สังคม

ผู้เชี่ยวชาญยันไม่พบ ‘ครูกายแก้ว’ อยู่ในประวัติศาสตร์ ‘แพรรี่’ ซัด บ้าใหญ่แล้วบูชายัญหมา-แมว

โดย JitrarutP

16 ส.ค. 2566

1K views

“ผู้เชี่ยวชาญ” ยืนยัน ไม่พบ “ครูกายแก้ว” อยู่ในประวัติศาสตร์ ไม่เคยปรากฏในจารึกเขมรโบราณ ภาพฝาผนัง เมื่อ 500 ปีก่อน ในกำแพงนครวัด ไม่ใช่ปีกครูกายแก้ว แต่เป็นฤาษีการตวัดปลายผ้า ด้าน “แพรรี่” ซัดแรง บ้ากันไปใหญ่แล้ว สังเวยเลือด หมา-แมว บูชายัญ

กรณีมีกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อลูกศิษย์ครูกายแก้วบรมครูผู้เรืองเวทย์ โพสต์เรื่องราวชวนแตกตื่นตกใจหลังมีสมาชิกหลายคนพูดถึงเรื่องการบูชาครูกายแก้วด้วยการสังเวยชีวิตแมวหรือหมา เช่น สมาชิกคนนี้บอกว่าขอบคุณน้องๆ ทีมงานที่ตระเวนหาหมาแมวจรจัดมาให้นำไปบูชาครูกายแก้ว ขออนุโมทนาบุญกับน้องๆ สาธุ

สมาชิกอีกคนหนึ่งก็บอกว่า ที่ผ่านมาไหว้รูปปั้นหลวงพ่อคูณ หลวงปู่ทวด พระดังๆหลายองค์มาหลายปี ไม่เคยเจอโชค หลังเปลี่ยนมาไหว้บูชาครูกายแก้วได้ไม่ถึง 2 เดือนถูกหวย แต่รางวัลไม่ใหญ่มาก สามารถรับรู้ได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ครูกายแก้ว อิทธิฤทธิ์เหนือกว่าพระทุกองค์ในไทย เป้าหมายต่อไปรางวัลที่ 1 มีคนบอกให้ลองบูชายันต์ ลูกแมวแล้วจะได้ผลดี โพสต์ต่างๆเหล่านี้ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นถึงกับแตกตื่นตกใจว่ามาไกลถึงขั้นต้องบูชาด้วยการสังเวยชีวิต

ขณะที่ แพรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ก็ออกมาโพสต์ถึงประเด็นดังกล่าวด้วยโดยบอกว่า “บ้ากันไปใหญ่แล้ว เลอะเทอะ เปรอะเปื้อน ยุคเสื่อมศีลธรรมที่แท้ทรู อย่าหาทำนะคะ การทำลายชีวิตสัตว์อื่นถือเป็นบาปและไม่ก่อให้เกิดผลสำเร็จใดๆ การบูชายัญที่ถูกต้อง ในทางพระพุทธศาสนา คือการให้ชีวิตไม่ใช่การทำลายชีวิตคือการเจริญเมตตาแบ่งปันสิ่งของแก่บุคคลที่ควรให้ไม่ใช่การเส้นสมองบูชาอย่างที่ทำกันนะคะ”

อีกโพสต์ของแพรี่ บอกว่า จะกราบไหว้บูชาอะไรบางทีก็ควรศึกษาหาความรู้ก่อน ไม่ใช่กรูกันไปตามกระแสนิยมอย่างเดียว ไปไหว้ไปขอไปบูชาไม่รู้ว่าเอาอะไรใส่ตัวกลับมาบ้าง ดีหรือเปล่า เป็นมงคลหรืออวมงคล เป็นของดำหรือของขาว รู้แหละว่า การกราบไหว้บูชามันเป็นสิทธิและความเชื่อส่วนบุคคล แต่อะไรที่พอติพอเตือนกันได้ก็อยากติ อยากเตือนนะคะ

พร้อมแคปภาพโพสต์ของคน คนหนึ่งมาแปะไว้ด้วย โดยในภาพระบุว่าผมเขมรบุรีรัมย์อันนี้มาจากสายเขมรพอจะรู้บ้างในสายดำ (ครูสอน) ถ้าท่านดวงตกราศีไม่ดีหรือมีเคราะห์กรรมอย่าไปขอพรจากสิ่งนี้เด็ดขาด เขาคือนกผี หรือภาษาเขมรเรียกว่า กราบ ร้องเรียกดวงวิญญาณหรือถ้าได้ประสบความสำเร็จจากเขาแล้ว ต้องเลี้ยงเขาให้อิ่ม ถ้าไม่อิ่มเขาจะกินคนเลี้ยง เขมรเชื่อว่าเขาเป็นตัวแทนยมทูต

ด้านศาสตราจารย์ ธงทอง จันทรางศุ โพสต์ข้อความว่า ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ปรากฏข่าวเรื่อง ครูกายแก้ว ว่าเป็นรูปเคารพที่ได้รับความนับถือในหมู่คนจำนวนหนึ่ง นัยว่าครูกายแก้วนี้เป็นครูบาอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ผมยังไม่เคยเห็นหลักฐานยืนยันได้แน่นอนว่าเล่าลือกันมาจากที่ไหน ความเลื่อมใสในเรื่องอย่างนี้แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่สามารถบ่งบอกถึงความไม่มั่นคงทางจิตใจของสมาชิกในสังคมได้ในระดับหนึ่ง และถ้าไม่เกรงใจกันแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นระดับที่สูงมากเสียด้วย

รูปอะไรก็ไม่รู้ที่กราบไหว้กันอยู่นี้ มองในทางศิลปะก็สอบไม่ผ่านแน่ จะว่าเป็นมนุษย์ก็เห็นจะไม่ใช่ จะเป็นสัตว์ก็ไม่เชิง ผมยังนึกไม่ออกว่าการไปบูชารูปปั้นอย่างนี้จะเป็นสวัสดิมงคลได้อย่างไร แถมเกรงว่าจะเกิดผลตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ สำหรับประเพณีบ้านเมือง สถานการณ์อย่างนี้คล้ายกับที่คนแต่โบราณท่านพูดว่า ผีป่าก็จะวิ่งมาสิงเมือง ยิ่งนัก เฮ้อ

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กังวล คัชชิมา อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออก ผู้เชี่ยวชาญด้านจารึกเขมรโบราณ คณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดเผยว่าในประวัติศาสตร์จารึกเขมรโบราณหากย้อนไปในสมัยพระชัยวรมันที่ 7 หรือประมาณ 800 ปีก่อน ไม่ปรากฏหลักฐานหรือร่องรอยประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ อสูรเทพหรือบรมครูที่มีร่างกาย เหมือนกับครูกายแก้ว ในยุคพระชัยวรมันที่ 7 ปรากฏชื่อครูของพระชัยวรมันที่ 7 ในจารึกปราสาทตาพรหม 2 ท่านคือท่านศรีชยมังคลารถเทวะ

ส่วนภาพฝาผนัง ที่ปรากฏลักษณะคล้ายกับครูกายแก้ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กังวล กล่าวว่าอยู่ที่กำแพงนครวัดและสร้างขึ้น เมื่อ 500 ปีก่อนนี้เอง หลังจากยุคพระชัยวรมันที่ 7 และที่ปรากฏเป็นผ้าฤาษีตวัดปลายผ้า ทำให้เห็นคล้ายเป็นฤาษีมีปีก ซึ่งก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับครูกายแก้ว และในจารึกประวัติศาสตร์เขมร ถ้าเชื่อเรื่องการบูชายัญด้วยชีวิตได้ผลสูงสุดไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตสัตว์อื่นแต่บูชาด้วยร่างกายตัวเองนี่แหละเริ่มจากการตัดนิ้วก่อนเลยทั้ง 5 นิ้ว โดยมองว่าเรื่องครูกายแก้ว เป็นความเชื่อที่เกิดจากจินตนาการของผู้สร้าง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/3_taRMFQ8JY

คุณอาจสนใจ

Related News