ผบ.ตร. ยันตำรวจมีหลักฐานเอาผิดจีนเทาก่อน 'ชูวิทย์' แฉ ย้ำไม่มีมวยล้มต้มคนดู

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแจ้งความเอาผิด รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 หลังพบหลักฐานรับเงินแลกปล่อยรถหรู ผับจินหลิง ขณะที่ นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองคนดัง แฉส่งท้ายปี บอกปีหน้าต้องได้ ผบช.น.คนใหม่



ภาพนิ่งที่ นาย ชูวิทย์ นำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก จากมุมกล้องจะเห็นว่าน่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ภาพในกล้องระบุวันที่ 19 ตุลาคม 2565 พร้อมอธิบายว่า นี่คือ ห้องเก็บแลกเงิน ในภาพจะเห็นเงินจำนวนมากที่ถูกวางกองไว้เต็มเคาน์เตอร์



โดยนายชูวิทย์ ระบุว่า ภาพภายในบ่อน หนึ่งในสี่ ภายใต้เครือข่าย "จีนเทา" ของนายตู้ห่าว มีเงินไทยกองเต็มเคาน์เตอร์แลกชิป วันที่ในกล้องก่อนเกิดเหตุที่ "จินหลิง" เพียง 1 อาทิตย์ ในภาพจะเห็นนายตู้ห่าว และหลานชายกำลังเดินตรวจงาน เข้าออกภายในห้องเก็บแลกเงิน ซึ่ง ผบช.น. ที่ทำท่าทางบุกบ่อน "จินหลิง" จะอวดผลงานแรกเข้าตำแหน่ง แต่ดันเจอแผนซ้อนแผน โดนวางงาน ไม่ได้เจอบ่อน แต่ไปเจอหนักกว่ามากคือ ยาเสพติด ของเครือข่ายจีนเทาที่ทำมานาน เลยทำตัวไม่ถูก ทำคดีไม่เป็นเป๋ไปเป๋มา ลูกน้องคนสนิทก็ดันหิวเงิน เรียกรับเงินจีนเทาแลกรถหรูกลาง สน.ยานนาวา เข้าไปอีก เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด



พร้อมทิ้งท้ายว่า หลังปีใหม่จะแฉอีกจนไปถึงเลือกตั้ง จนกว่าจะหา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนใหม่ที่ทำงานเป็นมาปกป้องกรุงเทพได้ วันนี้ส่งท้ายปีเก่า เตรียมฉลองรับตำแหน่งหลังปีใหม่ได้



และก่อนหน้านี้ นาย ชูวิทย์ ยังโพสต์ภาพวงจรปิดของ สน.ยานนาวา เป็นวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ช่วง บ่ายสามโมง 48 นาที มีผู้หญิงคนหนึ่งนำซองสีน้ำตาลมาที่ สน. โดน นาย ชูวิทย์ระบุว่าด้านในซองมีเงินสด 6 แสนบาท นำมาให้ "รักษาราชการแทนผู้กำกับ สน.ยานนาวา" ในขณะนั้น แลกกับการปล่อยรถปอร์เช่ของกลาง ที่ยึดได้จากผับจินหลิง



ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุดคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กรณี พันตำรวจเอก ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เรียกรับเงินแลกกับการปล่อยรถของกลางผับจินหลิง ได้มาแจ้งความเอาผิด พันตำรวจเอก ณัฐพล ที่ สน.ยานนาวาแล้ว วันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา



ในความผิดฐาน มาตรา149 เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลใดมอบหรือให้ซึ่งทรัพย์สิน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท // และมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน



วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ที่ผ่านมามีการดำเนินคดี แจ้งข้อหากับทุกฝ่ายมาโดยตลอด และบางสำนวนที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็ได้พิจารณาส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แล้ว ส่วนข้อมูลที่นาย ชูวิทย์ นำมาเผยแพร่ ทางตำรวจก็มีข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันคดีนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดู

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/j4d5wzR60Xk