สาวโวย โดน ‘สาวห้าว’ ขับเก๋งปาดหน้าจนรถบุบ เหตุกระพริบไฟเตือน งง ตร.ไม่รับแจ้งความ

สาวโวย โดน “สาวห้าว” ขับรถเก๋งปาดหน้าหาเรื่องกว่า 10 กิโลเมตร เพราะไม่พอใจที่กระพริบไฟเตือนเรื่องขับรถ สุดท้ายชนกลางถนนพุทธมณฑลสาย 4 จนรถสาวห้ามหมุนกลางถนน แต่พอไปแจ้งความตำรวจกลับยังไม่แจ้งข้อหา

คุณผู้ชมสังเกตรถยนต์คันสีแดงที่ขับอยู่หน้ารถคันนี้จะเห็นว่า ขับปาดซ้ายปาดขวาไปมา อยู่บนถนนด้วยความเร็ว ทั้งที่ขณะนั้นมีรถอยู่บนถนนจำนวนมาก คล้ายกับจงใจปาดหน้าเจ้าของรถยนต์ที่มีกล้องหน้ารถ แล้วมีจังหวะหนึ่งที่รถคันแดงเบี่ยงมาทางขวา ทำให้โดนรถยนต์คันนี้ชนท้าย จนเสียหลักเบี่ยงเข้ามาในเลนอีกครั้ง ทำให้โดนชนเป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะเสียหลักอีกครั้งทำให้โดนชนเป็นครั้งที่ 3 ครั้งนี้ชนเข้าที่ประตูฝั่งขวาหลังทำให้รถคันสีแดงหมุนกลางถนน และจอดนิ่ง จากนั้นมีผู้หญิง 2 คน จะลงมาจากรถฝั่งประตูคนนั่ง เพราะประตูคนขับถูกชนติดกับรถอีกคันเปิดประตูไม่ได้ ซึ่งคนขับที่เดินลงมาโวยวายเป็นสาวห้าว เสียดายที่กล้องหน้ารถไม่บันทึกเสียงทำให้ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 6 โมงครึ่งของวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา

แต่สุดท้ายเรื่องนี้ไปจบลงที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ ผู้หญิงเจ้าของรถยนต์ที่มีกล้องหน้ารถกลับไปม่พอใจที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ไม่ดำเนินคดีกับคนขับรถสีแดง ทั้งที่ขับรถปาดไปปาดมาจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทั้งที่เธอมีกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ได้ทั้งหมด จึงนำเรื่องมาโพสต์ในเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์นพาร์ท 6

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยกับเธอ บอกว่า วันเกิดเหตุเธอขับรถมาจากห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้า มุ่งหน้าพุทธมณฑลสาย 4 พอถึงถนนกาญจนาภิเษก เจอรถยนต์คันสีแดงคันนี้ ขับปาดไปมาอยู่ข้างหน้าดูแล้วอันตราย จึงกระพริบไฟหน้าเตือนไป 1 ครั้ง และตั้งแต่ตรงนั้นทำให้รถยนต์คันนี้พยายามขับรถปาดหน้ารถของเธอไปมาอยู่หลายครั้ง ยังเบรกให้เธอชนท้ายหลายครั้ง รวมระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ รถคันสีแดงก็เบียดเข้ามาในเลนเธอทำให้เบรกไม่ทัน จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นตามคลิป แต่พอไปถึงสถานีตำรวจ พนักงานสอบสวนกลับไม่แจ้งข้อหาเอาผิดคนขับรถคันสีแดง และยังบอกว่าให้เวลาคู่กรณีไปหาพยานหลักฐานก่อน ซึ่งเธอมองว่าแบบนี้เป็นการประวิงเวลา และช่วยเหลือคู่กรณีหรือไม่

ขณะที่ทีมข่าวติดต่อไปยัง พันตำรวจเอก จุลภณ มีชำนาญ ผู้กำกับการ สภ.พุทธมณฑล บอกว่า พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานสภาพแวดล้อม เนื่องจากว่าไม่ใช่คดีจราจรตามปกติ เพราะทั้งคู่ขับปาดกันไปมายาวไกลถึง 10 กิโลเมตร ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องอาศัยพยานแวดล้อมมาตรวจสอบว่าใครที่เข้าข่าย ในการกระทำความผิดในครั้งนี้ จากนั้นจะแจ้งข้อกล่าวหา

https://youtu.be/0n8MHsdBw4Q