'แสนสิริ' ร่อนเเถลงการณ์ แจง 5 ข้อเท็จจริง ยันซื้อที่ดินสุขุมวิท 12 อย่างถูกต้อง

ก่อนโหวตเลือก นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลการซื้อ-ขายที่ดินย่านสุขุมวิท 12 มูลค่านับพันล้านบาท ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ โดยใช้ชื่อการเเถลงครั้งนี้ว่า "แฉเพื่อชาติครั้งสุดท้าย ep.3" กล่าวหาว่าทำนิติกรรมอำพราง ตั้งนอมินีเป็นรปภ.ชาวมุกดาหาร พบเงินทอน 675 ล้านบาท ไหลออกไปนอกประเทศ ขณะที่บริษัทเเสนสิริ ออกเเถลงการณ์ชี้เเจงยืนยันซื้อที่ดินมาอย่างถูกต้อง



ก่อนเริ่มเเถลง นายชูวิทย์ ย้ำว่า นี่จะเป็นการแถลงข่าวครั้งสุดท้าย โดยเริ่มอธิบายกรณีที่ดินสุขุมวิท 12 เป็นที่ดินเปล่า 2 ไร่เศษ ของบริษัท ศ. มีเจ้าของ 4 คน ทุนจดทะเบียน 175 ล้านบาท เป็นที่ดินติดถนนใหญ่



นายชูวิย์บอกว่า การโอนที่ดินเเปลงนี้ เกิดขึ้นในวันศุกร์ 11 มีนาคม 2559 โดยมีบริษัทนอมินีซามัว มีผู้ถือหุ้นหลักคือ บริษัท C. มีที่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง ถือหุ้น 48.57% และมีนาย ช. ถือหุ้น 51.43% ซึ่งมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร



นายชูวิทย์ อธิบายเพิ่มเติมถึงการทำนิติกรรม ในวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ปี 59 ของบริษัท C. ระบุว่ามีการไปปลดจำนองที่ดินในราคา 1,000 ล้านบาท และซื้อหุ้นจากบริษัท ศ. อีก 175 ล้านบาท เท่ากับทุนจดทะเบียน จึงรวมเป็น 1,175 ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 11 มีนาคม ยังคงสถานะเป็นบริษัทสัญชาติไทย



แต่ต่อมาวันจันทร์ที่ 14 มีนาคมปีเดียวกัน ปรากฎว่า บริษัท C. หรือ นอมินีซามัว มีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น โดยบริษัท C. กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 99.99% และมีนาย พ. ถือ 1 หุ้น ส่งผลให้ในขณะนี้บริษัทอยู่ในสถานะเป็นบริษัทนอมินีต่างด้าว โดยมีนาย พ.เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามทุกอย่าง เหมือนกับกรณี รปภ.ส.



นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงบ่ายของวันที่ 14 มีนาคม 59 บริษัทนอมินีต่างด้าว ได้ขายที่ดิน 2 ไร่ ราคาตารางวาละ 565, 000 บาท รวมราคาที่ดิน 499.6 ล้านบาท ให้กับบริษัทลูกของแสนสิริ ซึ่งมีบริษัทแสนสิริถือหุ้น 99.99% และนายเศรษฐาถือ 1 หุ้น โดยนำไปจำนองที่ดินกับธนาคารแห่งหนึ่งในวงกู้ 2,556 ล้านบาท



จากนั้นนายชูวิทย์ ตั้งคำถามว่า ทำได้อย่างไร ในเมื่อบริษัทนอมินีเป็นบริษัทต่างด้าว ข้อสังเกตคือ บริษัทลูกของแสนสิริ (บ.พัฒนศิริ) ซื้อที่ดินมาในราคา 499.46 ล้านบาท แต่กลับพบว่าแสนสิริ ลงบันทึกในงบการเงินระบุต้นทุนค่าที่ดิน อยู่ที่ 1,850 ล้านบาท ซึ่งตรวจสอบโดย บ. EY office Limited ผู้สอบบัญชีระดับโลก



เมื่อนำเงินต้นทุนที่ระบุในการเงินบริษัท 1,850 ล้านบาท ลบกับ เงินปลดจำนองที่ดิน 1,000 ล้านบาท คงเหลือ 850 ล้านบาท



จากนั้น ลบค่าทุนจดทะเบียนอีก 175 ล้านบาท คงเหลืออีก 675 ล้านบาท จึงตั้งคำถามว่า "เงินดังกล่าวหายไปไหน" ก่อนอธิบายเพิ่มว่า เงินทอนตรงนี้ถูกโอนไปที่ฮ่องกง ที่บริษัท C. ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นที่ 16 ถนนเฮนเนสซี่ ฮ่องกง โดยนายชูวิทย์ ได้ส่งทีมงานไปตรวจสอบที่ตั้งของบริษัท C. ปรากฏภาพเป็นบริษัทที่เช่าห้องแถวอยู่ โดยกล่าวหาว่าเป็นเพียงบริษัทผี ตั้งไว้หลอก ๆ ซึ่งยืนยันว่านี่คือบริษัทนอมินี เป็นการวางแผนคอรัปชั่นผู้ถือหุ้น



ล่าสุด บริษัทเเสนสิริ จำกัด ออกเเถลงการณ์ ระบุข้อความ ตามที่ได้มีผู้นำเสนอข้อมูลบิดเบือนพาดพิง เกี่ยวกับวิธีการจัดซื้อที่ดิน ดำเนินการไม่ถูกจ้องตามทกฏหมาย ทำให้ระชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน บริษัทขอชี้เเจงว่า

1.เเสนสิริ เเละบริษัทย่อยของเเสนสิริ กรรมการเเละผู้บริหาร ไม่มีความเกี่ยวข้อใด ๆ กับบริษัท ศิวเเลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเเปลงดังกล่าว

2.เเสนสิริ ไม่เคยรู้จักหรือทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัท Crown city limited

3.เเสนสิริ ซื้อที่ดินบริเวณปากซอยสุขุมวิท 12 ในปี 2559 จำนวน 890.5 ตารางวาในราคาเฉลี่ย 1,950,000 บาทต่อตารางวา

4.เเสนสิริ ไม่เคยโอนเงินไปต่างประเทศเพื่อซื้อขายที่ดิน เเละ

5. เเสนสิริ ชำระราคาที่ดินเเปลงดังกล่าวทั้งหมดจำนวนเงิน 1,734,525,000 บาท

ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฏหมาย โปร่งใสเเละตรวจสอบได้