สังคม
อุกอาจ! วัยรุ่นควงปืนสงคราม บุกกระทืบพ่อค้าส่งไก่ เหตุฉุนถูกมองหน้า ขู่ซ้ำเจออีกเอาถึงตาย
โดย paweena_c
8 พ.ย. 2565
78 views
สุดอุกอาจ วัยรุ่นควงปืนสงคราม มารุมกระทืบพ่อค้าส่งไก่กับเพื่อน ที่หน้าห้องพักย่านสายไหม แถมขู่ซ้ำอย่าให้เจอหน้าไม่งั้นจะเอาถึงตาย ปมชนวนเหตุเพียงแค่มองหน้ากัน ไปดูคลิป
นี่เป็นภาพวินาที ที่วัยรุ่น 2 คน ถือปืนเอ็ม 16 ยืนคุมเชิง ให้เพื่อนอีก 2 คน รุมทำร้ายร่างกายพ่อค้าส่งไก่และเพื่อน โดยวัยรุ่นที่ถือปืนคุมเชิง จะสวมหมวกกันน้อค อำพรางใบหน้า ส่วนจุดที่พ่อค้าส่งไก่และเพื่อน ถูกทำร้ายจะอยู่หลังกระบะสีดำ แต่จะได้ยินเสียงคนร้องด้วยความเจ็บปวด
นอกจากนี้ในภาพจะเห็นคนที่ถือปืนก็จะเอาขวดเบียร์ปาใส่ พ่อค้าส่งไก่ด้วย จากนั้นชายที่ถือปืนก็เอาปืนเอ็ม 16 ใส่ถุง แล้วเดินหนีออกมา
โดยเหตุการณ์นี้ ภรรยาของพ่อค้าส่งไก่ ได้ร้องเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า สามีถูกวัยรุ่น 4 คน มีปืนเอ็ม 16 ปืนอูซี่ ทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอน 10 โมง 30 นาที หลังก่อเหตุวัยรุ่นกลุ่มนี้ ยังขู่ว่าอย่าให้เจอหน้าอีก ไม่งั้นจะเอาให้ตาย สาเหตุเกิดจากเพียงแค่มองหน้ากัน
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ภายในหน้าห้องพัก หมู่บ้านเอื้ออาทรสายไหม พบขวดเบียร์แตกกระจาย จำนวนมาก และ ยังมีรอยเลือดอยู่ตามพื้น
ภรรยาของพ่อค้าส่งไก่ บอกว่าวันเกิดเหตุ สามีกินข้าวกับเพื่อนรวม 3 คนที่หน้าห้อง จังหวะนั้น พ่อค้ากรอบพระได้เดินมากับเพื่อน และมองหน้ากลุ่มของสามี จากนั้นพ่อค้ากรอบพระย้อนกลับมาถามสามีว่า มึงมองหน้ากูทำไม และก็เกิดการโต้เถียงกัน
ถัดมาอีก 30 นาที พ่อค้ากรอบพระย้อนมาหาสามีอีกคร้้ง คราวนี้เพื่อนของพ่อค้ากรอบพระเอาปืนสงครามมาด้วย เมื่อมาถึงก็เปิดฉากรุมทำร้ายร่างกายสามีกับเพื่อน โดยจะมีคนถือปืนยิงคุมเชิง ขู่ไม่ให้สามีต่อสู้
ส่วนตนแอบอยู่ในห้องไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวอันตราย ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุยังได้พูดทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าอย่าให้เจอหน้าอีก ไม่งั้นจะเอาให้ถึงตาย
ยืนยันว่าสามีกับผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องกันก่อนหน้านี้ ยกเว้นที่มองหน้ากันวันเกิดเหตุเท่านั้น ยอมรับว่าตนกลัวมาก หลังเกิดเรื่องสามีต้องย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ส่วนตนยังต้องอยู่ที่เดิม และบางวันก็จะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงมาเดินวนเวียนที่หน้าห้อง
ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาภรรยาผู้บาดเจ็บ และเพื่อนที่ถูกทำร้าย ไปพบกับ ตำรวจ สน.สายไหม โดยนายเอกภพ บอกว่าต้องการมาเร่งรัดคดีให้ตำรวจจับผู้ก่อเหตุที่เหลืออีก 3 คนให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นเหตุอุกอาจใช้ปืนสงคราม ทั้งนี้ผู้ต้องหาที่ถุกจับได้ก่อนหน้านี้ 1 คน ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และใช้ปืนสั้นซึ่งเป็นปืนจริงก่อเหตุด้วย
มีรายงานว่า ผู้เสียหายได้มาพบตำรวจและชี้ภาพ บุคคลต้องสงสัย ซึ่งมีทั้งหมด 3 คน พร้อมมอเตอร์ไซด์ 2 คัน และ รถเก๋งป้ายแดงอีก 1 คัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นพาหนะที่ใช้ก่อเหตุหลังหลบหนี เพื่อยืนยันตัวบุคคล หลังขณะนี้ตำรวจรู้ตัวบุคคลที่ก่อเหตุและยังหลบหนีที่เหลือแล้ว และเตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำตามขึ้นตอนของกฎหมาย