‘แพรรี่’ เดินหน้าอุทธรณ์ หลังศาลยกฟ้อง ‘ลีน่าจัง’ ดึงวิกผม เจ้าตัวยันแค่หยอกล้อ ยังรักเหมือนลูกสาว

ศาลพิพากษา ยกฟ้อง ‘ลีน่าจัง’ ดึงวิกผม ‘แพรรี่’ เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อ ด้าน ‘ลีน่าจัง’ ยืนยันแค่หยอกล้อ ยังรักเหมือนลูกสาว

เมื่อเดือนเมษายน 2566 ‘แพรรี่ - ไพรวัลย์ วรรณบุตร’ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ‘ลีน่า จัง’ จากกรณีที่แพรรี่ถูกลีน่าจังดึงวิกผมจนหลุด ระหว่างถ่ายทำรายการของ ‘มดดำ คชาภา’ จนทำให้มีวิวาทะกันอย่างดุเดือด ถึงขั้นแพรรี่ประกาศลั่นไม่ขอร่วมงานกับลีน่าจังอีก และได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อปกป้องตัวเอง พร้อมบอกว่าไม่ควรมีใครถูกด้อยค่า ทำให้ถูกอับอาย และเป็นเหยื่อของคอนเทนต์แบบนี้ ขณะที่ลีน่าจังตอนนั้นก็ออกมายืนยันว่า เป็นการหยอกกันเล่น และรักเหมือนลูก พร้อมขอโทษที่อาจทำรุนแรงไป

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ศาลแขวงพระนครเหนือ นัดฟังคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขคดีดำที่ อ2212/2566 พิพากษายกฟ้องลีน่าจัง พร้อมระบุว่า การกระทำระหว่างโจทก์กับจำเลย แสดงให้เห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่แตกต่างจากที่โจทก์และจำเลย เคยหยอกล้อกันมาก่อน แม้การกระทำของจำเลยอาจทำให้โจทก์รู้สึกไม่พอใจก็ตาม แต่การจะถือว่าเป็นความผิดทางอาญาได้ ย่อมต้องฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาในการกระทำผิดด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

หลังจากนั้น แพรี่ก็ได้ออกมาโพสต์คำตัดสินของศาลบนเฟซบุ๊กของตัวเอง ระบุข้อความว่า “ศาลชั้นต้นยกฟ้องคดีที่ดิฉันถูกกระชากวิก ศาลแขวงพระนครเหนือ นัดฟังคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขคดีดำที่ อ2212/2566 ในวันนี้ มีใจความโดยสรุปว่า การกระทำระหว่างโจทก์กับจำเลย แสดงให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวไม่แตกต่างจากที่โจทก์และจำเลยเคยหยอกล้อกันมาก่อน... แม้การกระทำของจำเลยอาจทำให้โจทก์รู้สึกไม่พอใจก็ตาม

แต่การจะถือว่าเป็นความผิดทางอาญาได้ ย่อมต้องฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาในการกระทำผิดด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

ดิฉันน้อมรับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น แต่ไม่ดิฉันไม่เห็นพ้องด้วย จึงจะขอใช้สิทธิ์อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้สังคมต่อไปค่ะ ป.ล.โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำสุภาพนะคะ”

และต่อมาแพรรี่ก็ได้ไลฟ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขายสินค้า พร้อมกับตอบคำถามกับแฟนคลับที่เข้าสอบถามเรื่องคดี แพรรี่บอกว่า เมื่อฟังคำพิพากษาคำตัดสินของศาลแล้ว เธอก็เคารพและน้อมรับคำตัดสิน แต่ว่าไม่เห็นพ้อง เธอก็จะใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยให้ทนายเป็นคนจัดการ ส่วนตัวเธอไม่ได้ทำเพื่ออะไร แต่ทำเพื่อปกป้องสิทธิของเราที่กฎหมายแบบให้การคุ้มครองเราไว้ พร้อมขอบคุณที่วันนี้ทุกคนที่เข้ามาให้ความให้กำลังใจเยอะ รู้สึกว่ามันแพ้เราก็ต้องยอมรับว่าแพ้ และไม่ได้รู้สึกว่าต้องมาอายที่แพ้คดี

ขณะที่ลีน่าจังก็ได้เปิดใจกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า ขอกราบขอบพระคุณศาลอย่างสูง ที่ให้ความเมตตา และให้ความเป็นธรรม เพราะว่าในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า พยานของแพรรี่ได้มาเบิกความว่ามีผู้เข้าร่วมถ่ายทำรายการทั้งหมดทุกคนหัวเราะสนุกสนาน หยอกล้อเล่นกัน แล้วไม่มีใครคิดว่า แพรรี่จะโกรธ จนกระทั่งทีมงานทุกคนกลับไปหมดแล้ว ถึงแจ้งให้ทราบว่าแพรรี่โกรธ และแจ้งให้อัดคลิปขอโทษในวันต่อมา

จากนั้นศาลจึงวินิจฉัยว่า การที่พยานมาเบิกความแบบนี้ ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไร และไม่ได้เป็นศัตรูกับฝ่ายใด เพราะฉะนั้นจึงน่าเชื่อถือ จึงพิพากษาว่า ไม่มีเจตนาจริงๆ ที่จะไปทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญตามที่ที่ถูกฟ้อง คดีนี้ ลีน่าจังบอกว่าถูกฟ้องในข้อหาทำให้เดือดร้อนรำคาญ โทษตามกฎหมายปรับ 5,000 บาท แต่แพรรี่ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าศาลยกฟ้องเพราะเห็นว่าโจทก์และจำเลยได้หยอกล้อเล่นกันแบบนี้มาเป็นประจำ เล่นกันแรงๆ ไม่มีเจตนาไปทำให้เดือดร้อนรำคาญ หรือได้รับความเสียหายจึงไม่ต้องรับโทษ และไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายกับค่าธรรมเนียม

ลีน่าจัง บอกอีกว่า ยืนยันมาตลอดว่าเป็นการหยอกล้อกัน รักเขาเหมือนลูกสาว เขาน่ารัก อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาด่ามาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่เคยคิดแจ้งความ แม้แต่ตอนเขาเป็นพระ ก็อ่านข่าวตลอด แม้ตอนสึกออกมาก็ยังอ่านข่าวปกป้องเขาอยู่เลย จึงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่มองเขาเป็นลูกสาว น่ารัก แต่งตัวเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ แต่ไม่รู้ทำไมเขาคิดมาก บอกว่าไปละเมิดสิทธิของ LGBTQ ซึ่งก่อนหน้านี้ในฐานะนักกฎหมาย เธอต่อสู้เรื่องนี้มาเช่นกัน

พร้อมยืนยันว่า ตอนนี้ก็ยังรักอยู่ แต่เสียใจที่ว่าทำไมไม่รู้จักจบ มันควรจะจบได้แล้ว และศาลตัดสิน ไม่ได้ตัดสินจากฝั่งตนเองเลย ตัดสินจากพยานที่มาจากโปรดิวเซอร์รายการที่เขาเอามา ซึ่งมองว่าก็ยุติธรรมแล้ว แต่ก็เป็นสิทธิของเขาเช่นกันที่จะยื่นอุทธรณ์ ขณะเดียวกันในความเป็นจริงตนสามารถฟ้องกลับได้ แต่ยืนยันจะไม่ฟ้องกลับ

ลีน่าจัง ยังได้เล่าย้อนกลับไปว่า ตอนเกิดเรื่องแรกๆ ถึงขั้นป่วยเป็นซึมเศร้า โดนแฟนคลับเขาด่า แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว และรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรม และได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่ตนเองทำ ไม่ได้ทำไปเพราะกลั่นแกล้ง แต่ทำไปเพราะรักเหมือนลูกสาว

ถามว่ามีอะไรอยากฝากถึงแพรรี่หรือไม่? ลีน่าจังถึงขั้นร้องหูย และบอกว่า ไม่กล้าฝากหรอก เดี๋ยวเขาไม่พอใจ แต่ขอฝากให้ข้อคิดก็แล้วกันว่า “ให้ใจเย็นๆ อะไรที่ผ่านมาแล้ว มองโลกในแง่ดี อย่าคิดว่าคนที่ล้อเล่นกับคุณ จะไปดูถูกคุณ มันไม่ใช่หรอก เขารักคุณ ถ้าเกลียดเขาจะไม่เอ่ยถึงเลย”

พร้อมกันนี้ ลีน่าจังยังบอกอีกว่า หลังจากที่ถูกฟ้อง ก็ได้ยื่นฟ้องกลับเช่นกัน 3 คดี ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาทั้งหมด เพราะถูกไลฟ์ด่าเยอะมาก ซึ่งคดีอยู่ในกระบวนการชั้นศาลแล้ว รอนัดสืบพยานปีหน้า และทั้ง 3 คดีนี้ได้เรียกค่าเสียหายรวมกัน 5 แสนบาท

เมื่อถามว่าจะเดินหน้าทางคดีให้ถึงที่สุดเลยหรือไม่ ลีน่าจัง บอกว่า ถ้าเขามาขอโทษ เจรจาค่าเสียหาย ก็จะถอนฟ้องให้หมดทั้ง 3 คดี