นักสิทธิมนุษยชน ชี้ เอาผิดพ่อแม่ผู้ก่อเหตุยาก แต่ต้องรับผิดชอบ

พ่อของเด็กผู้ก่อเหตุที่ได้ออกมาขอโทษและพร้อมเยียวยาผู้สูญเสียต่อเหตุการณ์นี้ มีความนักสิทธิมนุษยชน ด้านเด็กและเยาวชน "สุรพงษ์ กองจันทร์ทึก" ชี้ กฎหมายเอาผิดพ่อแม่เยาวชนผู้ก่อเหตุยาก แต่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ แนะเลี้ยงดูในสังคมให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง


นายสุรพงษ์ กองจันทร์ทึก นักสิทธิมนุษยชน และอดีต ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้มุมมองต่อเหตุเยาวชนอายุ 14 ปี นั้นว่า ต้องยอมรับว่า ในขณะนี้กระแสสังคมมีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะผู้ก่อเหตุ ยังเป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะการกระทำหรือการตัดสินใจใดใด ยังต้องมีผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการ


ส่วนตัวยอมรับว่า แม้ในหลักการกฎหมายจะเปิดช่องให้เอาผิดกับพ่อแม่ได้ แต่ในความเป็นจริงมองว่า เอาผิดยาก แต่ผู้ปกครองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ ส่วนจะต้องระดับไหนต้องไปดูรายละเอียดข้อกฏหมาย เพราะการเลี้ยงดูลูกในสังคมปัจจุบัน เด็กร้อยละ 90 ถูกเลี้ยงดูและเรียนรู้ จากสื่อและโลกออนไลน์มากกว่าตัวผู้ปกครอง จึงควรแก้ระบบการเลี้ยงดูในสังคมให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ไปพร้อมกับการปฏิรูปเทคโนโลยี ควบคุมเนื้อหาที่เด็กอาจเข้าถึง


สำหรับเคสของเยาวชนวัย 14 ปี รายนี้ ท้ายที่สุดตามขั้นตอนถูกส่งตัวไปยังสถานพินิจและคุ้มครองและเยาวชน ซึ่งนายสุรพงษ์ มองว่า ตามหลักปฏิบัติ มีขั้นตอนขัดเกลาและชักจูงให้เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงต้อง ยอมรับว่า ระบบการดูแลในบ้านเรา ยังไม่สามารถขัดเกลาเด็กให้ดีขึ้นตามที่ควรจะเป็น จึงเป็นอีกจุด ที่ควรปรับปรุงแก้ไข ไม่เช่นนั้น เมื่อกลับออกสู่สังคมเด็กก็จะกลับมากระทำความผิดซ้ำได้อีก


ด้านทีม MCATT กรมสุขภาพจิต ได้ร่วมเยียวยาเชิงรุกผู้ประสบเหตุที่ยังมีปัญหาด้านสุขภาพจิต เปิดสายด่วน 1667 ให้คำปรึกษาผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์ย่านปทุมวัน


และหลังเหตุการณ์นี้ มีผู้รับบริการทุกระบบแล้วทั้งสิ้น 130 ราย เป็นผู้ใหญ่ 121 ราย และเด็ก 9 ราย พบว่ามีระดับความเครียดอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนใหญ่มีอาการนอนไม่หลับ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vyY0Dlt09UU