สังคม
ศาลฎีกายืนคุกตลอดชีวิต ‘ผอ.ตุ๊’ ฆ่าอำพราง ‘น้องหลิว’ สาวโรงงาน ทิ้งศพป่าอ้อย สั่งชดใช้ 1.7 ล้าน
โดย petchpawee_k
31 ต.ค. 2567
439 views
ศาลฎีกายืนจำคุก ผ.อ.โรงเรียน ตลอดชีวิต หลังก่อเหตุฆ่าอำพราง “น้องหลิว” สาวโรงงานวัยรุ่น เมื่อ 12 ปีที่แล้ว หลังญาติแจ้งลูกหายกับมูลนิธิกระจกเงา ตามหาจนพบว่าเป็นศพนิรนามถูกฆ่าอำพราง
วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ผู้พิพากษาขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาฎีกา คดีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องหา ฆาตกรรม “น้องหลิว”สาวโรงงานวัย 19 ปี เหตุเกิดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำเลย “จำคุกตลอดชีวิตและให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1.7 ล้านบาท”
คดีนี้เริ่มต้น เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน 2555 นางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือน้องหลิว อายุ 19 ปี เดินทางออกจากบ้านที่ ม.3 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อไปทำงานโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี กระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคม 2555 น้องหลิวหายตัวไปโดยจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่ห้างโลตัส สาขาคลองรั้ง ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 304
เพื่อนร่วมงานได้มาตรวจสอบที่ห้องพัก ยังพบเสื้อผ้าข้าวของของคนหายอยู่ในห้องเหมือนปกติ จนต่อมามีผู้ปล่อยข่าว โดยมีเบอร์แปลกส่ง sms ไปยังเพื่อนสนิทของคนหาย ว่าคนหายไปทำงานต่างประเทศ ไม่ต้องเป็นห่วง ครอบครัวได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ และพยายามตามหาด้วยตัวเอง โดยการสอบถามข่าวไปยังกลุ่มเพื่อนของคนหาย และโพสต์ตามหาในโลกออนไลน์
กระทั่งปี 2562 ทางครอบครัวเห็นว่าน้องหลิวขาดการติดต่อไปนานแล้ว และดูข่าวที่มูลนิธิกระจกเงาตามหาคนที่หายออกจากบ้านไปนาน จากการนำข้อมูลคนหายไปตรวจเทียบกับศพนิรนาม จึงพยายามอีกครั้งในการติดตามหาน้องหลิว จึงแจ้งเรื่องน้องหลิวหายตัวไปมายังมูลนิธิกระจกเงาให้ช่วยติดตาม โดยมูลนิธิกระจกเงา ได้ประสานตรวจสอบข้อมูลคนหายในระบบต่างๆไม่พบความเคลื่อนไหว และไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกประเทศ
มูลนิธิกระจกเงา ได้ประเมินข้อมูลที่ตรวจสอบและข้อมูลแวดล้อมอื่นๆของคนหาย โดยเฉพาะปมเรื่องความสัมพันธ์ จึงมีการตั้งประเด็น เรื่อง น้องหลิวอาจเสียชีวิตแล้วเป็นศพนิรนามนอกพื้นที่ที่หายไป
ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา จึงลงพื้นที่ประสานงานตามโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อจุดที่หายไป กระทั่งพบข้อมูลศพนิรนามเพศหญิง ต้องสงสัย 3 ศพ ซึ่งทั้งหมดถูกฆาตกรรมเสียชีวิตและนำศพไปทิ้งอำพราง
ต่อมาต้นปี 2554 มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ มารดาน้องหลิว ตรวจเทียบกับดีเอ็นเอ ศพนิรนามทั้งสามศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างกระดูกของศพไว้ เมื่อนำมาเทียบดีเอ็นเอกัน พบว่า ศพหญิงนิรนามที่ถูกพบเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 บริเวณไร่อ้อย หมู่ 13 ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ตรงกับดีเอ็นเอของมารดาน้องหลิว
โดยศพมีสภาพเน่าอืด ใบหน้าเปลี่ยนรูป ไม่มีเอกสารติดตัว ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบบาดแผลจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายจุด จากนั้นถูกส่งไปฝังที่สุสานแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีนานกว่า 8 ปีกลายเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ กระทั่งเกิดการติดตามจนทราบว่าศพดังกล่าวเป็นน้องหลิวที่หายตัวไป
หลังทราบผลว่าศพนิรนามที่ถูกฆาตกรรมคือน้องหลิว มูลนิธิกระจกเงา ได้ประสานตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งทำงานร่วมกับสถานีตำรวจภูธรวัฒนานคร รวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลออกหมายจับ ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับคนหายมาหลายปี และมีปมความขัดแย้งหึงหวง ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือเหตุอันควร
ต่อมา เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกผู้ต้องหาตลอดชีวิตและให้ชดใช้ค่าเสียหายกับโจทก์ร่วม 1.7 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น กระทั่งในวันนี้ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ปิดตำนานกว่า 12 ปี คืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวน้องหลิวผู้เสียชีวิต และนับเป็นอีกหนึ่งคดีที่มูลนิธิกระจกเงา สามารถติดตามคนหายจากการตรวจเทียบข้อมูลดีเอ็นเอระหว่างคนหายกับศพนิรนาม
แท็กที่เกี่ยวข้อง ศาลฎีกา ,จำคุกตลอดชีวิต ,ฆ่าอำพรางศพ ,คุกตลอดชีวิต ,ทิ้งศพป่าอ้อย