สังคม

เจ้าของผับร้องทนายตั้ม ถูกตำรวจเก็บส่วย ขอถือหุ้นลม-เบ่งกินฟรี จนร้านแทบเจ๊ง

โดย paweena_c

7 พ.ย. 2565

151 views

เจ้าของร้านอาหารกลางคืน อ้างถูกตำรวจเก็บส่วย ขอถือหุ้นลมและเบ่งกินฟรีที่ร้านเดือนละหลายแสน ถ้าไม่จ่ายก็จะถูกกลั่นแกล้ง จนร้านแทบเจ๊ง ล่าสุดเจ้าของร้านเข้าร้องทนายตั้ม ช่วยด้วยพร้อมหอบหลักฐานแฉ


เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชน โพสต์ภาพบรรยากาศภายในร้านอาหารกลางคืนแห่งหนึ่ง พร้อมข้อความระบุว่า "ทุกคนว่ามันเกินไปไหม ผับดังถูกแก๊งตำรวจ อดอยาก มีหุ้นแค่ 3% เบ่งกินฟรีเดือนละหลายแสน จนร้านใกล้เจ๊ง


เจ้าของร้านทนไม่ไหว ขอเชิญออกจากร้าน แก๊งตำรวจไม่พอใจทักไปหาพนักงานในร้านบอกว่าร้านปิดปรับปรุง ทั้ง ๆ ที่ร้านยังเปิดปกติ แถมยังสั่งแอดมินให้ลงว่าร้านปิดปรับปรุง โดยไม่บอกหุ้นส่วนใหญ่ กะว่าไม่ได้เบ่งกินฟรีแล้วก็ให้ร้านเจ๊งไปเลย ไม่ให้กูอยู่ต่อ ก็อย่าหวังมึงจะรอด


ทนายตั้มยังบอกว่า เดี๋ยวผมจะพาเจ้าของร้านดำเนินคดีกับเมียผู้กำกับ และแก๊งตำรวจอันธพาล ที่ลงข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ให้เป็นตัวอย่างนะครับ ใช้อำนาจหน้าที่ผิด ๆ รังแกประชาชนแบบนี้มันได้เหรอครับ?


ล่าสุดเจ้าของร้านหอบหลักฐานเข้าพบ ทนายตั้ม ษิทธา เบี้ยบังเกิด พร้อมเปิดเผยว่า ร้านของตนเองอยู่ใน อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และนายตำรวจคนดังกล่าว ยศพันตำรวจเอก เคยเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจในพื้นที่ จะคอยดูแลร้านอาหาร ผับ บาร์ต่าง ๆ ในพื้นที่


เจ้าของร้านบอกว่า ตนเองได้มาเทคโอเวอร์ร้านอาหารดังกล่าว เมื่อหลายปีก่อน โดยมีหุ้นส่วนกับเพื่อนรวม 16 หุ้น


ซึ่ง พันตำรวจเอก นายนี้ เข้ามาขอถือหุ้นด้วย 1 หุ้น คิดเป็น 6% หลังจากนั้นก็ส่งลูกน้อง ยศสิบตำรวจเอกมาจัดการเก็บค่าดูแล(ส่วย) ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน อ้างว่า เอาไปจ่ายให้กับส่วนต่าง ๆ จะได้ไม่มีปัญหา


นอกจากนี้ พันตำรวจเอก รายดังกล่าว ยังส่งเมีย เข้ามาบริหารจัดการภายในร้าน ส่วน แม่ของ พันตำรวจเอก จะดูแลเรื่องสั่งซื้อผัก สั่งซื้อวัตถุดิบภายในร้านวันละหลายหมื่นบาท


ทางเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงขอซื้อหุ้นกลับ ครึ่งหนึ่ง คือ 3% เป็นเงินประมาณ 200,000 กว่าบาท และพยายามขอซื้อกลับทั้งหมด แต่ทางพันตำรวจเอก เริ่มไม่พอใจ จึงให้ลูกน้องยศนายสิบสั่งแอดมินเพจร้านให้โพสต์ทำนองว่า ปิดร้านปรับปรุงไม่มีกำหนด


ด้าน ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชนฯ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องราวดังกล่าวแล้ว จะรวบรวมพยาน หลักฐาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป และในวันพรุ่งนี้ จะพาผู้เสียหาย ไปร้องขอความเป็นธรรมกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ


ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ติดต่อสอบถามไปยัง พันตำรวจเอก คนดังกล่าว เปิดเผยว่า แฟนของตนเป็นหุ้นส่วนกับร้านอาหารนี้โดยถือหุ้นอยู่ 0.5 หุ้น ที่ผ่านมามีปัญหาโควิด-19 ระบาด และมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นมาตลอด


ซึ่งแฟนตนทำหน้าที่คอยดูแลบัญชีรายรับ รายจ่ายแต่เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นปัญหาการสื่อสารระหว่างผู้ถือหุ้นกันเองที่คลาดเคลื่อนกันไป เนื่องจากในวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการรวบรวมข้อมูลผลประกอบการของร้าน แต่พบว่ามีเงินไม่เพียงพอ จึงต้องตกหุ้นให้ผู้ถือหุ้นลงทุนเพิ่มเติมตามสัดส่วนของตัวเอง


พ.ต.อ.กล่าวอีกว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น หุ้นส่วนมองว่า หากฝืนเปิดร้านต่อไปจะต้องแบกรับค่าใช้จ่าย จึงขอให้ปิดปรับปรุงชั่วคราวเพื่อหาแนวทางแก้ไขกัน และหุ้นส่วนหลายคนก็ต้องการจะขายหุ้นออกเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี แต่เรื่องนี้มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นผู้ให้ข้อมูล ยืนยันแฟนตนไม่ได้ถือหุ้นลมเพราะลงทุนเป็นเงินกับร้านไปแล้ว 6-7 แสนบาท


พ.ต.อ. กล่าวว่า ส่วนประเด็นการจัดเลี้ยงกินฟรีนั้นถือเป็นปกติของการเป็นหุ้นส่วนที่สามารถพาเพื่อนฝูงมาดื่มกินในร้านได้ โดยจะมียอดระบุไว้ในบิลช่วงสิ้นเดือน แต่ยอดหลักแสนบาทที่ปรากฎตามข่าวคือยอดรวมของหุ้นส่วนทุกราย ซึ่งมีการประชุมไปแล้วว่าควรกำหนดค่าใช้จ่ายเท่าใด แต่ไม่ได้ข้อสรุป สำหรับประเด็นที่ว่าตำรวจยศนายสิบมาเรียกเก็บเงินจากร้านนั้นไม่ทราบว่าเป็นการเก็บเงินไปเพื่อจ่ายส่วนใด


ด้าน พลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่ปรากฎทางสื่อแล้ว แต่ขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ จึงยังไม่ทราบในรายละเอียดทั้งหมด โดยหากผู้เสียหายมาแจ้งความ ก็จะดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที


นอกจากนี้โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังบอกว่า ผู้ที่ถูกกล่าวอ้างนั้น เป็นเจ้าพนักงาน โดยขอให้มั่นใจในตำรวจ จะทำให้เรื่องดังกล่าวมีความโปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นตำรวจยศไหน ก็จะเร่งตรวจสอบอย่างรวดเร็ว และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News