สังคม

'ทีน่า' จ่อฟ้อง 'ชมพู่' กลับ ฐานทำให้เสียชื่อเสียง ยันไม่เปลี่ยนชื่อเป็น 'สรพงษ์' หรือ 'ประยุทธ์'

โดย sujira_s

7 ก.พ. 2565

3.2K views

กรณีดรามากระเป๋าแบรนด์เนมแอร์เมส ระหว่างคุณทีน่า กับน้องชมพู่ ดูท่าจะไม่จบง่ายๆ ล่าสุดทีน่า เดินทางไปปรึกษาทนายความที่ จ.ระยอง เตรียมฟ้องกลับคู่กรณี และยืนยันไม่เปลี่ยนชื่อเป็น สรพงษ์ หรือประยุทธ์


คุณทีน่า หรือณภาภัช เนตรระหงษ์ เจ้าของร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง พร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว ได้เดินทางไปที่จังหวัดระยอง เพื่อปรึกษาทนายความ เรื่องการดำเนินคดีฟ้องกลับฝ่ายคู่กรณี ที่กล่าวว่าทำให้เสียหายว่ายักยอกทรัพย์ ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ยักยอก ทางคู่กรณีส่งมา ตนเองก็ตรวจสอบ ซึ่งถ้าหากจะผิดพลาดก็ผิดตรงที่ตรวจสอบว่าเป็นของปลอมตอนแรก แต่เมื่อผลตรวจโดยสถาบันและผู้เชี่ยวชาญออกมาตนก็ยอมรับตรงนี้แล้ว


กรณีที่เกิดขึ้นตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกกระแสสังคมประจาน ถูกต่อว่าว่ายักยอก จนเกิดความเดือดร้อนทำการค้าขายออนไลน์ไม่ได้ ที่ผ่านมาตนก็แสดงความบริสุทธ์ใจมาตลอด ไม่ได้หนีไปไหน


ส่วนเรื่องการเปลี่ยนชื่อนั้น ตนได้ไปแจ้งเปลี่ยนชื่อแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่เขตบอกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก เดี๋ยวเรื่องก็เงียบเอง ซึ่งระหว่างนี้ขอให้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เตรียมฟ้องกลับเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองต่อไป


ด้านนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความฝ่ายคุณชมพู่ จิดาภา ชีนารักษ์ เจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนม กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับคุณชมพู่แล้ว หากคุณทีน่า อยากจะฟ้องกลับก็ให้ฟ้องมา เพราะทางคุณชมพู่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นผู้เสียหายคือคุณชมพู่ ไม่ใช่คุณทีน่า คุณทีน่าเป็นคนทำลายกระเป๋า และหมิ่นประมาทคุณชมพู่ ว่าเป็นมิจฉาชีพ


ซึ่งความผิดยักยอกทรัพย์ ได้ยื่นฟ้องไว้ที่บางขุนเทียน ศาลมีคำสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา และนัดไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ตนจึงหารือกับคุณชมพู่ว่า เราจะไม่คุยอะไรทั้งสิ้นกับคุณทีน่าแล้ว ขอยืนยันว่าการไกล่เกลี่ยจะไม่เกิดขึ้น


ส่วนคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และอีกคดีคือ เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2 ล้านบาท กำลังจะยื่นฟ้องเร็วๆ นี้ ซึ่งคุณทีน่าเองเป็นคนประกาศว่าถ้ากระเป๋าแอร์เมสเป็นของจริง จะยอมจ่ายในราคา 2 ล้านบาท และจะเปลี่ยน่ชื่อเป็นสรพงษ์ แต่ที่ผ่านมาคุณทีน่า ไม่รับผิดชอบกับคำพูดของตัวเองแม้แต่น้อย แถมยังคิดว่าตัวเองไม่ผิด ตกเป็นผู้เสียหาย พยายามกล่าวหาว่าคนอื่นทำผิด แบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องและไม่สำนึกแต่อย่างใด ดังนั้นคดีทั้งหมดขอให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลเท่านั้น ไม่มีไกล่เกลี่ยอะไรกันแน่นอน


คุณอาจสนใจ

Related News