ตร.คุมตัวกะเทยไทย-ปินส์ แยกคนละชั้นสอบปากคำ กะเทยฟิลิปปินส์ ขนกระเป๋าออกโรงแรมกลับประเทศ

ตำรวจคุมตัวกะเทยทั้ง 2 สัญชาติไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดี แต่ต้องแยกกันสอบปากคำคนละชั้น หวั่นเปิดศึกอีกรอบ

ล่าสุดเช้าวันนี้ (5 มี.ค. 2567) ที่ สน.ลุมพินี เต็มไปด้วยกะเทย ชั้น 1 เป็นกะเทยไทย ซึ่งมีทั้งคนที่ถูกดำเนินคดี และคนที่มาให้กำลังใจ ส่วนชั้น 2 เป็นกะเทยฟิลิปปินส์ โดยการสอบปากคำกะเทยฟิลิปปินส์มีล่ามมาช่วยแปลภาษาด้วย

ทีมข่าวได้คุยกับกลุ่มกะเทยที่อยู่ใน สน.ลุมพินี กล่าวว่า ที่มา สน. เพราะต้องการจะเจรจาพูดคุยว่าคู่กรณีทำร้ายรุ่นน้องเธอเพราะอะไร ทั้งที่ฝ่ายเรายังไม่ได้ทำอะไรให้และที่ผ่านมาก็ต่างคนต่างอยู่ และครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำร้ายกัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ถูกกะเทยต่างชาติรุมทำร้ายกะเทยไทย แต่หากเจรจาก็คิดว่าเรื่องจะจบได้

เมื่อสอบถามว่ามีปัญหาอะไรกันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า กลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ทำงานมาตรงนี้หลายปี และกะเทยฟิลิปปินส์เพิ่งจะเข้ามาเช่าโรงแรมตรงที่เกิดเหตุ มักจะรวมตัวยืนกันที่หน้าโรงแรมเป็นประจำ และเมื่อกลุ่มกะเทยไทยเดินผ่านก็จะถูกแก๊งกะเทยฟิลิปปินส์กระทืบเท้ายกเท้าใส่ แล้วตะโกนด่าล้อเลียน ด่าทอ ตะโกนไล่ให้ออกจากพื้นที่เสมือนพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกะเทยฟิลิปปินส์ ที่ผ่านมาพวกเธอพยายามเดินเลี่ยงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่อง

และที่มา สน.ตอนนี้ อยากจะตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ว่าคู่กรณีมาก่อเหตุที่บ้านเรา ทำไมถึงปล่อยตัวให้ออกนอกประเทศได้ง่ายขนาดนี้ เธอได้โทรศัพท์สอบถามตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กลับชี้แจงว่า ตำรวจต้องออกหมายจับถึงจะควบคุมคู่กรณีได้ และต้องให้ตำรวจ สน.เป็นผู้ประสานงานไปเท่านั้น ทำให้รู้สึกหมดหวังในกฎหมายไทยและตำรวจไทย เพราะเป็นการรุมทำร้ายร่างกาย 20 ต่อ 6 แต่จับกุมคนร้ายได้เพียง 2 คนเท่านั้น

หลังจากนี้อยากให้ตำรวจพื้นที่ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบการเข้ามาของกะเทยฟิลิปปินส์ว่าเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ และเข้ามาทำอะไรอยู่เกินวีซ่าหรือเปล่า และขอฝากให้ไปตรวจสอบกับโรงแรมที่เกิดเหตุและดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง 12 วันก็จะรู้พฤติกรรมของกลุ่มฟิลิปปินส์กลุ่มนี้

ขณะที่บรรยากาศหน้าโรงแรมที่เกิดเหตุกลับมาเงียบสงบแล้ว เมื่อทีมข่าวสอบถามพนักงานของโรงแรม ไม่มีใครยอมให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกแต่เพียงว่าขณะนี้เหตุการณ์สงบลงเป็นที่เรียบร้อย และกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ก็ไม่ได้พักอาศัยที่โรงแรมแห่งนี้แล้ว พร้อมปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ โดยให้เหตุผลว่าเจ้าของโรงแรมไม่สะดวกให้ข้อมูลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าจะกระทบกับธุรกิจ

แต่ทีมข่าวสังเกตว่ามีรถแท็กซี่ขับมารับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบ แต่ไม่มีผู้โดยสารเดินทางไปพร้อมกับกระเป๋า ซึ่งได้ข้อมูลจากผู้ประกอบการภายในซอยดังกล่าวว่ากระเป๋าดังกล่าว น่าจะเป็นของกะเทยฟิลิปปินส์ที่มาพักที่โรงแรมแห่งนี้ก่อนหน้านี้ ส่วนปลายทางอาจจะเป็นสนามบิน เพราะเมื่อช่วงเช้ามีกะเทยฟิลิปปินส์บางส่วนที่ไม่ได้ถูกคุมตัวไปโรงพัก เรียกแท็กซี่เดินทางไปสนามบิน เพื่อกลับประเทศแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wpSMWAyU5WU