เณรสุดทน! แฉพระอาจารย์ล่วงละเมิดนาน 2 ปี ไหวตัวทันหอบเงินหนี ค้นกุฏิเจออุปกรณ์เสพยา

พระอาจารย์วัดดัง ล่วงละเมิดทางเพศ สามเณรลูกศิษย์นานกว่า 2 ปี สามเณรทนไม่ไหว รวบรวมความกล้าบอกแม่ให้พาเข้าแจ้งความ ด้วยมีเหตุผล เพื่ออยากจะปกป้องสามเณรรุ่นน้อง ๆ ที่จะมาบวชเรียนที่วัดแห่งนี้ เพราะที่ผ่านมาพระอาจารย์น่าจะบวชมานานกว่า 10 ปี คงมีเณรจำนวนมากที่เจอเหตุการณ์เช่นตน


แม่ของเณร ผู้ที่ถูกกระทำ เปิดเผยว่า ตัวเองได้สังเกตลูกที่บวชเป็นเณรที่วัดดังใจกลางเมืองน่าน ว่าทำไมถึงถ่ายรูปท้องฟ้า ลงคลิปแปลก ๆ ที่ถ่ายทั่ววัด คล้ายเหงา กดดัน เช่นเขียนว่า "ทางนี้ฝนตกแล้ว ทางโน่นฝนตกไหม" ส่งทางไลน์มาให้


แม่ของเณรสงสัย จึงได้โทรไปพยายามชวนคุยและสอบถามเณรว่า ลูกมีปัญหาอะไรมั้ย จนมาทราบสาเหตุที่แท้จริง ว่าลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ ได้ฟังลูกเล่าเหตุการณ์ที่ถูกกระทำ รู้สึกช็อก แล้วทำใจไม่ได้ จึงอยากช่วยลูก ยืนยันจะดำเนินคดีกับพระอาจารย์ของลูกเณรให้ถึงที่สุด


ส่วน เณร อายุ 15 ปี เล่าว่า ตอนที่บวชเข้ามาเป็นสามเณร ตอนอายุ 12 ปี เพื่อเรียนหนังสือ เริ่มแรก ต้องอาศัยอยู่ที่กุฏิรวม แต่พระอาจารย์ ก.(นามสมมุติ) ให้ย้ายไปอยู่กุฏิเดียวกับพระอาจารย์ แต่เณรไม่ไป ต่อมาจึงย้ายไปอยู่กับเณรรุ่นพี่ที่กุฏิพระอาจารย์


ตอนนั้นยังไม่มีการล่วงละเมิด แต่พออยู่ไปนานวันขึ้น พระอาจารย์เริ่ม จับแก้ม หอมแก้ม จับอวัยวะเพศ หลังจากนั้นพระอาจารย์ได้ล่วงละเมิดทางเพศ โดยเอาของลับของพระอาจารย์สอดใส่ประตูหลัง ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้น ม.2 ถึงชั้น ม.3 แล้วถูกกระทำอยู่บ่อยครั้ง


ล่าสุดโดนกระทำประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา และคิดว่ายังมีเณรอีกหลายคนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศเช่นตน บางรูปไปนอนกับพระอาจารย์ตลอด ส่วนเณรเองช่วงหลังเริ่มขัดขืน เณรเคยไปคุยขอให้เณรที่ถูกพระอาจารย์ทำแบบเดียวกันรูปอื่น ๆ มาช่วยเป็นพยาน เพราะอยากจะเอาเรื่องพระอาจารย์ให้ติดคุก แต่ถูกปฏิเสธ เพราะกลัวจะถูกสึก ส่งเณรกลับไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งเณรส่วนใหญ่ทางบ้านมีฐานะยากจน บ้างก็มีปัญหาทางครอบครัว


สิ่งที่เณรได้ออกมาเปิดโปงในครั้งนี้ เพราะรู้สึกเครียด กดดันตัวเอง ไม่ไหวที่จะถูกกระทำแบบนี้ จึงยอมบอกแม่ว่า อยากออกจากวัด เคยมีครั้งหนึ่งที่ขอย้ายวัด แต่พระอาจารย์ได้ข่มขู่ว่า จะตัดพ่อแม่อุปภัมภ์ แล้วจะยกเลิกทุนศึกษา แต่ตอนนี้ เณรตัดสินใจแล้วอยากให้พระอาจารย์ถูกจับเข้าคุก เพื่อไม่ให้เป็นภัยต่อเณรรุ่นหลังที่เข้ามาบวชเรียน


หลังจากนั้น แม่เณรจึงประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดน่าน เพื่อพาเณรเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน ได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลน่าน และทำการสอบปากคำเพิ่มเติมตามขั้นตอน โดยสามเณรเข้ารับการช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพ และเยียวยาด้านจิตใจ ในบ้านพักเด็กฯ


ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังวัดที่เกิดเหตุ และทำการตรวจค้นในกุฎิที่พระ เณร พักอาศัยอยู่ พบอุปกรณ์เสพยา น้ำยาดูดบุหรี่ และมีด แต่ไม่เจอพระอาจารย์ ก.ผู้ถูกกล่าวหา


สอบถาม พระครูสิรินันทวิทย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดดังกล่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พระอาจารย์ ก.ได้โทรขออนุญาติลา 1-2 วัน ไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน เนื่องจากหกล้ม (ตามคำกล่าวอ้าง) และหลังจากนั้น ก็ได้หายตัวไป จึงได้พยายามติดต่อ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น


ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนได้ออกหนังสือให้พ้นจากการปฎิบัติหน้าที่ครูและบุคลากรของโรงเรียน รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท้จจริงเรื่องนี้แล้ว


ส่วนทางคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม


ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 2 กันยายน พระรูปดังกล่าว ได้ถอนเงินออกจากบัญชีล้านกว่าบาท แล้วหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าตำรวจได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป


สำหรับพระอาจารย์ ก. เป็นทั้งพระอาจารย์ฝ่ายปกครอง และพระอาจารย์ที่สอนวิชาพุทธศาสนาของโรงเรียน ซึ่งเป็นสามเณรที่มาบวชเรียน ของโรงเรียนและวัดดังกล่าว อีกทั้งยังมีสามเณรอีกหลายรูปที่ท่านนำมาอยู่ในอาศัยในกุฏิด้วย