เพื่อนเล่าวินาทีช่วย 'น้องม่อน' พยายามดึงมือไว้ สุดท้ายจมน้ำต่อหน้า ติดใจครูฝึกอยู่ใกล้ทำไมไม่ช่วย

เพื่อนน้องม่อนเล่าวินาที ขณะลงไปช่วยเหลือน้องจมน้ำเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา พร้อมตั้งคำถามทำไมครูฝึกไม่ลงไปช่วย ขณะเจ้าของค่ายลูกเสือ ย้ำจุดน้องจมน้ำอยู่ด้านนอก ไม่เกี่ยวกับค่าย

จากกรณี น้องม่อน อายุ 18 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชั้นที่ ปี 3 สาขาคอมพิวเตอร์ จมน้ำเสียชีวิตระหว่างร่วมกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ ที่ค่ายลูกเสือแห่งหนึ่งใน ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจุดที่น้องม่อน จมน้ำเสียชีวิต อยู่ห่างจากค่ายประมาณ 50 เมตร อยู่นอกค่ายเป็นรอยต่อระหว่าง อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กับ ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

จากการสอบถามน้องหนึ่ง เพื่อนที่ลงไปช่วยเหลือน้องม่อน บอกว่าวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 16.30 น. ตรงตามกับโปรแกรมที่ทางวิทยาลัยจัดให้ โดยในตารางระบุจะพานักศึกษาไปเล่นบริเวณน้ำตก ซึ่งมีครูฝึกเป็นคนพาเด็กนักศึกษา 150 กว่าคนเดินทางไป หลังจากไปถึงนักศึกษาทุกคนก็ลงไปเล่นน้ำตามปกติ ซึ่งตนยืนอยู่ริมฝั่ง ตอนนั้นเห็นแล้วว่าม่อนได้ลงไปนั่งตรงโขดหินกับกลุ่มเพื่อนนับ 10 คน ก่อนที่ครูฝึกจะเดินมาบอกว่าหากใครว่ายน้ำไม่แข็ง อย่าไปไกลเนื่องจากจุดนั้นเป็นจุดน้ำลึก ซึ่งครูฝึกไม่ได้แจ้งกับนักเรียนทุกคนแค่พูดปากเปล่า

หลังจากนั้นไม่นานมีคนบอกว่ามีคนจมน้ำตอนนั้น คิดว่าเพื่อนเล่นกันหรือเปล่า แต่แค่เสี้ยววินาที ม่อนเริ่มถูกน้ำซัดออกไปห่างจากกลุ่มเพื่อน ทำให้ตอนนั้นเพื่อนทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก พยายามตะโกนเรียกว่าเพื่อนจมน้ำ ซึ่งขณะนั้นมีเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ม่อน พยายามเข้าไปช่วยดึงมือม่อนไว้และให้ม่อนเหยียบที่หลังแต่ก็ช่วยไม่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก

จังหวะเพียงเสี้ยววินาทีตอนนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไร ขณะที่ตนเห็นเพื่อนช่วยม่อนไม่ไหว ตนจึงตัดสินใจกระโดดลงน้ำเพื่อที่จะเข้าไปช่วยม่อน พอตนกระโดดลงไปในน้ำรู้สึกได้ถึงกระแสน้ำแรงมาก

ซึ่งตนเองพยายามว่ายน้ำไปช่วยม่อน ห่างกับม่อนเพียงนิดเดียว จะคว้าแขนของม่อนได้ แต่ม่อนกลับจมน้ำลงไปก่อน จากนั้นตนก็รีบว่ายน้ำขึ้นฝั่ง ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือม่อนไว้ได้ แล้วครูฝึกได้เรียกนักศึกษาทั้งหมดให้กลับไปค่าย ต่อมาก็มาทราบข่าวว่าม่อนเสียชีวิตแล้ว

หนึ่งบอกว่า ตนยังสงสัยว่าครูฝึกยืนอยู่ใกล้กับตน แต่ทำไมครูฝึกถึงไม่กระโดดลงไปช่วย ถึงช่วยได้หรือไม่ได้ก็ควรที่จะกระโดดลงไปช่วยม่อน ที่ตนพูดในวันนี้ เพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับม่อน อีกทั้งตนยังรู้สึกช็อกและเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือม่อนไว้ได้

ด้านนางสายพิน เจ้าของค่ายลูกเสือแห่งหนึ่งใน ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กล่าวว่า ลำธารที่น้องจมน้ำเสียชีวิต มีป้ายติดเขียนคำว่า เขตน้ำลึกอันตรายโปรดระวัง โดยลักษณะลำธารจะตื้นช่วงกลางจะเป็นคล้ายแอ่งโขดหินน้ำจะลึก 2-3 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายปณิธานจมน้ำเสียชีวิต

นางสายพิน ทางค่ายเป็นเจ้าของสถานที่ เหตุเกิดขึ้นเป็นวันที่ 2 ซึ่งมีการเข้าค่าย 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-15 พ.ย.66 เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ย. ช่วงเวลา 15.00 น. ขณะที่มีการเข้าฐานเสร็จแล้วน้องม่อนจะล้างตัว เพราะตัวเปื้อนโคลนกับเพื่อนและวิทยากร

ซึ่งขณะนั้น ตนไม่ทราบว่าน้องม่อนจมน้ำ มีคนมาบอกจึงรู้ ตนจึงได้ออกไปดู ลำธารน้ำจะอยู่นอกค่ายห่างออกไปกว่า 50 เมตร ซึ่งเป็นกิจกรรมไม่เกี่ยวกับค่าย

พร้อมยืนยันว่าวิทยากรเป็นของคณะของโรงเรียนจัดหามาไม่ใช่ของค่ายแต่อย่างใด ในการเข้าค่ายทุกฐาน จะไม่มีการบังคับเด็กนักเรียน อยู่ที่ความสมัครใจของเด็ก จะมีครูและวิทยากรดูแลตลอด

นางสายพิน กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าจุดที่น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิต อยู่นอกค่าย ไม่เกี่ยวข้องกับค่ายแต่อย่างใด ตนเข้าใจว่าคนเป็นพ่อแม่กำลังเสียใจยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง ตนไม่ได้ติดใจกับข่าวที่ออกไปทางโซเซียล เพราะกระแสข่าวที่ออกไปนั้น ทำให้ค่ายได้รับความเสียหายอย่างมาก

นางสายพิน กล่าวด้วยว่า อยากให้ทุกคนทราบข้อมูลที่แท้จริง ลำธารดังกล่าวเป็นลำธารสาธารณะ อยู่ในความดูแลของกรมอุทยานฯน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ซึ่งทางวิทยากรได้แจ้งกับเด็กแล้วว่าอย่าออกไปเล่นบริเวณน้ำลึก ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ตนจะไปร่วมงานศพของน้องม่อนด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VpTjklbfYJU