สังคม

ชายสวิสร้องสื่อ ถูกจนท.อบต.แจ้งจับ ฐานบุกรุก หลังขับรถปาดกัน ชี้แค่เข้าไปเคลียร์

โดย panwilai_c

12 ส.ค. 2566

58 views

มีกรณีชาวต่างชาติ มาใช้ชีวิตอยู่ที่บุรีรัมย์ เข้าร้องสื่อ ถูกเจ้าหน้าที่ อบต.แจ้งจับฐานบุกรุก หลังมีเหตุกระทบกระทั่งขับรถปาดหน้ากัน ผู้เสียหายยันแค่เดินเข้าบ้านคู่กรณีหวังไปเคลียร์ปัญหา



ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายโธมัส มุลเลอร์ อายุ 45 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกคนไทยแจ้งความเอาผิดฐานบุกรุก



โดยนำคลิปจากกล้องหน้ารถมามอบให้ผู้สื่อข่าว ซึ่งเผยให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ที่ทำให้ตนเองต้องตกเป็นผู้ต้องหา จะเห็นกระบะมิตซูบิชิ พรีรันเนอร์ สีขาว ขับนำหน้าในลักษณะแกล้งปาดหน้า ไม่ยอมให้แซง บางจังหวะก็แกล้งเบรกให้ชนด้วย กระทั่งกระบะคันสีขาวได้ชะลอรถแล้วเลี้ยวเข้าบ้านหลังหนึ่ง ส่วนนายโธมัส ก็ได้หักซ้ายนำรถแอบข้างทางเช่นกัน



ก่อนจะจอดรถแล้วเดินตามเข้าไปในบ้าน แล้วเคาะกระจกเรียกคนขับกระบะให้ลงมาคุยกัน แต่คนขับกระบะกลับเปิดประตูลงมาอีกฝั่ง นายโธมัส จึงเดินไปโวยวาย ก่อนจะหันหลังเดินกลับออกมา แต่ชายคนขับกระบะวิ่งตามออกมา



คราวนี้นายโธมัส หันกลับมาผลักอกชายคนขับกระบะ แล้วเดินกลับไปที่รถอีกครั้ง ขณะที่ชายคนขับกระบะเดินตามไปถึงรถแล้วมีการกระทบกระทั่งกันต่อเล็กน้อย ก่อนที่นายโธมัส จะขับรถออกไป



นายโธมัส เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อ 31 ก.ค เวลาประมาณ 14.20 น. ตัวเองกำลังขับรถจะกลับบ้าน มาเจอรถกระบะขับปาดไปมาไม่ยอมให้แซงหลายครั้ง ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน



ด้วยความสงสัยและคาใจอยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น จึงขับรถตามไปถึงบ้านของรถกระบะคันนั้น เห็นประตูบ้านเปิดจึงเดินไปถามคนขับรถ ทราบชื่อ นายธนิต ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่ อบต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ แต่กลับถูกนายธนิต ตามมาจะทำร้าย



นายโธมัส ยอมรับว่าตัวเองผลักอกไปเพื่อป้องกันตัว แล้วรีบเดินออกจากบ้าน แต่นายธนิต ก็ยังตามมาจะทำร้ายถึงที่รถอีก อีกทั้งยอมรับว่า ตนเองเป็นฝ่ายบุกรุกเข้าไปในบ้านคนอื่น เพราะอยากเข้าไปเคลียร์ ให้ขับรถมีสติ เพราะการขับรถในลักษณะดังกล่าวเสี่ยงให้เกิดอันตรายบนท้องถนน



สอบถามนางนิภาพร ภรรยานายโธมัส ซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศ บอกว่า สามีได้รับหมายเรียกของตำรวจ สภ.คูเมือง ว่ามีคนแจ้งข้อหาบุกรุก ยอมรับทำอะไรไม่ถูกเพราะสามีพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงให้เพื่อนบ้านพาไปพบกับพนักงานสอบสวน เมื่อเห็นกล้องวงจรปิดก็ยอมรับว่าได้เดินเข้าบ้านเขาจริง จึงจะยอมจ่ายค่าเสียหายที่บุกเข้าไปในบ้านเป็นเงิน 5,000 บาท แต่นายธนิต ไม่ยอม คาดว่าจะเรียกค่าเสียหายมากกว่านี้



สิ่งที่ตนแปลกใจคือ จากภาพที่ปรากฏสามีแค่ผลักอก แล้วเดินออกมา และอีกครั้งคือผลักกันก่อนสามีจะขึ้นรถ แต่คู่กรณีนำใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานระบุว่าโดนของแข็ง ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง และยังระบุว่า ต้องรักษาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ส่วนตัวคิดว่าใบรับรองแพทย์เกินกว่าเหตุ



ต่อมาได้มีชาวบ้านมาแจ้งว่าสู้เขาไม่ได้หรอก เพราะคู่กรณีเป็นลูกชายอดีตนายก อบต.พรสำราญ เขาเส้นใหญ่ มีเพื่อนเป็นพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง และมีญาติเป็นหมอใน รพ.คูเมือง ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม



ทีมข่าวสอบถามไปที่นายธนิต คู่กรณีนายโธมัส กล่าวว่า ฝั่งนายโธมัส พูดความจริงไม่หมด ความจริงคือเป็นตนเองที่ถูกขับแกล้งก่อน ไม่ยอมให้แซง หลังจากตนแซงได้จึงเอาคืนบ้าง แต่นายโธมัส กลับไม่ยอม ยังขับไล่กวดมาแล้วปาดหน้าให้ตนเองจอด แล้วเอามือทุบรถตนเอง และดึงกระจกส่องหลังจนหัก ตนไม่กล้าลงจากรถจึงขับรถกลับบ้าน จนนายโธมัส เดินตามเข้ามา


https://youtu.be/JnYq6HKHpS8

คุณอาจสนใจ