ชาวบ้านโวย ตร.หลักสอง จับปรับ-ล็อกล้อรถจอดหน้าบ้าน งง! รถจอดรับส่งเด็ก ทำรถติดทำไมไม่จับ

ชาวบ้านโวยวายตำรวจจราจร สน.หลักสอง จับปรับ-ล็อคล้อ จอดรถกีดขวางภายในซอย ทั้งที่จอดหน้าบ้านตัวเอง ขณะที่บรรดาผู้ปกครองมาจอดเพื่อรับส่งเด็กทำรถติดกลับไม่จับ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ

ชาวบ้านในซอยเพชรเกษม 102/1 ไม่พอใจที่ตำรวจจะมาล็อคล้อรถของชาวบ้านทุกคันที่อยู่ในซอย โดยให้เหตุผลว่าจอดรถกีดขวางการจราจร ซึ่งชาวบ้านมองว่าพวกเขาอาศัยอยู่มาก่อน และจอดมาตลอด แต่พอโรงเรียนเปิด รถในซอยติดขัดเพราะรถผู้ปกครองที่มาส่งนักเรียน แต่ชาวบ้านกลับต้องมารับกรรม ซึ่งชายที่อยู่ในคลิปที่กำลังมีปากเสียงกับตำรวจ สน.หลักสอง คือ นาย พีร์ โรจนดารา อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค พรรคไทยสร้างไทย

วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ภายในซอยเพชรเกษม 102 ตั้งแต่เช้า พบว่าในซอยมีรถจอดจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นรถของชาวบ้าน และบริษัทที่อยู่ภายในซอย ซึ่งโรงเรียนจะอยู่ด้านหลังปั๊มน้ำมัน ใกล้กับปากซอย แม้ทางโรงเรียนจะเช่าพื้นที่จอดรถไว้รองรับรถของผู้ปกครองแล้ว แต่ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ปกครองหลายคนเลือกจอดรถริมกำแพงบริเวณหน้าบ้านชาวบ้าน โดยเฉพาะช่วงเลิกเรียนที่มีผู้ปกครองบ้างส่วนมาจอดรอรับบุตรหลานล่วงหน้าเป็นชั่วโมง

หากดูจากแผนที่จะเห็นว่าที่ตั้งของโรงเรียนสามารถเข้าไป 2 ทาง คือ ซอยเพชรเกษม 100 และซอยเพชรเกษม 102 เพราะเป็นถนน 2 เลนสวน แต่ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนขอความร่วมมือคนในชุมชนให้วิ่งเป็นวันเวย์ คือ เข้าทางซอยเพชรเกษม 102 แล้ว ออกซอยเพชรเกษม 100 เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในซอย เนื่องจากเป็นซอยแคบ และมีรถจอดในซอยด้วย พร้อมขอความร่วมมือให้รถที่จอดในซอยให้จอดฝั่งซ้ายเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่า วิ่งวันเวย์เฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน คือ เวลาเข้าเรียนและเลิกเรียนเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าโรงเรียนปรับเป็นทางวิ่งวันเลย์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน

นาย พีร์ ยอมรับว่า 1 ในสาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านมีปากเสียงกับตำรวจเมื่อวานนี้ เพราะรถยนต์ที่บริษัทของเขาจอดทางขวาแล้ว ขณะที่ฝั่งซ้ายก็มีรถยนต์ของผู้ปกครองหรือโรงเรียนมาจอดยาวจนถึงจุดที่รถที่บริษัทเขาจอด ทำให้เลนการจราจรโดนเบียดแคบลง แต่รถก็ยังวิ่งผ่านไปได้ สักพักตำรวจจราจรมาเคลียร์และเกิดมีปากเสียงกัน เพราะตำรวจบางคนขู่ว่าจะล็อคล้อรถทุกคันในซอยที่จอด ยิ่งทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ เพราะพวกเขาอาศัยอยู่มามากกว่า 70 ปี แต่โรงเรียนเพิ่งมาเปิดได้เพียง 30 ปี แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในชุมชน

นาย พีร์ ยังตั้งคำถามว่า เวลาฝนตก ทางโรงเรียนจะใช้วิธีเปิดประตูที่อยู่ในซอยเพชรเกษม 102 เพื่อให้รถผู้ปกครองเลี้ยวเข้าไปรับบุตรหลานภายในโรงเรียน และขับออกทางประตูที่ซอยเพชรเกษม 100 ได้ ซึ่งวิธีนี้จะไม่มีผลกระทบกับคนในซอย แต่เวลาปกติทำไมถึงไม่ใช้วิธีนี้

ขณะที่ 1 ในชาวบ้าน บอกว่า เดือดร้อนเรื่องปัญหาการจราจร มาหลายปี เพราะบ้านเธอใช้รถจักรยานปั่นเข้าออกซอย มักจะเจอปัญหาเรื่องรถผู้ปกครองขี่เร็ว เกือบเฉี่ยวชนหลายครั้ง รวมถึงรถที่เข้ามาในซอยเยอะมาก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อยากขอให้โรงเรียนเห็นใจชาวบ้านด้วย

ด้านคุณครูจินดา ตำแหน่งผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดการ การจราจรของทางโรงเรียน และเป็นตัวกลางในการเข้ามาคุยกับทางประชาชนภายในซอยอยู่บ่อยครั้ง อธิบายกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากทางชาวบ้าน ก็ได้หาทางแก้ไขปัญหามาตลอด ทั้งทำโครงการรับบัตรคิวให้กับทางผู้ปกครอง เพื่อให้วนรถมารับตามบัตรคิว ลดเวลาในการจอดรถรับนักเรียนให้น้อยที่สุด และกำชับพนักงานของทางโรงเรียนทุกคนว่า หากสังเกตเห็นรถภายในซอยต้องการจะออกจากในซอย ให้รีบเปิดการจราจรอำนวยความสะดวกให้เร็วมากที่สุด

พันตำรวจเอก วุฒิไกร จตุรงค์เสรีกุล ผู้กำกับการ สน.หลักสอง ระบุว่า เบื้องต้นจะเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยจะขอให้เปิดวิ่งวันเวย์ในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น รวมถึงจัดวิธีการจอดรถให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8nXGZnMr64g