ตาวัย 70 ช้ำรัก! แต่งสาว 19 แค่เดือนเดียวหนีมีชายใหม่ สาวอ้างทนไม่ไหวโดนดูถูก ตอนนี้มีแฟนใหม่แล้ว

ตาวัย 70 ช้ำรัก ผูกแขนขอสาวแต่งงานได้แค่เดือนเดียว อยู่ด้วยกันแค่ 5 คืน เมียสาวหนีเที่ยวทุกคืน กลับบ้านเช้า สุดท้ายถูกเมียตัดสัมพันธ์ อ้างทนไม่ไหวที่โดนดูถูก และมีแฟนใหม่แล้ว

นายชูชาติ วัย 70 ปี ชาวอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี มาร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว บอกว่า ตาได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมาก เพราะถูกเมียรัก ชื่อ น.ส.แพรพานทอง อายุ 19 ปี ชาวอำเภอบ้านไร่ หลอกทั้งเงินหลอกทั้งใจจนหมดตัว จากนั้นก็หนีไปอยู่กับแฟนใหม่

ตาชูชาติ เล่าว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม ตาชูชาติได้มาทำพิธีสู่ขอและผูกแขนกับพ่อแม่ของ น.ส.แพรพานทอง ด้วยสินสอดเงินสด 20,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท จากนั้นก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านของเมียสาว ที่บ้านใหม่คลองเคียน อำเภอบ้านไร่ ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เมียรักมาขอให้ลงทุนเลี้ยงหมู 50 ตัว เลี้ยงไก่ 500 ตัว และยังอ้อนให้ซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 ในราคา 20,000 บาท ให้ด้วย

หลังใช้ชีวิตอยู่กินได้แค่ 5 วัน เมียสาวก็เริ่มเปลี่ยนไป ชอบแอบหนีไปเที่ยว ไม่กลับบ้าน กลับมาอีกทีก็ตอนเช้า ทำพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด จนต้องโทรตามบ่อย ๆ สุดท้ายเมียรักบอกกลับมาว่า อยู่กับแฟนใหม่ มีแฟนใหม่แล้ว ทำให้ตาน้ำตาตกใน มานั่งคิดว่า หากเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว ก็กลับบ้านมาช่วยกันทำมาหากิน ตัวตาเองก็เป็นโรคเก๊า ที่สู่ขอผูกแขน ก็หวังจะฝากผีฝากไข้ยามเริ่มแก่ชรา แต่เมียสาวกลับมาทำอย่างนี้

แล้วก็มาคิดได้ว่า ถูกเมียสาวหลอกแน่ ๆ ผูกแขนกันแค่เดือนเดียว เมียไปปันใจให้ชายอื่นแล้ว ที่ผ่านมาตาเสียเงินให้แพรพานทองร่วม 2 แสนกว่าบาท ไหนจะค่าอาหารสัตว์ และยังมีเงินที่แพรพานทองหลอกขอไปแต่ละครั้งอีกหลายบาท

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ตาอดทนไม่ไหว จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองการุ้ง เรื่องที่แพรพานทอง เอามอเตอร์ไซค์ไปใช้ แล้วไม่นำมาคืน ซึ่งมอเตอร์ไซค์เป็นชื่อของตา ขณะที่พฤติกรรมของเมียสาว ไม่เคยคิดรักและห่วงตาเลย จึงต้องไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากเมียสาวนำมอเตอร์ไซค์ไปทำผิดกฏหมาย ตาก็ไม่มีส่วนรับรู้แต่อย่างใด จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้านที่อำเภอลานสัก ผ่านไปไม่กี่วัน แพรพานทองก็เอามอเตอร์ไซค์มาคืน

ตาชูชาติ ได้พูดทิ้งท้ายว่า "แพรพานทอง อย่าไปหาทำอย่างนี้กับใครอีกนะ มันบาป ขอให้ทำกับตาแค่คนเดียวพอ"

ระหว่างนั้นนายทุม เพื่อนสนิทของตาชูชาติ ซึ่งได้อยู่ร่วมงานวันผูกแขนด้วย ก็เอามาปลอบอกปลอบใจคุณตา พร้อมบอกว่า เคยบอกแล้ว หากจะหาแฟน ให้หารุ่นเดียวกัน อย่าไปหาเด็ก ๆ สุดท้ายก็ต้องมานั่งช้ำใจอย่างนี้

ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับ น.ส.แพรพานทอง ก็เปิดใจอย่างหมดเปลือก ว่า ผูกแขนกับตาเมื่อวันที่ 29 มกราคมจริง แต่ที่ทนอยู่กับตาไม่ได้ เพราะถูกตาดูถูกมาตลอด มากล่าวหาว่า เป็นคนอย่างว่า หาตังปุ๊บ ๆ ปั๊บ ๆ ก็ได้แล้ว แถมยังไม่ให้ออกไปไหน จะไปทำธุระก็ไปไม่ได้ จึงอยากขอแยกทางตัดขาดกับคุณตา เพราะอยู่ด้วยกันแล้วไม่เป็นอิสระเหมือนถูกกดดัน

ส่วนเรื่องเงิน และมือถือที่คุณตาให้ คุณตาให้ด้วยความเสน่หา ตนเองไม่เคยไปบังคับ หากเลิกรากันแล้ว ตนเองก็ขอใช้ในสิ่งที่ควรเป็นของตนเอง เพราะที่ผ่านมาก็เสียให้คุณตาไปแล้วเช่นกัน ส่วนเรื่องหมู 50 ตัว กับไก่ 500 ตัว ให้คุณตามาเอาคืนไปได้เลย เพื่อให้ทุกอย่างมันจบ เพราะตอนนี้ตนเองก็มีแฟนใหม่แล้ว และจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่

เช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของ น.ส.แพรพานทอง แต่ไม่เจอตัว เจอเพียงพ่อและแม่ของแพนพานทอง ซึ่งพ่อของแพรพานทอง บอกว่า ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก ว่าทั้งคู่จะครองรักกันได้นาน เพราะฝ่ายชายมีอายุถึง 70 ปี ส่วนลูกสาวอายุยังไม่ถึง 20 ปี แต่เห็นไปมาหาสู่กันหลายครั้ง เข้าตามตรอกออกตามประตู แล้วมาสู่ขอ ผูกแขนแหวนมือกัน และมีสินสอดมาอย่างถูกต้อง ก็เลยตามใจลูกสาว

เมื่อฝ่ายชายมาอยู่ที่บ้าน ก็มาลงทุนประกอบอาชีพ โดยซื้อพันธุ์ลูกหมู และพันธุ์ไก่มาเลี้ยง ก็ยังคิดว่าจะอยู่กันได้ แต่ด้วยวัยที่แตกต่างกันมาก ทำให้มีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน โดยเฉพาะลูกสาวยังอยู่ในวัยเที่ยว จึงอาจเกิดความหึงหวงจนเกินไป ทำให้เด็กไม่เข้าใจและออกจากบ้านไปเที่ยว เมื่อเจอชายอื่นที่หนุ่มกว่า หรือมีการเอาใจก็อาจจะเตลิดไป

แต่เรื่องที่อดีตลูกเขยไปร้องสื่อ ไปบอกว่า ลูกสาวหลอกลวง อันนี้ตนเห็นว่าไม่ควร ทำไมไม่มาพูดจากันดี ๆ หลังเป็นข่าวลูกสาวน่าจะเครียด เลยไม่กลับบ้าน มีเมื่อวานนี้ที่กลับมาเก็บเสื้อผ้า จากนั้นก็ไม่มาอีก ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนเรื่องหมู กับไก่ ได้โทรไปคุยกับตาชูชาติแล้ว ให้มาเอาคืนไป แต่ตาบอกว่า ไม่มีเล้า ไม่มีคอก สำหรับเลี้ยงสัตว์ พ่อของแพรพานทองก็ยืนยันว่า ไม่คิดเอาเป็นของตัว หากขายได้ ก็จะนำเงินส่วนที่ขายได้คืนตาชูชาติ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Ej_UTUHY54g