หนังคนละม้วน! หัวหน้ายันไม่ได้ย่ำยี หลังพริตตี้ร้องถูกมอมยาเข้าม่านรูด จี้ ตร.ดำเนินคดี

พริตตี้สาว ถูกนายจ้างมอมยาข่มขืน ร้องทนายรณรงค์ช่วยเหลือ คดีไม่คืบ ล่าสุดผู้ก่อเหตุ บอกว่าเป็นหนังคนละม้วน


ก่อนหน้านี้ พริตตี้สาวคนหนึ่งชื่อ นางสาวพลอย อายุ 24 ปี ร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าของคดี หลังถูก ผู้ดูแลในการจัดหาสาวพริตตี้และสาวเอ็มชี ลวงเข้าโรงแรมและกระทำอนาจาร


นางสาวพลอย บอกว่า เธอเป็นฟรีแลนซ์ เธอไปรับงานเป็นการแจกเครื่องดื่มชูกำลัง เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา รับงานเรต 800 บาท ทำงาน 2 ช่วงคือช่วง 8 โมงเช้า และช่วง 4 โมงเย็น จนกระทั่งจบงาน 2 ทุ่ม หลังจบงานทุกคนก็นัดกันไปฉลองต่อเพื่อปิดจ๊อบ จึงได้นัดหมายกันที่ร้านอาหารในซอยมหาดไทย ย่านลาดพร้าว โดยในร้านก็เต้นกินกันตามปกติ


ขณะอยู่ในร้านเธอได้สั่งเหล้าปั่นมานั่งดื่ม ซึ่งในวงกินข้าวนั้นก็มีเพื่อนๆคนอื่นๆมาร่วมวงด้วย รวมท้งนายฟ๊ะ ซึ่งเธอได้สังเกตุความผิดปกติของตัวเอง หลังจากกินเหล้าปั่น และก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งคือนางสาวเบนซ์ ได้ชักชวนให้เข้าห้องน้ำพร้อมกัน กลับมาก็มานั่งดื่มกันต่อ ดื่มเหล้าปั่นได้สักพักก็มีอาการเมาผิดปกติ ไม่รู้ว่าระหว่างที่ลุกไปเข้าห้องน้ำนั้น มีการหยอดยาหรือเอาสิ่งแปลหปลอมใส่โถเหล้าปั่นหรือไม่


เมื่อผ่านไปสักระยะ เธอเองเริ่มเมาหนัก บอกกับกลุ่มเพื่อนว่า แยกย้ายกลับบ้านกันเถอะ ตอนนั้นได้มีเพื่อนที่ในกลุ่มจะพาเธอไปส่ง แต่คนชื่อฟ๊ะตระโกนบอกว่า"ไม่ต้องเดี่ยวพี่จัดการเอง"โดยคนก่อเหตุ(ฟ๊ะ)และเบนซ์พาเธอขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ซ้อนสามออกจากร้านอาหารดังกล่าว โดยอ้างว่าจะพาไปส่งที่หอเพื่อน ขณะที่นั่งรถมอเตอร์ไซค์ออกไปเธอไม่ได้สติ เพราะเกิดจากอาการเมา


หลังจากนั้นตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเธอเองอยู่ในโรงแรม ย่านลาดพร้าวแล้ว หลังจากตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเบนซ์เพื่อนสาวที่มาด้วยกัน แต่มีเพียงนายฟ๊ะ คนก่อเหตุที่อยู่ภายในห้องกัยเธอเท่านั้น หลังจากที่เธอได้สติ นายฟ๊ะมาขึ้นคร่อม พร้อมกับพยายามกระทำอนาจารเธอ


ตอนนั้นเธอก็ขัดขืน และพยายามจะไซร์คอ เธอจึงออกอุบายหลอกล่อเพื่อเอาตัวรอด แกล้งหยิบโทรศัพท์ ส่งข้อความโลเคชั่นให้เพื่อนมารับ โดยคนก่อเหตุบอกว่า ตอนที่หนูนอนหลับไปพี่ก็ทำไปแล้ว 1 ครั้ง ถ้าต่อรอบ 2 จะเป็นไรไป หลังจากออกจากโรงแรมมาได้ เธอก็หาหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด และตรวจร่างกาย นำไปให้พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความที่สน.ลาดพร้าว ซึ่งขณะนี้คดีไม่คืบหน้า


พลอย บอกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนเองยอมรับว่าค่อนข้างอยู่ในอาการผวา และหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม


ด้าน ทนายรณรงค์ บอกว่า หลังจากที่ตนเองทราบเรื่องร้องเรียนจากนางสาวพลอย ตนเองได้พา น.ส.พลอยไปติดตามความคืบหน้ากับพนักงานสอบสวนที่ สน.ลาดพร้าว โดยเข้าใจว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน แต่ทำไมตอนนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า พร้อมทั้งจะไปเร่งรัดคดีในข้อหากระทำอนาจาร และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เพราะเนื่องจากในวันเกิดเหตุนั้นตัวของคนก่อเหตุทำให้สร้อยคอของผู้เสียหายขาดเสียหาย


ทนายรณรงค์ ยังให้หลักฐานกับทีมข่าวเพิ่มเติม ซึ่งเป็นแชทการพูดคุยระหว่างนางสาวพลอยผู้เสียหาย กับ นายฟ๊ะ หลังจากเกิดเหตุ โดยมีข้อความที่ปรากฏชัดทำนองว่า "ไม่รู้สึกดิหลับขนาดนี้มีแต่เสียง,10000 ให้พี่นะ ทำพี่อะ พี่เสียใจ รักกันใว้เถิด นะๆๆๆ 555, ก็น้องน่ารัก พี่เลยอดใจไม่ใหวจริง ๆ พี่ห้ามใจตัวเองแล้ว"


ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่ภายในชุมชนแห่งหนึ่งริมคลองลาดพร้าว ไปพูดคุยสอบถามนายฟ้ะ ผู้ก่อเหตุ นายฟ๊ะ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเป็นหนังคนละม้วน, ตัวเองไม่ใช่เพิ่งรู้จักกับนางสาวพลอย หรือ เจอกันครั้งแรกตอนงานแจกเครื่องดื่มชูกำลังตามที่ น.ส.พลอย ให้ข้อมูล


ตัวเองรู้จักกับนางสาวพลอยมานานตั้งแต่กลางปี ค่ำมืดดึกดื่นนางสาวพลอยยังเคยมาหาที่บ้านมานั่งเล่น มารับนายฟ้พออกไปทำงานด้วยกัน ซึ่งนางสาวพลอยก็เคยคุยกับเมียของนายฟ้ะด้วย เวลาออกไปทำงานด้วยกันแล้วเมียนายฟ๊ะ Video Call มาก็ยังหันกล้องให้เห็นว่า อยู่กับนางสาวพลอยและยังพูดแซวกันเล่นเลยว่าอยู่กับเมียอีกคน


ส่วนเหตุการณ์วันเกิดเหตุ หลังจบงานแจกเครื่องดื่มชูกำลัง ตัวเองพาน้องๆในทีมงานไปเลี้ยงฉลองจบงาน ซึ่งนางสาวพลอยก็ไปด้วยและนางสาวพลอยเป็นคนเดียวที่กินเหล้าปั่น จนมีอาการมึนเมาตัวเองยังคอยดูแลและห้ามว่าไม่ให้กินต่อ จนกระทั่งหลังจบงานเลี้ยงตัวเองอาสาไปส่ง


น.ส.พลอย ให้การยอมรับว่ามีการเปิดโรงแรมจริง เพราะสภาพนางสาวพลอย เมาจนไม่ได้สติและทางที่จะไปส่งหอพักของเพื่อน น.ส.พลอย ไกลและมีด่าน น้องที่ไปกินเลี้ยงด้วยกันก็เจอด่านเป่าเมาแล้วขับ จึงพูดคุยตกลงกับนางสาวพลอยว่าจะเปิดโรงแรม ซึ่งตอนนั้นไปกัน 3 คน มีฟ๊ะ, พลอย, และ น.ส.เบนซ์ อีกหนึ่งคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนางนกต่อ


หลังจากเปิดห้องที่โรงแรม นางสาวเบนซ์กลับไปก่อนตัวเองอยู่รอเป็นเพื่อนนางสาวพลอยจนกระทั่งเพื่อนนางสาวพลอยขับรถเก๋งมารับ ช่วงเวลาตั้งแต่เปิดห้องจนเช็คเอ้าท์ออก ประมาณไม่เกิน 2 ชั่วโมง และระหว่างที่อยู่กันภายในห้อง นายฟ้ะยืนยันว่าไม่มีการข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.พลอย , และตอนที่กินเลี้ยง ตัวเองก็ไม่ได้หยอดยาหรือมอมยา น.ส.พลอยแน่นอน


หลังเกิดเหตุนางสาวพลอย ติดต่อมาเรียกค่าเสียหาย 10,000 บาท ตัวเองคิดว่า แกล้งอำกันเล่น เพราะปกติ ตัวเองกับน้องๆจะพูดคุยอำกันเล่นแรง ๆ ตัวเองจึงตอบกลับไปตามแชทที่ น.ส.พลอย เอาให้สื่อฯดู ซึ่งจริง ๆ บทสนทนาในแชททั้งหมดมีมากกว่านี้


ตัวเองไม่เข้าใจว่าที่นางสาวพลอยออกมาร้องสื่อฯต้องการอะไร ทั้งที่เป็นคนรู้จักกันและยังทำงานอยู่ในวงการเดียวกัน จึงอยากฝากถึงพลอยให้คิดถึงอนาคตที่ยังต้องทำงานและอาจจะได้วนเวียนเจอกันอีก พอเกิดเรื่องแบบนี้ในวงการออแกไนซ์หรืออีเว้น ก็จะเสียหายทั้งคู่