ใจสลาย สามีติดใจการทำงานหมอ หลังภรรยาท้องแก่ เป็นลมในรพ. เสียชีวิตทั้งแม่-ลูก

สามีร้องสื่อแฟนสาวที่เป็นกู้ภัยท้องแก่ใกล้คลอด ภรรยาเป็นลมในห้องน้ำในโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตทั้งแม่และลูก หมอระบุ ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว สันนิษฐานเป็นโรคหัวใจไม่สามารถมีลูกได้


สามีร้องสื่อแฟนสาวที่เป็นกู้ภัยท้องแก่ใกล้คลอดเสียชีวิตทั้งแม่และลูก หลังไปพบหมอจากภาวะขาบวม ตาบวม หมอจึงจ่ายยาแก้อักเสบให้ หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ หมอนัดตรวจครรภ์อีกรอบ ปรากฎว่า เมียเป็นลมในห้องน้ำในโรงพยาบาล หมอจึงรีบแอทมิท สุดท้ายเสียชีวิตทั้งคู่ หมอระบุว่า ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลวและสันนิษฐานว่าเป็นโรคหัวใจไม่สามารถมีลูกได้


บรรยากาศที่ศาลาศรัทธาราษฎร์อนุกูล วัดลาดหญ้าแพรก อำเภอเมืองนครปฐมเป็นที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพ นางสาวฐิติยา หรือ มะนาว อายุ 30 ปี และ เด็กทารกอายุ 8 เดือนเศษลูกในท้องของมะนาว ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี


โดย นายอดิศักดิ์ หรือ จิม อายุ 28 ปี สามี นางสาวฐิติยา เปิดเผยว่า ภรรยาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนอายุครรภ์ 8 เดือน กระทั่ง 2 ธ.ค. นางสาวฐิติยา ไปหาหมออีกครั้ง เพราะมีอาการตาบวม ขาบวมหมอบอกว่า เส้นประสาทตาอักเสบ จึงจ่ายยาแก้อักเสบมาให้กิน จากนั่น 2-3 วัน นางสาวฐิติยา มีอาการปากเบี้ยว เท้าบวม และ อาการไม่ดีขึ้น


จึงรอไปพบหมอทีเดียวตามรอบนัดตรวจครรภ์ วันที่ 9 ธ.ค. โดยสามีไปด้วย ปรากฎว่า ระหว่างรอพบหมออยู่หน้าห้องตรวจ นางสาวฐิติยา เดินไปเข้าห้องน้ำและเป็นลมในห้องน้ำของโรงพยาบาล ผ่านไปประมาณ 5-10 นาที มีคนไปเจอจึงรีบตามคนมาช่วย


หมอจึงพาเข้าห้องแอทมิทและพบว่า เด็กเสียชีวิตแล้ว หมอจึงให้กินยาเหน็บเพื่อให้คลอดเด็กออกมา จนประมาณ 14:00 น.เด็กยังไม่คลอดหมอจึงตัดสินใจผ่าคลอดนำร่างเด็กออกมา ส่วน ภรรยาของตน หมอแจ้งกับญาติว่า พ้นขีดอันตรายแล้ว ญาติ ๆ จึงพากันกลับบ้าน


พอผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง หมอโทรศัพท์มาแจ้งว่าภรรยา อาการโคม่าอีกรอบต้องทำ CPR และ เข้าอุโมงค์ CT Scan ก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาลและทีมแพทย์แจ้งกับญาติว่าสาเหตุการตายมาจาก ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และอาจมีภาวะของโรคหัวใจซึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ได้


โดยทางสามีและญาติ ๆ ของผู้ตายจึงตั้งคำถามว่า ถ้ามีภาวะของโรคหัวใจและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ที่ไปฝากครรภ์ในตอนแรก ส่วนเหตุการณ์ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ที่ไปหาหมอจากภาวะตาบวมเท้าบวม ทำไมหมอไม่ให้แอดมิดและดูอาการ จนผ่านมาถึงวันที่ 9 ธันวาคม ภรรยาเป็นลมและความดันตก ทำไมหมอไม่ตัดสินใจผ่าคลอด ยังมีโอกาสที่จะรอดทั้งคู่ หรือ คนใดคนหนึ่ง แต่นี้เท่ากับว่าครอบครัวต้องเสียทั้งสองชีวิต และสิ่งที่มุ่งหวังตั้งใจไว้ต้องพังทลาย


สำหรับนางสาวฐิติยา ผู้ตาย เป็นอาสามูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ซึ่งที่ผ่านมาทำงานเป็นจิตอาสามานานกว่า 5 ปี ช่วยเหลือคน ทั้งคนเจ็บและคนตาย ญาติ ๆ ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับครอบครัว


หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลส่งมาเพียงพวงหรีด 1 พวง และ ยังไม่ติดต่อมาอีกเลย โดยทางครอบครัวอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสองชีวิตที่เสียไปและที่สำคัญอยากให้ทางโรงพยาบาลมีมาตรฐานมากกว่านี้ จะได้ไม่เกิดเหตุซ้ำอีก