พ่อร่ำไห้ตัดพ้อ หลังลูก ม.3 ผูกคอดับ ทิ้งจม.ถูกเพื่อนบูลลี่ วอนหยุดทำร้าย ขอลูกเป็นเคสสุดท้าย

สุดสลด เด็กหญิงชั้น ม.3 ผูกคอตายในห้องนอน พร้อมทิ้งจดหมายลาตายถูกเพื่อนบูลลี่ แถมเป็นซึมเศร้า หลังน้องตายยังมีคนจิตใจสกปรก แชร์ข่าวน้องพร้อมโพสต์บูลลี่ซ้ำ พ่อร่ำไห้ตัดพ้อหยุดทำร้ายลูกสาว ด้านเพื่อนโชว์จดหมายกิจกรรมวันเด็ก น้องเขียนตัดพ้อครอบครัว ไม่เคยมีค่า ไม่ใช่คนสำคัญ


เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ที่ตำบลทับกระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา น้องที่เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ย่าง 15 ปี ผูกคอตายอยู่ในห้องนอน ซึ่งพ่อของน้องบอกว่า ตอน 7 โมงเช้าเมื่อวานนี้ ลูกสาวยังออกมานั่งผิงไฟด้านนอกบ้าน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน กระทั่ง 8 โมง พ่อเดินเข้าไปหาลูกสาว กลับพบว่า ลูกสาวผูกคอเสียชีวิตไปแล้ว


และยังพบจดหมายลาตาย เขียนด้วยลายมือเป็นตัวหนังสือสีแดง ระบุว่า "ไม่ต้องโทษใครนะ ให้โทษตัวหนู ที่เป็นตัวปัญหาของเรื่องทั้งหมด ในเมื่อเป็นตัวปัญหาแล้ว งั้นหนูขอสร้างปัญหาสุดท้าย ต่อไปมันจะได้ไม่มีปัญหา หนูเองก็จะได้ไม่สร้างปัญหาให้อีกไง หนูก็จะได้ไปอยู่ในที่ที่หนูอยากไป มันไม่ใช่เรื่องครอบครัวแค่เรื่องเดียว มันมีทั้งเรื่องที่โรงเรียนที่หนูโดนบูลี่ โดนดูถูก โดนว่าหน้าตา หนูเก็บกดมาตลอดแต่ไม่อยากบอกใคร การเป็นโรคซึมเศร้ามันทรมานนะ และขอโทษด้วยนะที่ทำแบบนี้ ลาโลก จาก..."


ที่แย่ไปกว่านั้นคือ หลังจากน้องเสียชีวิต เพื่อน ๆ ได้โพสต์ RIP ไว้อาลัยให้น้อง แต่กลับมีเฟซบุ๊กปริศนา มาแชร์โพสต์ต่อ พร้อมระบุข้อความว่า ตอนมีชีวิตกลิ่นเปรี้ยวยังแรงขนาดนี้ เป็นศพจะขนาดไหน ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนหนึ่ง ขึ้นรถทัวร์ไปตำหนิเฟซบุ๊กดังกล่าว


ก่อนที่เจ้าตัวจะมาโพสต์ว่า "งงครับ อยู่ดี ๆ ก็มีทัวร์มาลง มาด่าผมเต็มหมดเลย ถ้าจะด่าไปด่าอีกคนในร่างผมนะครับ ผมเป็นโรคมีหลายบุคลิก ตอนนั้นผมไม่ได้สติว่าไปทำอะไรให้คนพวกนี้โกรธ"


นอกจากนี้ยังอีกเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อคล้ายกันกับเฟซบุ๊กแรก แค่สลับตำแหน่งชื่อกับนามสกุล มาโพสต์ว่า "ไม่ใช่ผมเน้ออย่าด่ากันให้มาก ด่ามาด่ากลับนะบอกก่อน 555 คนอะไรจะทิ้งวาร์ปให้คนมาด่าตัวเอง ชาวเน็ตก่อนทัวร์คิดหน่อยเว้ย"


ขณะที่ชาวเน็ต ต่างช่วยกันขุดประวัติเฟซบุ๊กรายนี้ พร้อมบอกว่า เคยเห็นไปโพสต์ว่าคนอื่นมาแล้วหลายครั้ง พอทัวร์ลงก็ปิดบัญชีหนึ่ง แล้วไปโพสต์อีกบัญชีหนึ่งที่ชื่อคล้ายกัน


เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปที่งานศพของน้อง พบกับนายทวีวัฒน์ อายุ 45 ปี พ่อของน้อง บอกว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน ตนต้องออกไปหาปลาให้ลูกสาวนำไปขายตามบ้าน ส่วนตนเองก็เอาไปขายที่ตลาด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว วันเกิดเหตุ เพิ่งกลับจากขายปลา ซึ่งปกติลูกสาวจะเลื่อนมอเตอร์ไซค์ที่จอดในโรงรถ เพื่อหลบให้รถเข้าไปจอดได้ แต่วันเกิดเหตุไม่ได้เลื่อนมอเตอร์ไซค์ให้ จึงไปหาลูกสาวในห้องนอน แต่พบว่าลูกสาวผูกคอแล้ว


จึงเรียกเมีย ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของลูกมาช่วยตัดเชือกลงมา ก็พบว่า ลูกเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนจดหมายลาตาย ก็พบที่โต๊ะทำการบ้าน ตนมีลูกสาวคนเดียวที่รักมาก แต่ลูกไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง ถึงตัวเขาจะอ้วนหน้าตาไม่ดี ทำไมสังคมถึงไม่ยอมรับ อยากฝากบอกเพื่อน ๆ ที่บูลลี่ว่า คุณไม่เจอสภาพแบบน้องคุณไม่รู้หรอก


คุณจะอยู่บ้านดี ๆ กินของกินดี ๆ อยากให้คนที่บูลลี่เปลี่ยนมุมมองใหม่ อยากให้ลูกสาวเป็นเคสสุดท้ายที่เป็นแบบนี้ อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องช่วยตระหนักเรื่องบูลลี่ด้วย ถ้าย้อนเวลาได้ ก็อยากได้ชีวิตของลูกสาวกลับมา ลูกสาวเพิ่งจะเซอร์ไพรส์วันเกิดแม่เลี้ยง ด้วยการเก็บเงินแล้วแอบไปซื้อเค้กวันเกิดให้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จึงไม่คิดว่าลูกสาวจะคิดสั้นแบบนี้


ด้านแม่เลี้ยงของน้อง บอกว่า ลูกเลี้ยงไม่เคยคุยอะไรด้วย แต่ช่วงก่อนปีใหม่ บอกว่า ไม่อยากเรียนแล้ว จึงบอกไปว่า เหลืออีกแค่เดือนกว่า ๆ อดทนเอา เรียนจบแค่ ม.3 ก็ได้ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้


ล่าสุดเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวไปยังโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่ พบว่าทั้งครูประจำชั้น และเพื่อนนักเรียนต่างเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดย น.ส.หฤทัย ศรียางนอก ครูประจำชั้น บอกว่า น้องเคยเล่าครอบครัวที่บ้านให้ฟัง ว่าน้องต้องไปช่วยที่บ้านขายของ ทำให้บางวันดูเหนื่อย ๆ เวลาน้องอยู่ที่โรงเรียนก็เล่นกับเพื่อนตามปกติ แต่ระยะหลังน้องไม่ค่อยมาเล่าอะไรให้ฟัง ทราบว่า น้องย้ายมาอยู่กับพ่อซึ่งพ่อแต่งงานใหม่ แล้วช่วงปีใหม่น้องจะกลับไปเยี่ยมแม่แท้ ๆ


ด้านเพื่อนของน้องที่เสียชีวิต บอกว่า ไม่เคยบูลลี่เพื่อน แต่เป็นการเล่นกันในชั้นเรียน หยอกล้อกันตามประสาเพื่อน ยืนยัน ไม่เคยบูลลี่เพื่อน เสียใจที่เพื่อนจากไป เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนก็ยังเดินไปส่งขึ้นรถรับส่งกันตามปกติ ไม่รู้เลยว่าเพื่อนคิดสั้น


ขณะเดียวกันเพื่อนของน้องคนอื่น ๆ ยังให้ข้อมูลอีกว่า น้องมีปัญหาครอบครัว น้องอยู่กับแม่เลี้ยง เคยมาพูดให้เพื่อนฟังตลอดว่า วันไหนขายของไม่ดี ก็จะถูกผู้ปกครองบ่น ด่า บางครั้งก็ถูกทำโทษ ยึดโทรศัพท์ ยืนยันว่าเรื่องบูลลี่หน้าตา ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ


นอกจากนี้ยังนำหลักฐานมายืนยัน ซึ่งเป็นจดหมายของน้องเขียนเมื่อวันเด็กที่ผ่านมา ใช้หัวข้อว่า กิจกรรมวันเด็ก โดยมีข้อความว่า


"วันเด็กปีนี้ฉันก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ไม่ต่างไปจากทุกวัน แต่วันเด็กปีนี้มันแย่กว่าทุกที เพราะฉันได้ทะเลาะกับครอบครัว แต่การทะเลาะครั้งนี้ มันทำให้ฉันเกือบจบชีวิตลง ฉันคิดมาก ฉันเครียด แต่คนในครอบครัว ไม่มีใครรู้เลย เป็นวันเด็กปีแรกที่ทำให้ฉันคิดมาก จนอยากจะหนีไปไกล ๆ ไม่อยากอยู่ในสังคมแบบนี้ มันอึดอัดจนพูดไม่ออก

ไม่มีใครให้ฉันระบายอารมณ์และปัญหาได้ อย่างว่าแหละ ฉันไม่ใช่คนดี และเป็นคนที่เ_ยมาก ไม่เคยมีความสำคัญ ไม่มีค่าสำหรับครอบครัวเลย บางทีฉันก็เหนื่อยที่จะอธิบาย ก็เลยปล่อยให้มันผ่านไป แต่สุดท้ายพวกเค้าก็มาขอโทษฉัน และบอกว่า เค้าแค่ต้องการสอน แต่ฉันกลับคิดว่า การสอนแบบไม่ฟังเหตุผลเด็ก อาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/s0DY6TvP1Aw