สังคม

สาวแจ้งความถูกข่มขืน ตร.บอกให้รีบกลับบ้าน

โดย thongkarn_p

20 ส.ค. 2564

41 views

หญิงสาววัย 32 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ไปแจ้งความที่ สภ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่าถูกผู้ชายที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก หลอกไปข่มขืนและชิงทรัพย์ แต่พอตำรวจรู้ว่าใครเป็นคนร้าย กลับบอกให้ผู้เสียหายรีบกลับบ้าน รักษาชีวิตไว้ก่อน เพราะผู้ก่อเหตุมีคดีหลายคดี จนผู้เสียหายถึงกับงง และต้องร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว


หญิงสาวเล่าว่า ไปทำงานอยู่ จ.ระยอง แล้วรู้จักหนุ่มชาว อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อ "อสูร กาย" เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แล้วพูดคุยกันมาเรื่อยๆ ฝ่ายชายมีลักษณะเหมือนมาจีบ และอยากมาแต่งงานด้วย ตนก็คล้อยตามเพราะไม่มีแฟน ประกอบกับรูปในโปรไฟล์ เป็นผู้ชายหน้าตาดี


ต่อมาเธอบอกฝ่ายชายว่า จะกลับไปหาแม่ที่ อ.ประโคนชัย วันที่ 12 ส.ค. ก็ถูกฝ่ายชายรบเร้า ขอให้นั่งรถตู้โดยสารไปลงที่ศรีสะเกษ ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ แต่ถูกฝ่ายชายตื้อ อ้างว่าให้มารับแล้วจะไปหาแม่ด้วยกัน ไปขอแต่ง และช่วยกันทำมาหากิน เธอจึงตกลง โดยเดินทางจากระยองวันที่ 11 ส.ค. ถึง อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เวลาประมาณ 2 ทุ่ม แต่พอเจอหน้าฝ่ายชาย ปรากฏว่าไม่ตรงปก เธอจะกลับบ้าน เพราะคุยกันก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าไม่ตรงปกก็แยกย้าย แต่ฝ่ายชายบังคับขึ้นมอเตอร์ไซค์ พร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายและจะส่งกลับบ้านตอนเช้า จึงจำเป็นต้องไปด้วย โดยที่บ้านฝ่ายชาย มีลูกชายกับแม่ของฝ่ายชายอยู่ด้วย แต่แยกไปอยู่ที่กระท่อมหลังบ้าน ส่วนตัวเธอถูกขังไว้บนบ้าน ถูกปืนจี้ และถูกข่มขืน


จนรุ่งเช้า อสม.บ้านหนองไผ่แคน ต.หนองฮาง อ.เบญจลักษณ์ เห็นเธอเป็นคนแปลกหน้า จึงให้ไปรายงานตัวที่ศูนย์กักกัน เธอดีใจมาก แต่หลังตรวจหาเชื้อเสร็จ อสม.กลับพาไปกักตัวไว้ที่บ้านหลังเดิม จนมาถูกข่มขืนอีกครั้ง ก่อนจะได้โอกาสหลบหนีออกมาได้ตอนเช้ามืด วันที่ 14 ส.ค. แล้วไปขอความช่วยเหลือที่บ้าน อบต.ในหมู่บ้าน


จากนั้นไปแจ้งความที่ สภ.เบญจลักษณ์ ว่า ถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกาย และอยากจะได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ 2 เครื่อง เงินสด 4,400 บาท พร้อมเอกสารในกระเป๋าเงินคืน แต่เมื่อตำรวจรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร กลับมีท่าทีตกใจ บอกว่า คนร้ายมีคดีหลายคดี และพยายามให้เธอรีบกลับบ้านที่บุรีรัมย์ทันที บอกว่าไม่ต้องมาห่วงทรัพย์สิน ให้เอาชีวิตตัวเองรอดไว้ก่อน จ ากนั้นภรรยาตำรวจได้นำเงินมาให้ 500 บาท เป็นค่ารถ พร้อมขับรถมาส่งที่ท่ารถ


แต่สุดท้ายเดินทางไปได้แค่ท่ารถ จ.อุบลราชธานี ก็ไม่มีรถประจำทาง จึงต้องเหมาแท็กซี่จากสถานีขนส่ง มา อ.ประโคนชัย เป็นเงิน 2,500 บาท โดยยืมโทรศัพท์คนขับรถโทรให้ญาติเตรียมเงินไว้จ่ายค่าแท็กซี่ จากนั้นจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ประโคนชัย และถูกส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.ประโคนชัย แต่การดำเนินคดีจะต้องไปแจ้งที่ สภ.เบญจลักษณ์ ท้องที่ที่เกิดเหตุ จึงอยากจะวิงวอนให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยดำเนินการเรื่องคดีให้เธอด้วย


ล่าสุด พ.ต.อ.สิราวิชญ์ นวมดี ผกก.สภ.เบจลักษ์ จ. ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จับกุมคนร้ายได้แล้ว คือ นายณัฐพล เผื่อแผ่ อายุ 38 ปี เป็นบุคคลไม่มีอาชีพ เบื้องต้นตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดไว้ก่อน รวมทั้งยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายอ้างถึง ส่วนข้อหาข่มขืน หรือชิงทรัพย์ หากผู้เสียหายประสงค์ดำเนินคดี ให้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เบญจลักษ์ได้ตลอดเวลา หากมีผลตรวจร่างกายยืนยันจากแพทย์ ก็ให้นำมาเป็นหลักฐานได้เลย


ส่วนที่ผู้เสียหาย ระบุว่า มาแจ้งความแล้ว ตำรวจกลัวคนร้าย และรีบให้หนีกลับบ้านนั้น คิดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดจากฝ่ายผู้เสียหาย ตำรวจไม่น่าจะพูดเช่นนั้น แต่น่าจะเป็นผู้เสียหายขอกลับบ้านเอง เพราะตัวเองมาจากจังหวัดระยอง เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโควิด-19 จึงกลัวว่า หากอยู่ที่ศรีสะเกษ จะถูกกักตัวก็เป็นได้



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/JzyLWxf74X0

คุณอาจสนใจ