สังคม

เงินเก็บทั้งชีวิตหายวับ! ครึ่งวันสูญเกือบ 4 ล้าน! ป้า-หลานชายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ลักษณะเดียวกับ 'ชาล็อต'

โดย panisa_p

3 ชั่วโมงที่แล้ว

1.1K views

วันนี้ (12 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก แค่ครึ่งวันสูญเงินเกือบ 4 ล้านบาท ทั้งป้าและหลานชายทุกข์ใจหนักมาก เพราะเป็นเงินจากการทำงานที่เก็บมาทั้งชีวิต ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางอภัย อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านกุดค้า หมู่ 10 ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และนายรพีภัทร อายุ 17 ปี หลานชาย นำเอกสารใบแจ้งความกับ ตร.สภ.ทุ่งฝนและเอกสารการโอนเงินไปยังบัญชีม้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 4 บัญชี โดยโอนไปทั้งหมด 12 ครั้ง ครั้งละ 49,9900 บาท ครั้งละแสน ครั้งละล้านบาทก็มี โอนเงินไปทั้งหมด 12 ครั้งรวมสูญเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 3,412,642 บาท


นางอภัย บอกว่า ตนกับสามีเก็บเงินมาทั้งชีวิต เงินที่สูญไปเกือบ 4 ล้านบาทให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นเงินเก็บที่สามีไปทำงานเมืองนอกมากว่า 18 ปีและเงินที่ตนเองไปทำงานที่ จ.ระยอง เก็บหอมรอมริบมาเรื่อยๆ จุดเริ่มต้นคือเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้าเบอร์หลานชาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ บอกว่า หลานชายไปเกี่ยวข้องกับคดีอะไรสักอย่าง จะมีการจับกุม ให้โอนเงินไปตรวจสอบ โดยตอนแรกหลานชายก็ตกใจนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง เขารู้ชื่อ รู้หมายเลขบัตรประชาชนหมด ตอนแรกยังไม่บอกย่า หลานก็แอบโอนเงินจากย่าไปให้เขา โอนไปครั้งแรก 49,999 บาท และโอนต่อไปเรื่อยๆ ล้านกว่าบาท


หลังจากนั้นหลานก็มาบอกย่าว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกว่ามีคดี เราก็เลยเชื่อไปกับหลาน ไม่อยากให้หลานเจอคดี มีเงินฝากประจำอยู่อีก 2 ล้านบาทก็พาหลานชายไปเบิกในวันนั้น พอได้เงินออกมาแล้วเอาเข้าบัญชีหลานชาย โอนไปให้เขาอีก ยังไม่พอพวกนี้ยังโทรมาบอกว่า มีบ้าน มีรถหรือมีทรัพย์สินอื่นอีกไหม ให้เอาไปจำนำ จำนองให้หมด เพื่อเอาเงินสดโอนมาตรวจสอบอีก แต่ทีนี้หลานชายคิดว่าถูกหลอกแน่ จึงไม่ทำตามเขา และหลานชายโทรไปก็ไม่รับสายอีกเลย 


ด้านหลานชาย บอกว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาเป็นผู้หญิง อ้างว่าชื่อ ร.ต.อ.ประภัสสร อ้างเป็น DSI จากนั้นให้แอดไลน์ เป็นภาพตำรวจจริงๆ เขาก็ถามว่า นายรพีภัทร์ใช่ไหม ตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ เขาบอกว่าไปเกี่ยวข้องกับคดีเกี่ยวข้องนายศรัทธา ต้องมีการดำเนินคดี ตอนนี้อายัดบัญชีไว้แล้ว ปลายสายเขาก็บอกว่า ถ้าไม่เชื่อลองเข้าแอปฯ ธนาคารดู ปรากฏว่าแอปฯ ธนาคารก็เข้าไม่ได้จริงๆ จากนั้นเขาก็โอนสายไปให้กับ ร.ต.อ.บุญมี อ้างว่าอยู่ สภ.เมืองนครราชสีมา เขาก็โชว์เอกสาร และส่งมาให้ดูด้วย เป็นคำสั่งลับทางราชการลับพิเศษของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโยลีและหนังสืออายัดบัญชี ห้ามแพร่งพรายข้อมูลนี้ให้กับใคร แม้แต่ ตร.ในพื้นที่ 


พร้อมกับแจ้งว่าตนเองมีคดีเกี่ยวกับนายศรัทธา หากไม่อยากถูกดำเนินคดีต้องโอนเงินไปตรวจสอบ หากไม่ดำเนินการจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ถึงขั้นนั้นแล้วช่วยไม่ได้ ด้วยความตกใจเพราะเขารู้ชื่อ ถามบัตรประชาชนก็บอกหมายเลขถูก ตนเองจึงเอาแอปฯ ธนาคารของย่าโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง เพื่อโอนไปให้เขา ช่วงที่คุยกับเขา เขาไม่ยอมวางสายเลย โอนไปทั้งหมด 12 ครั้ง 4 บัญชี รวมเป็นเงิน 3,412,642 บาท และจากการที่คุยกับเขา เขาบอกว่าเกี่ยวข้องคดีกับนายศรัทธา และเมื่อดูข่าวลักษณะเดียวกันกับพี่ชาล็อต ออสตินที่สูญเงิน 4 ล้านบาท ลักษณะตรงกันเลย ตนอยากให้ตำรวจติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ อย่าให้ไปทำกับคนอื่นอีก

คุณอาจสนใจ

Related News