ญาติร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ปมสาวปล่อยปลาดับปริศนา มีสารพิษในร่างกาย ล่าสุด ตร.รวบ 'แอม' พร้อมขวดไซยาไนต์

จากกรณี สาววูบเสียชีวิต ขณะทำบุญปล่อยปลา ขณะเดียวกันก็มีญาติของผู้เสียหายจำนวนมาก ล่าสุดญาติของผู้เสียชีวิตรวมตัวมา ร้องขอความเป็นธรรมกับบิ๊กโจ๊ก

เมื่อวานนี้ แม่และพี่สาว ของก้อยเดิน ทางมาที่สโมสรตำรวจเพื่อขอเข้าพบพลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ และขอให้ตำรวจส่วนกลางเข้าไปช่วงช่วยคลี่คลายคดีนี้เพราะเชื่อว่าการเสียชีวิตของนางสาวก้อยไม่ใช่การเสียชีวิตจากโรคประจำตัว แต่เชื่อว่าเป็นการถูกฆาตกรรม

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับเรื่องไว้ พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้รับทราบเรื่องนี้ในเบื้องต้นแล้ว ก็ เกิดความสงสัยในหลายประเด็นจากการที่ดูข่าวและกล้องวงจรปิด จึงเรียกผู้กำกับการสภ.บ้านโป่ง และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เข้ามาสอบถามแล้ว

ในคดีนี้มีหลายส่วนที่เป็นข้อพิรุธ และยังพบความเชื่อมโยงว่าอาจมีหลายคดีที่มีลักษณะการเสียชีวิตคล้ายกันและมีผู้เกี่ยวข้องคนเดียวกันอยู่ในเหตุการณ์ จึงสั่งชุดทำงานเริ่มตรวจสอบ ตั้งแต่แรก ร่วมถึงคดีเก่า ๆ ด้วย แต่อันดับแรกต้องตั้งหลักที่สาเหตุการเสียชีวิตของน้องก้อยก่อน จากการชันสูตรพลิกศพ ว่าการเสียชีวิต เกิดจากสารพิษหรือไม่

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องสงสัย มีอดีตสามีเป็นถึงรอง ผู้กำกับสภ.บ้านโป่งนั้น ทางญาติไม่ต้องกังวลใจ

ส่วนกรณีผลชันสูตรเบื้องต้นเรื่องสารพิษ หรือสารเคมี ที่พบในร่างกายของผู้เสียชีวิตนั้น ต้องบอกว่า จริงๆสารที่ส่งผลให้หัวใจวายเฉียบพลัน มีอยู่หลายตัว ทั้งนี้ต้องไปดูอีกทีว่าหากมีการก่อเหตุใช้สารพิษจริง ผู้ก่อเหตุใช้สารตัวไหน

เบื้องตนต้อนนี้ได้รับการประสานมาแล้วมีผู้เสียชีวิต 4ราย แต่ต้องดูว่าจะมีมาร้องเรียน ส่วนที่ญาติผู้ตายบางส่วนไม่กล้าเข้ามาให้ข้อมูล ตนอยากให้มั่นใจ เพราะตนเรียกสำนวนมาดูเองแล้ว อยากให้เข้ามาให้ข้อมูลกันเยอะ จะได้เป็นประโยชน์ต่อคดี

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ บอกอีกว่า จากที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้ต้องสงสัยเดินผ่านที่เกิดเหตุ ก่อนจะหันไปดูแต่ไม่ได้ให้การช่วยเหลือและเดินเลยออกไป ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่เป็นพิรุธ เพราะโดยปกติแล้ว คนเราจะไม่ปล่อยให้ใครตาย

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวของเหยื่อที่เคาดว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนางสาว อ. มาให้ข้อมูลกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่มเติม

โดยครอบครัว ของนางสาวกะณิกา อายุ 44 ปี คาดว่าเสียชีวิตปริศนาเหมือนนางสาวก้อย

โดยครอบครัว นางสาวกะณิกา บอกว่า นางสาวกะณิกา รู้จักกับนางสาว อ.ผ่านทาง facebook ซึ่งแอมติดต่อมาพูดคุยลักษณะชวนทำบุญแก้กรรมเสริมดวง จากนั้นรู้จักกันได้ประมาณ 6 เดือนจึงนัดกันไปทำบุญ วันที่ 11 กันยายน 2565 โดย นางสาวกะณิกา ไปคนเดียวและนัดเจอกันที่ ปั๊ม ปตท. บริเวณวงเวียน โพธาราม จังหวัดราชบุรี

จู่ๆนางสาวกะณิกา เป็นลมสลบไปและเสียชีวิตซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้นขณะนั้น ระบุว่ามีเลือดออกที่สมองและภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย จึงทำพิธีฌาปนกิจศพตามศาสนา โดยที่นางสาวแอมไม่เคยมาร่วมงานหรือแสดงความเสียใจ

ทางครอบครัวพยายามติดต่อไปสอบถามว่าวันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้นกับนางสาวกะณิกา และมีทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือของผู้ตายรวมถึงทองรูปพรรณหลายเส้นหายไปด้วย แต่ น.ส.อ.ก็ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล บอกเพียงว่ามีสามีเป็นตำรวจยศใหญ่ จนกระทั่งทางครอบครัวมาเห็นข่าวของนางสาวศิริพรหรือก้อยเคสล่าสุดจึงเกิดความสงสัยและเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม

สำหรับ ผู้เสียชีวิตลักษณะคล้ายกัน ประมาณ 5 รายประกอบด้วย

1. วันที่ 10 สค 2565 ร้อยตำรวจเอกหญิง กานดา โตไร่ รองสารวัตร ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 10สค 2565 หลังจากสนิทสนมกับนางสาวออ และร่วมลงทุนเล่นแชร์ โดยร้อยตำรวจเอกหญิงกานดาเป็นคนออกทุนให้

2.เดือนกันยายน 2565 ข้าราชการครูรายหนึ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายน 2565โดยมีรายงานว่าข้าราชการคนนี้ได้นำทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 30 บาทให้กับนางสาวออเพื่อนำไปลงทุนทำธุรกิจเงินกู้และแชร์

3. 12 มีนาคม 2566 ชายคนสนิท เสียชีวิตที่อุดรธานี โดยอ้างว่าขวนไปทำบุญแล้ววูบ หัวใจวายเฉียบพลันได้เงินจากญาติให้เพราะบอกว่าต้องกับชายคนนี้ ทอง8บาท เงินสดจำนวนหนึ่ง พระเครื่อง มีมูลค่า1องค์

4. 1เมษายน 2566 พันตำรวจตรีหญิงนิภา หรือสารวัตรปู สารวัตรกองบังคับการอำนวยการตำรวจสอบสวนกลาง สนิทสนมกับนางสาวออ ชวนไปทำบุญ และเป็นลม เสียชีวิตที่วัดองค์พระ จ.นครปฐม เสียชีวิตด้วยอาการ หัวใจวายเฉียบพลัน มีทรัพย์สินสูญหาย

5. 14 เมษายน 2566 นางสาวก้อย ชวนบลทนเล่นแชร์ มีการยืมเงิน และชวนไปทำบุญปล่อยปลา ก่อนจะเป็นลมแลภเสียชีงิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ทรัพย์สินสูญหายแสนเจ็ด

แหล่งข่าวระดับสูง ยังยอมรับด้วยว่า ในอดีตมีผู้เสียชีวิตจากการฆาตกรรมโดยใช้สารกลุ่มไซยาไนต์ถึง 2 รายที่ส่งมาให้ รพ.ตำรวจ ผ่าพิสูจน์เมื่อหลายปีมาแล้ว

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย ในลักษณะคล้ายกัน และตัวสาวผู้ต้องสงสัยอาจจะเกี่ยวข้องด้วย ต้องมีการตรวจสอบผลการชันสูตรของทั้ง 6 ศพย้อนหลังว่า เสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร และมีสารพิษหรือไม่ จึงจะสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่

ล่าสุด กองปราบฯ รวบ 'แอม' พร้อมของกลางขวดไซยาไนต์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังจับกุม นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1285/2566 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2566 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลาง ขวดไซยาไนด์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า น.ส.สรารัตน์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร จริง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นางสรารัตน์ ได้ที่ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม.

จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าเชื่อว่า นางสรารัตน์ น่าจะเป็นผู้นำไซยาไนด์( Cyanide ) ซึ่งเป็นสารเคมีอันตราย ผสมใส่อาหารให้ผู้ตายรับประทาน เพื่อหวังลักทรัพย์สินมีค่าต่างๆของผู้ตาย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบปากคำยังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0vjTgMKlmpo