'เจ๊ไก่' เจอผัวแล้ว! หลังเป็นห่วงตามหา โผล่ม่านรูดกับอดีตลูกจ้าง ผัวรับหนีไปเอง ไม่ทนเมียด่าทุกวัน

เศรษฐีนีร้องสื่อ สามีป่วยเส้นเลือดในสมองตีบหายออกจากบ้าน มีทรัพย์สินติดตัวไปหลายแสน ไปเจอภาพวงจรปิดโผล่ม่านรูดอยู่กับอดีตลูกจ้างสาว หวั่นถูกล่อลวง ขณะที่สามีออกมาพบตำรวจ โต้กลับไม่ได้ถูกล่อลวง ตัวเองเต็มใจที่จะหนี เพราะทนอยู่ 2 ปี ถูกเมียด่าทุกวัน

นางสาวมัลลิกา หรือเจ๊ไก่ อายุ 57 ปี เศรษฐีนีทำธุรกิจหลายอย่าง เข้าร้องสื่อ ระบุว่า สามี ชื่อนายสรายุทธ หรือยุทธ ได้หายตัวออกจากบ้านพัก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่จังหวัดปทุมธานี โดยเชื่อว่าน่าจะมีคนเอารถมารับไป กลัวว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากนายยุทธ ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เบื้องต้นได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานีแล้ว

เจ๊ไก่ เล่าว่า เริ่มต้นจากที่ตนเองจะหาซื้อตู้เย็น จึงมีการเข้าไปในกลุ่มเพจ แล้วได้มีการติดต่อกับผู้ขายเป็นผู้ชาย 1 คน มีการนัดดูของกัน แต่ตนไม่ถูกใจ กระทั่งตอนเย็นชายคนดังกล่าวก็ได้โทรมาสอบถามตนเองจึงปฎิเสธไป

แต่วันต่อมา ชายคนดังกล่าวก็ได้โทรมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้โทรมาขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่ามีภรรยาและแม่ที่ป่วยพร้อมกับลูกที่เป็นออทิสติก อยากกลับมาอยู่ที่ปทุมธานี ด้วยความสงสาร จึงได้ว่าจ้างรถตู้ทึบไปพาครอบครัวนี้กลับมา

พอเจ๊ไก่ เรียกครอบครัวนี้มาพบ สอบถามว่าจะกลับมาทำอะไร ทางด้านผู้ชายบอกว่าจะทำอาหารตามสั่งขาย เจ๊ไก่เองก็ได้ไปหาที่และซื้อเต็นท์พร้อมอุปกรณ์การทำอาหาร และของสดให้นำมาขาย แต่ขายไปได้ 1 วัน ผู้ชายคนนี้ได้บอกว่าขายไม่ไหวแล้ว แล้วก็เสนอให้เมีย ชื่อ สายฝน มาทำงานเป็นแม่บ้าน เจ๊ไก่ จึงรับมาทำงานให้ดูแลร้านซักผ้า

หลังจากผ่านไป 1 เดือนกว่า ตนต้องเดินทางไปทำธุระที่ภาคใต้ โดยนำรถไป 2 คัน เจ๊ไก่ กับนายยุทธ สามี และลูกน้องอีกคนไปรถ 1 คัน ส่วนอีกคันให้ นางสายฝนกับไปคนขับรถ พอตอนกลับตนต้องอยู่ดูงานต่อ จึงให้สามีกลับมาก่อนกับนางสายฝน

พอวันที่เจ๊ไก่กลับบ้าน ก็พบว่าไม่เห็นใคร แต่สังเกตเห็นรองเท้าของนางฝนยังอยู่ ส่วนสามีตนหายไป เดินหาก็ไม่เจอ จึงได้ไปเคาะห้องกระจก สักพักนางฝนเดินออกมา พอถามถึงสามี นางฝนบอกว่าอยู่ในบ้าน อ้างว่าไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นเจ๊ไก่ เรียกทั้ง 2 คนมาคุย ก่อนที่จะไล่นางฝนออก เพราะมันมีความไม่ชอบมาพากล

จากนั้นตนก็ต้องเดินทางออกต่างจังหวัด โดยพาสามีไปด้วย ระหว่างทางตนเองได้บอก ให้สามีมาเปลี่ยนขับรถ ซึ่งสามีนั้นขับรถได้ แต่ต้องมีคนนั่งไปด้วยตลอดเพื่อบอกทาง เพราะบางทีจะหลงและจำเส้นทางไม่ได้ ปรากฎว่า สายฝนโทรเข้ามาหาสามี ตนจึงรับสายแล้วบอกว่ายังไม่จบอีกเหรอ ก่อนที่ตนจะวางและปิดมือถือ

จากนั้นวันที่ 5 มีนาคม สามีตนหายตัวไป หลังจากที่บอกว่าจะออกไปเดินออกกำลังกาย พยายามติดต่อหาสามีหลายครั้งก็โทรไม่ติด จึงได้ออกตามหาก็ไม่เจอ ไปถาม รปภ.หน้าหมู่บ้าน จึงรู้ว่าสามีนั่งรถแท็กซี่ออกจากหมู่บ้านไป มีทรัพย์สินติดตัวไปด้วยเป็น

สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทองหนัก 2 บาทอีกหนึ่งองค์ เงินสดจำนวน 10,000 บาท แล้วยังพบว่าวันนั้นเงินในบัญชีจำนวนหนึ่ง ได้ถูกโอนไปให้กับ พี่เขยของ สายฝน อีกด้วย

หลังแจ้งความ ตำรวจช่วยติดตามและพบรถแท็กซี่ที่รับสามีไป จากนั้นจึงตรวจสอบเส้นทางพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้ไปส่งสามีกับนางฝน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งแถวตลาดพูนทรัพย์ เมื่อคืนวันที่ 5 มีนาคม

จากนั้นเช้าวันที่ 6 มี.ค. ทั้งคู่ได้ออกจากโรงแรมแล้วขึ้นรถแท็กซี่อีกคัน เพื่อไปส่งที่บริเวณท่ารถตู้ตรงข้ามศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต แต่กล้องบริเวณนั้นเสียจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าทั้งคู่ขึ้นรถตู้ไปที่ใด ซึ่งเจ๊ไก่กลัวว่า สามีจะถูกล่อลวง รวมทั้งอาจทำกันเป็นขบวนการ

ทั้งนี้ เจ๊ไก่ ประกาศถึงขั้นว่าถ้าใครเจอสามี จะให้เงิน 20,000 บาท 

ล่าสุด นายยุทธ พร้อม น.ส.สายฝน มาแสดงตัวที่ สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยนายยุทธ บอกว่า เป็นคนเรียกแท็กซี่มารับไปหา น.ส.สายฝน ที่ย่านวัดเสด็จ ที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพราะทนพฤติกรรมของภรรยาที่ด่าว่าทุกวันไม่ได้

ส่วนทรัพย์สินที่ติดตัวไป มีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และพระเลี่ยมทอง ซึ่งตนได้ขายสร้อยคอทองคำไปแล้ว และเป็นคนโอนเงินให้สายฝนเอง เพื่อใช้หนี้และเป็นค่าเดินทาง ทุกอย่างเป็นความคิดของตนเอง ไม่มีใครลักพาตัว หรือชักชวนไป ตนอายุ 50 กว่าแล้ว ไม่มีใครมาหลอกได้ ทุกวันนี้มีสติรู้เรื่องทุกอย่าง

ที่ไม่ติดต่อภรรยา เพราะไม่อยากคุยด้วยแล้ว ตนป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ภรรยาก็ไม่เต็มใจที่จะดูแล ทำเหมือนตนเป็นภาระให้เขา ซึ่งทรัพย์สินที่ตนเองมี เหลือแค่กรมธรรม์ หากตนเองเกิดอุบัติเหตุ ภรรยาก็จะได้เงิน 10 ล้านบาท ตนเองยืนยันว่า จะแยกทางกับภรรยาอย่างแน่นอน ไม่กลับไปหาเขาแล้ว ส่วนเรื่องจะไปอยู่กับสายฝนหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของอนาคต

ส่วน น.ส.สายฝน บอกว่า ภรรยาคุณยุทธได้มาคุกคามชีวิตครอบครัวของตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวอายุ 8 ขวบ และพี่ชายพี่สาว ไม่เป็นอันทำกิน และยังให้ตำรวจไปคอยตามหาลูกสาว 8 ขวบ และยังโทรหาคุณครูประจำชั้น จนลูกสาวไม่ได้สอบ เพราะครูห้ามไม่ให้ไปโรงเรียน กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ตอนที่นายยุทธมาหา เป็นการดูแลในลักษณะลูกจ้างกับนายจ้าง และเพิ่งจะมีความสัมพันธ์กับคุณยุทธ

ด้านเจ๊ไก่ บอกว่า วันนี้สามีเปลี่ยนไปเยอะมาก และเขาไปตกลงอะไรยังไงกัน ตนเองก็ไม่ทราบ จึงขอแยกทางกับสามี จบกันด้วยดี เพราะเขาเลือกที่จะไปตามทางของเขา ส่วนเรื่องทรัพย์สินก็ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อย บ้านและที่ดิน พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ห้องชุดที่หมู่บ้านเอื้ออาทรบ้านฉาง และหมู่บ้านเอื้ออาทรลาดหลุมแก้ว และกรมธรรม์ 10 ล้าน เขายกให้กับตนเองทั้งหมด.

https://youtu.be/5PIMh0mXkHA