ห้าวจัด! วัยรุ่นหัวร้อนถูกตำรวจจับ ด่ากราดบนโรงพัก ท้าต่อยเรียงตัว

มีคลิปหนุ่มวัยรุ่นหัวร้อน ถูกตำรวจจับกุมและยึดรถแต่งซิ่ง แต่กลับไม่สลด ด่าหยาบตำรวจ แถมยังท้าต่อยแบบเรียงคิว ขณะที่ตำรวจไม่โต้ตอบ โลกโซเชียลชื่นชมอดกลั้นสูง

ให้ดูคลิปแรกที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เป็นคลิปขณะที่ตำรวจนำตัวเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ในอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ มาสอบสวนที่ สภ.ขุขันธ์ ซึ่งวัยรุ่นรายนี้ใช้ถ้อยคำหยาบคายรุนแรง ต่อว่าตำรวจ แถมยังท้าตำรวจต่อย แต่ตำรวจไม่ตอบโต้ พยายามชี้แจงให้เด็กเข้าใจว่ามีความผิด จนชาวศรีสะเกษต่างพากันชื่นชมตำรวจนายนี้ ที่มีความอดทนอดกลั้นสูง ใจเย็นและสุภาพ

ต่อมา มีคลิปภาค 2 ตามมา ซึ่งภาคแรกว่าเด็ดแล้ว แต่ภาค 2 พีคกว่า เพราะวัยรุ่นชายรายนี้ยังไม่สำนึก ถูกจับเข้าห้องขัง ยังท้าทายตำรวจเรียงคิว ระบุว่า "ถอดเสื้อมาเลย กูได้หมด มีแต่แก่ๆ จะทำอะไรได้ เก็บแรงไว้เคี้ยวข้าวเหอะ"

นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปขณะที่ถูกคุมขัง เจ้าหน้าที่บอกไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ในห้องขัง แต่วัยรุ่นชายคนนี้บอกมีขาก็เดินเข้ามาเอาเอง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวตรวจสอบทราบว่า ตำรวจในคลิป คือ ร้อยตำรวจเอกอาภากร โสภา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.ขุขันธ์ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ตำรวจสายตรวจพบชายวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์ดัดแปลงสภาพ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงนำตัวมาที่สถานีตำรวจเพื่อทำบันทึกตรวจยึด ทำประวัติของผู้ครอบครอง แต่วัยรุ่นชายไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ยอมบอกอะไร ทั้งชื่อนามสกุลก็บอกเท็จ ไม่แสดงบัตรประชาชน พูดจาหยาบคาย ก้าวร้าว ท้าทายตนและตำรวจนายอื่นๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น

ซึ่งร้อยตำรวจเอก อาภากร บอกว่า ตนเองยึดหลักอุดมคติของตำรวจในข้อที่ 3 คือ อดทนต่อความเจ็บใจ พยายามชี้แจงให้วัยรุ่นชายได้รับทราบว่าทำผิดข้อหาอะไรบ้าง แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้สึกโกรธเคือง เพราะเข้าใจว่าอาจจะกำลังอารมณ์ร้อน ถูกยึดรถ

สำหรับวัยุร่นหัวร้อนรายนี้ ถูกแจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ 1. ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำตามหน้าที่ 2. เมื่อเจ้าพนักงานถามชื่อและที่อยู่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ยอมบอกหรือแกล้งบอกชื่อหรือที่อยู่เป็นเท็จ 3.ไม่อาจแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ เมื่อเจ้าพนักงานขอตรวจบัตร ซึ่งต่อมา ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 จำเลยผิดตามฟ้อง พิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี

ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายกร (นามสมมติ) วัยรุ่นในคลิป อายุ 18 ปี โดยเจ้าตัวไม่ขอพูดอะไร บอกเพียงว่าเรื่องจบแล้ว จากนั้นแม่และญาติก็มาดึงตัวเข้าบ้านไปและปิดประตูหนีทันที

ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางไปที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งเขตอำเภอขุขันธ์ นายแปลก ภีระคำ ผอ.วิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายกร ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายกรได้มาเรียนหนังสือกับอาจารย์ที่วิทยาลัย หลังจากส่งงานนายกรได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในตัวเมืองเพื่อไปตัดผมให้เรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบของวิทยาลัย ขณะที่กำลังจอดรถมีสายตรวจเข้ามาหาและทำการจับกุม โดยกล่าวหาว่ามีอุปกรณ์ส่วนควบของรถไม่ครบ ซึ่งนายกรได้ยอมรับแต่โดยดี และได้จูงรถไปที่ สภ.ขุขันธ์

ส่วนเหตุการณ์ที่นายกรด่าว่า โต้เถียงกับตำรวจนั้น เป็นเพราะนายกรเกิดอาการเครียดที่จะโดนยึดรถ อีกทั้งครอบครัวมีฐานะยากจนไม่มีเงินจะไปจ่ายค่าปรับ จึงบันดาลโทสะต่อว่ามีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้สอบถามอาจารย์ที่สอนนายกร อาจารย์ทุกคนยืนยันว่า นายกรเป็นเด็กเรียนดีมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อจบ ม.3 จะว่างเว้นการเรียนไปนานถึง 3 ปี เนื่องจากฐานะยากจนแต่ว่านายกร ก็มีความใฝ่เรียนจึงได้มาสมัครเข้าเรียนอีกครั้ง สาขาวิชาช่างไฟฟ้า ปี 1 จากเหตุที่เกิดขึ้นนี้ตนจะนำนายกร พร้อมญาติเข้าไปขอขมากับเจ้าหน้าที่ ที่เด็กมีการใช้วาจาล่วงเกินดังกล่าว