สังคม
พม.ชี้มีหน้าที่คุ้มครองเด็ก ไม่ใช่พ่อแม่ - พศ.เดินเครื่องจ่อเอาผิด ‘เชื่อมจิต’ เข้าข่ายข้อมูลเท็จ
โดย paweena_c
24 พ.ค. 2567
57 views
พ่อ-แม่ และคณะญาติธรรม 'เด็กเชื่อมจิต' เตรียมยื่นเรื่อง ขอให้ พม.คุ้มครองสวัสดิภาพ อ้างถูกใส่ร้ายจนทำให้อับอาย ด้านสำนักพุทธฯ แจ้งเบาะแสตำรวจไซเบอร์วันนี้ พิจารณา คำสอน 'เชื่อมจิต' ไม่อยู่ในพระไตรปิฎก เดินหน้าเอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ สัปดาห์หน้า
กรณีของเด็กเชื่อมจิต ที่มีการประกาศว่า วันที่ 4 มิ.ย.นี้ ทาง พ่อ-แม่ และคณะญาติธรรม จะไปที่ กระทรวง พม. เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนกับ รัฐมนตรี วราวุธ ศิลปอาชา ขอให้ พม.คุ้มครองสวัสดิภาพ อ้างว่าถูกใส่ร้ายจนทำให้อับอาย และขอให้รัฐมนตรีมีคำสั่งให้สื่อหยุดพูดใส่ร้ายด้วย ล่าสุด ทางที่ปรึกษารัฐมนตรี ถาม "พ่อแม่จะไปร้องเรื่องอะไร หน้าที่ของ พม.คือดูแลเด็ก คุ้มครองเด็ก ไม่ใช่คุ้มครองพ่อ- แม่"
คุณนิกร จำนง ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงเรื่องที่ พ่อแม่เด็กเชื่อมจิต จะไปยื่นเรื่องร้องเรียน ต่อรัฐมนตรี พม. กรณี ขอให้คุ้มครอง อ้างว่าถูกสื่อใส่ร้ายและสั่งให้สื่อหยุดการกระทำ
โดย คุณนิกร บอกว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา เราก็ต้องพิจารณาไปตามเนื้อผ้า ซึ่งการนำเสนอของสื่อมวลชน ก็มีการเสนอไปตามเนื้อผ้าเช่นกัน ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ถือว่าสื่อมวลชนได้ช่วยกันนำเสนอ เพราะสื่อมวลชนมีหน้าที่นำความจริงมาให้ปรากฏกับประชาชน
ส่วนสื่อโซเชียลอาจจะใส่ความเห็นตามความรู้สึกบ้าง แต่เราเคารพสื่อมวลชน เพราะสื่อมวลชนจะไหลตามกระแสสังคมไม่ได้ มันต้องค้นหาความจริง ซึ่งที่สื่อทำอยู่ขณะนี้ก็เหมือนทำตามหน้าที่ของตนเอง ทำความจริงให้ปรากฎและเสนอตามความเชื่อของสื่อ สื่อก็มีความเชื่อได้
ย้ำว่า หน้าที่ของ พม. คือดูแลเด็ก คุ้มครองเด็ก ไม่ใช่การคุ้มครองพ่อแม่ และขณะนี้ก็ได้ยื่นขอให้ศาลคุ้มครองเด็กแล้ว
ขณะที่การติดตาม ตรวจสอบ เรื่องเด็กเชื่อมจิต ของพม. นั้น คุณนิกร บอกว่า พม. มีหลักการอย่างเดียวคือพิจารณา เฉพาะเรื่องของตัวเด็ก เพราะมีหน้าที่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.เด็ก และ พม. ก็ ติดตามเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ดูแลมาตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด ตามอำนาจหน้าที่ และจากการตรวจสอบ ในฐานะที่ ตนเป็นประธานคณะกรรมการเกี่ยวกับกฎหมายของกระทรวง
พบสภาพปัญหาที่ซับซ้อน และละเอียดอ่อน จำต้องมีรูปแบบการดำเนินการที่เคร่งครัดชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการ จึงเตรียมจะเสนอให้มี หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ ขึ้นมาดูแลปัญหาในแต่ละเคส
ซึ่งหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจนี้จะตั้งเป็นคณะกรรมการให้ รองปลัดกระทรวงเป็นประธาน และมีกรมต่างๆของกระทรวง เข้าร่วม
หลังจากที่มติที่ประชุมมหาเถระสมาคมหรือ มส. ให้อำนาจสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการ หากมีคำสอน และความเชื่อใด ผิดหลักพระพุทธศาสนา และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา สำนักพุทธฯสามารถสั่งดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที
ล่าสุด นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักพุทธฯ กล่าวว่า กรณี "เชื่อมจิต" ไม่ปรากฎหลักฐาน ในพระไตรปิฎก มีการกล่าวอ้างเป็น ลูกพระพุทธเจ้า ซึ่งล้วนไม่ตรงกับพระไตรปิฎก จึงได้มอบหมายให้ทางผู้อำนวยการนิติกร ของสำนักพุทธฯรวบรวมพยานหลักฐาน ไปเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่ง ตอนนี้มีหลักฐานเข้าข่าย นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
โดยคณะทำงานได้เร่งถอดเทปย้อนหลัง รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งความดำเนินคดี ต่อ สภ.พุทธมณฑล ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ในสัปดาห์หน้า
ผอ.สำนักพุทธฯ บอกด้วยว่า ส่วนในวันนี้จะแจ้งเบาะแสประเด็นเดียวกันนี้ ไปยังตำรวจไซเบอร์ (กองบัญชาการตำรวจสืบสวน สอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) เพื่อให้ดำเนินการอีกทาง
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jXApcbpTVJE