สาวสุดช้ำ อดีตสามีติดยา บุกกระทืบต่อหน้าลูก ลั่นจากนี้ไม่ขอทน ขอดำเนินคดีถึงที่สุด

โหนกระแสวันนี้ (11 เม.ย.2565) พูดคุยประเด็นความรุนแรงในครอบครัว กรณีสาว เปิดร้านสักลาย ได้หย่าขาดกับอดีตสามีตั้งแต่ปี 2559 แล้วแต่ยังอยู่ด้วยกันเพื่อเรื่องธุรกิจและดูแลลูก แต่ฝ่ายชายยังแสดงความหึงหวง ด่าทอลูกค้าผู้ชาย และทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา

เนื่องจากติดยาเสพติด จนมีปัญหาทางจิต แต่ไม่เคยไปพบแพทย์ อ้างว่าตัวเองไม่เป็นอะไร บางครั้งเกิดอาการหลอน คิดว่าภรรยาเป็นตำรวจ จนทำร้ายภรรยาอย่างหนัก บางครั้งก่อเหตุต่อหน้าลูก ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนัก ตาแตก กรามร้าว

ล่าสุดฝ่ายชายหนีไป ยังตามตัวไม่เจอ ทางภรรยาจึงหวั่นความปลอดภัย ยืนยันจะไม่ขอกลับไปอยู่กับสามีอีก และจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เมื่อแจ้งความแล้ว ตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยหลายครั้ง และบอกว่าอยากให้กลับไปอยู่ด้วยกันเพื่อลูก

ขณะที่ นางรุ่งทิวา สุดแดน รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยว่า ต้องไม่เพิกเฉยต่อความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งทาง พม.มีช่องทางไลน์ เพื่อนครอบครัว และสายด่วน 1300 ในการแจ้งปัญหาความรุนแรง และสารพันปัญหาครอบครัว

ด้าน ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ระบุว่า การทำร้ายร่างกาย มีความผิดตามมาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ไม่ควรมีการอ้างว่ามีอาการทางจิต หรือติดยา เป็นเหตุผลในการทำร้ายคนรักในครอบครัว และไม่ควรให้มีการยอมความ ทางตำรวจต้องเปลี่ยนกระบวนการใหม่ เพราะหากปล่อยไว้ อาจเกิดเหตุรุนแรงถึงชีวิตได้ในอนาคต และปัญหาสังคมที่รุนแรงตามมา