สังคม

มรดกเดือด! ‘แม่วัย 87’ เปิดใจ ลูกในไส้รวมหัวไล่พ้นบ้านหวังฮุบที่ดิน 60 ไร่ เรื่องจริงไม่มีใครปั่นหัว

โดย JitrarutP

17 มี.ค. 2566

3.3K views

วันที่ 17 มี.ค. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ กิม แม่วัย 87 ปี เจ้าของที่ดิน, ฟาฏินา (ลูกคนที่ 5) และทนายแก้ว พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ สมชาย ลูกคนที่ 4, อนันต์ ลูกคนที่ 6 ถึงกรณีปมปัญหาที่ดิน 60 ไร่ แม่อ้างถูกลูกรวมหัวทำร้าย ข่มขู่ให้พ้นบ้านหวับฮุบมรดก



แม่กิมเล่าว่า มีลูกทั้งหมด 6 คน คนแรกชื่อนายประกาศิต คนที่ 2 นางรัตนา คนที่ 3 นางวรณี คนที่ 4 นายสมชาย คนที่ 5 ฟาฏินา และคนที่ 6 นายอนันต์  ปรากฏว่าเรื่องมรดกที่ดินของแม่ 60 ไร่ ของแม่เป็นปมปัญหา ทำให้พี่น้องแบ่งกันออกเป็น 2 ฝ่าย มีฟาฏินา กับ รัตนา ที่อยู่ข้างแม่ ส่วนลูกอีก 4 คน คือ ประกาศิต วรณี สมชาย และ อนันต์ เป็นฝ่ายที่มีปัญหากับแม่

เรื่องราวเปิดเผยเมื่อมีคลิปหนึ่งถูกปล่อยออกมา เป็นภาพวันที่ นายอนันต์ ลูกคนสุดท้องบุกไปที่บ้านของแม่ที่ จ.พังงา ไปตัดกล้องวงจรปิด ถีบประตูพัง อ้างว่าไม่พอใจที่ถูกยิ้มเยาะ อาละวาดไล่แม่ออกจากบ้าน มีการทำร้ายบีบคอแม่ แล้วยังข่มขู่ ลูกชายลูกสะใภ้ของฟาฏินา ว่าถ้าเจอที่ไหนจะตบที่นั่น เหตุการณ์วันนั้น ฟาฏินา ลูกคนที่ 5 ที่คอยดูแลแม่ ไม่อยู่บ้าน แต่ลูกๆ โทรไปบอก ทำให้ฟาฏินาโทรแจ้งผู้กำกับโรงพักเข้าไปช่วยระงับเหตุ สุดท้ายแม่กิมต้องหนีออกมาจากบ้านหลังนั้น ไปอยู่กับรัตนา ที่ จ.นครศรีธรรมราช



หลังลูกๆ ไล่แม่ออกจากบ้านแล้ว แม่ก็ยังคิดจะยกที่ดินให้ลูกๆ ตามเดิม โดยให้อัยการนัดไกล่เกลี่ย แต่วันที่นัดไกล่เกลี่ย ลูกอีก 4 คนไม่ยอมมา แต่หลังจากนั้นเขาตามมาระรานแม่ ที่ จ.นครศรีธรรมราชอีก



โดยมีอีก 1 คลิป เป็นเหตุการณ์ที่แม่หนีออกจากบ้านหลังดังกล่าว ไปอยู่ที่บ้านของรัตนา ลูกสาวคนที่ 2 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ปรากฏว่าลูก 3 คน คือสมชาย วรณี และอนันต์ ตามมารังควาญแม่ที่บ้านที่นครศรีธรรมราช มีคำพูดที่พูดว่า ต้องขอบคุณผู้กำกับที่เข้าไปวันนั้น ถ้าเขาไม่เข้าไป พวกผมคงติดคุกติดตะราง ฐานฆ่าแม่ตัวเองไปแล้ว



สำหรับปมที่ดินปัญหา 60 ไร่ เป็นที่ดินทำกินที่ไม่มีโฉนด แม่กิมเข้าไปครอบครองตั้งแต่ปี 2529 จากนั้นได้ใช้เป็นที่ดินทำกินเรื่อยมา พร้อมทั้งปลูกบ้านอาศัย โดยที่ดินนี้ แม่กิมแบ่งให้ลูกๆ เข้าไปทำกิน แต่พินัยกรรมเขียนไว้ชัดเจนว่า กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของลูกแต่ละคนยามที่แม่เสียชีวิตแล้ว และยังมีที่ดินที่นครศรีธรรมราช ที่แบ่งไว้ให้ลูกสาวคือ รัตนา กับ ฟาฏินา แต่แม่กิมบอกว่า ลูกอีก 4คน หวังจะฮุบที่ดินผืนนี้ไปทั้งหมด



ต่อมาลูกๆ อีกฝ่ายได้โฟนอินเข้ามาชี้แจง โดยนายอนันต์ ลูกคนสุดท้องบอกว่า บ้านหลังที่ไล่แม่ออกมา เป็นชื่อของตนตามทะเบียนบ้าน แต่ฟาฏินาไม่ยอมให้ตนเข้าไปอยู่ในบ้านเลย ตัวฟาฏินาและรัตนา ก็ได้ที่ดินที่นครศรีธรรมราชไปแล้ว แล้วยังมาได้ที่ที่พังงาอีก ซึ่งที่พังงานี้แรกเริ่มไร่ละ 1,000 บาท เป็นที่ดินห่างไกลความเจริญ ตนกับพี่น้องไปช่วยกันสร้างกันมาจนราคาที่พุ่งขึ้นมาเป็นแสน แต่ฟาฏินากับรัตนาปั่นหัวแม่ คิดจะฮุบที่ดินเป็นของตัวเอง ไม่เป็นธรรมกับพี่น้องที่เหลือ



ขณะที่อีกเรื่องหนึ่งที่แย้งกันก็คือ นายสมชาย บอกว่าแม่กิมยกที่ดิน 60 ไร่ แบ่งให้สมชาย 14 ไร่ แล้วสมชายไปซื้อที่ดินเพิ่มอีก 22 ไร่ที่อยู่ติดกัน  ขณะที่แม่กิมบอกว่าไม่จริง ไม่เคยยกที่ให้นายสมชายสักไร่เดียว เขามีอาชีพค้าขาย ไม่ได้ทำสวนทำไร่ แล้วแม่เคยไปอยู่กับสมชายช่วงสั้นๆ ช่วงปี 2552 สมชายมีพฤติกรรมไม่ดี แม่จึงตักเตือน แต่สมชายกลับด่าแม่ว่า “ชาวนรก” ซึ่งเป็นคำรุนแรงมาก ทำให้แม่ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่เจอหน้าสมชายอีกเลยเป็นเวลากว่า 10 ปี



ขณะที่สมชาย บอกว่า ไม่เคยพูด ไม่เคยเถียงแม่ แต่ที่เขากล่าวหา เป็นวาทกรรมที่พี่สาวคือ รัตนา สร้างขึ้นมา ไปยุงยงให้แม่เข้าใจว่าตนเป็นลูกทรพี แล้วที่มีเสียงตนในคลิปพูดว่าถ้า ผกก.ไม่เข้าไป ตนคงเป็นลูกฆ่าแม่ไปแล้ว ตนหมายความว่า ถ้าตำรวจไม่เข้าไปตอนนั้น คนก็คงไม่รู้ว่าข้อเท็จจริง คงไปหลงเชื่อฟาฏินา ว่าตนเป็นลูกทรพีฆ่าแม่ ซึ่งไม่ใช่เลย



ขณะที่อนันต์ ตนอยู่กับแม่มากี่สิบปี ตนรักแม่แค่ ถามว่า มันเป็นไปได้ไหมที่ลูกจะชั่วพร้อมกัน 4 คน ถ้าแม่ลืมลูก 4คน เหลือแค่ลูกสาว 2 คน ตนก็ไม่รู้จะพูดอะไร โดยนายอนันต์ได้เขียนกลอนบทหนึ่งส่งให้แม่มาแล้ว เนื้อหาในบทกลอนบอกว่าแม่เป็นคนดี แต่ถูก ดร.ฟา (ฟาฏินา) ปั่นหัวหวังปอกลอก สามารถไปตรวจสอบที่โรงพักได้เลยว่า พี่น้อง 4 คนถูกแจ้งตำรวจจับ โดยคนที่แจ้งคือฟาฏินา แต่ให้แม่เป็นคนเซ็น ประหนึ่งว่าแม่แจ้งจับลูกตัวเอง



ขณะที่ แม่กิมและฟาฏินา ยืนยันว่า ที่อีกฝ่ายพูดมาไม่เป็นความจริง สมชายเป็นแรกด้วยซ้ำที่บุกไปไล่แม่ และฟาฏินาออกจากบ้าน และที่ไปแจ้งความจับลูก 4 คน แม่ตัดสินใจไปแจ้งความเอง เพราะเขาบุกเข้ามาในบ้าน มาตัดกล้องวงจรปิด แม่บอกแม่จะไปแจ้งความ เขายังท้าให้ไปแจ้งได้เลย



ทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ชี้ว่า เรื่องนี้แม่สามารถไปฟ้องเอาที่ดินคืนได้ แต่ถ้าเป็นไปได้เพื่อความสมานฉันท์ อยากให้ในครอบครัวมาพูดคุย ไกล่เกลี่ยกันใหม่ จะดีกว่า แต่แม่กิมยืนยันว่าไม่ให้แล้ว แม่เคยเตือนแล้วว่าอย่าให้เรื่องมันใหญ่โต แต่ตอนนี้เรื่องมันถึงศาล มีการออกหมายศาลไปแล้ว แล้วลูกๆ 4 คน ก็หวังจะฮุบเอาทั้งหมด ในเมื่อเรื่องถึงศาลแล้ว ก็ไปคุยกันที่ศาลทีเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News