต้เถียงกัน

ทั้งนี้คุณสาวิตรี ยังพูดถึงปมมรดก 100 ล้านบาทว่า ไม่เคยบังคับให้น้องชายเซนต์เอกสารหรือยกมรดกในส่วนของน้องชายให้กับตน และพี่น้องทุกคนก็ไม่มีใครพูดเรื่องการแบ่งมรดก

ที่สำคัญตอนนี้มรดกยังไม่ได้มีการแบ่งให้กับใคร เพราะเพิ่งได้หนังสือรับรองแต่งตั้งผู้จัดการมรดก โดยที่ผู้จัดการมรดกเป็นทายาททุกคนรวมถึงน้องชายด้วย

ขณะที่วิศิษฐ์ ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกพี่สาวลักพาตัว แต่พี่สาวบอกว่า จะพาอยู่ด้วยและจะดูแลดีกว่าครอบครัว จึงยอมตามพี่สาวมา

ซึ่งตอนที่ออกมาไม่ได้หยิบของใช้ส่วนตัว และยารักษาโรคมาด้วย ทำให้บางครั้ง ตนมีการป่วยกำเริบบ้าง โดยตอนนี้สภาพร่างกายดีขึ้นเพราะพี่สาวพาไปกายภาพบำบัดและเล่นโยคะ ตอนนี้ขออยู่กับพี่สาวก่อนยังไม่พร้อมจะกลับไปอยู่กับภรรยา และ ขอย้ำว่าไม่เคยถูกใครทำร้ายร่างกาย

ทั้งนี้ภรรยาของพี่สาวมีปัญหากันจริง โดยชนวนเหตุมาจากเรื่องของมรดก ซึ่งก่อนหน้านี้พี่สาวได้นำเอกสารบางอย่างมาให้เซ็นต์ ซึ่งตนมารู้ทีหลังว่าเป็นเอกสารเกี่ยวกับมรดก

รับชมผ่านยูทูป :  https://youtu.be/KNXg7KuRmic