สังคม

ผู้ปกครอง ร้อง ลูกได้ทุน แต่โรงเรียนไม่จ่าย ผอ. แจง นำไปซื้ออุปกรณ์การเรียน-กีฬาแล้ว

โดย parichat_p

9 ต.ค. 2567

48.8K views

ผู้ปกครอง ร้องเรียน ลูกได้รับเงินปัจจัยพื้นฐาน 500 บาทจากกองทุนนักเรียนยากจน แต่ทางโรงเรียนไม่ให้สักบาท ผู้อำนวยการ ชี้แจง นำเงินไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดกีฬาแจกทั้งโรงเรียน ตามระเบียบ 4 ข้อที่สามารถทำได้ 


วันนี้ (9 ตุลาคม 2567) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนใน อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ซึ่งมีการประชุมผู้ปกครองที่อาคารเอนกประสงค์ภายในโรงเรียน โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน แจ้งกับผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษา ที่มาร่วมประชุมวันนี้ ว่า โรงเรียนได้รับการอนุมัติจาก สพป.ขอนแก่น เขต 2 ให้ทำการมอบทุนการศึกษา ในโครงการ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน คนละ 500 บาท ซึ่งนักเรียนในโรงเรียนมีทั้งหมด 173 คน ได้รับเงินทุนดังกล่าว จำนวน 114 คน ทั้งยังจะมอบเงินกองทุนเสมอภาคให้นักเรียนในระดับอนุบาล 1-3 คนละ 2,000 บาท และมอบให้นักเรียนระกับชั้น ป.1-ชั้น ป.6 ทุกคนๆละ 1,740 บาท



บรรยากาศที่ประชุม หลังจากที่ผู้อำนวยการได้แจ้งในที่ประชุมถึงการมอบทุนทั้ง 2 โครงการให้ทราบแล้วนั้น ผู้ปกครองนักเรียนหลายคนต่างพากันลุกสอบถามถึงรายละเอียดการมอบทุน โดยเฉพาะทุนในโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน ที่นักเรียนจะต้องได้คนละ 500 บาท ผู้ปกครองหลายคน ต่างก็แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีบุตร เรียนในโรงเรียนแห่งนี้ มีชื่อรับทุนการศึกษา แต่พ่อแม่ ไม่เคยทราบเรื่องว่ามีทุนดังกล่าว และไม่เคยทราบว่าบุตรต้องได้รับทุน เพราะที่ผ่านมาพ่อแม่ ซื้อชุดนักเรียน ชุดพละเองทั้งนั้น ส่วนอุปกรณ์การศึกษาทราบเพียงว่า รัฐบาลสนุบสนุนโรงเรียนอยู่แล้ว จึงขอให้ผู้อำนวยการชี้แจงรายละเอียด



ผู้อำนวยการโรงเรียน ชี้แจงต่อผู้ปกครองว่า มารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2563 ก็เห็นว่ามีโครงการดังกล่าว อยู่แล้ว ซึ่งพบว่าในช่วงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการคนเดิมนั้น มีการบริหารจัดการกับเงินของโครงการดังกล่าว เป็นการใช้งบประมาณ ในลักษณะแบบถัวจ่ายค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายนักเรียน เช่นค่าพาหนะในการเดินทาง


ซึ่งสถานศึกษาสามารถเลือกวิธีดำเนินการจ่ายหรือจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนยากจนได้ตามความเหมาะสมคือ ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน จัดซื้อแจกจ่ายให้แก่นักเรียนหรือให้ยืมใช้ ค่าเสื้อผ้าและวัสดุครื่องแต่งกายนักเรียน จัดซื้อหรือจัดจ้อจัดจ้างจ่ายให้แก่นักเรียน ค่าอาหารกลางวัน จัดซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารหรือจ้างเหมาทำอาหารหรือจ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรงค่าพาหนะในการเดินทาง จ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรงหรือจ้างเหมารถรับกรณีการดำเนินการจัดซื้อ-จัดจัาง-จัดทำ ต้องทำเนินการตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนกรณีจ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรง ให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการอย่างน้อย 3 คนร่วมกันจ่ายเงิน


โดยใช้ใบสำคัญรับเงินเป็นหลักฐาน ซึ่งภายหลังผู้อำนวยการชี้แจง ผู้ปกครองนักเรียนอีกหลายคนก็ยัง คลางแคลงใจต่างก็บอกว่า เงินทุน ในโครงการต่างๆ นักเรียนที่มีรายชื่อ ต้องได้รับเป็นเงินสดเท่านั้น หากกรณีที่โรงเรียนต้องการใช้เงินไปใช้ในทางอื่นๆ โรงเรียนต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ และผู้ปกครองจะเป็นผู้เซ็นอนุมัติ โรงเรียนจึงจะใช้เงินทุนของนักเรียนได้ เท่ากับว่าที่ผ่านมา ผู้อำนวยการนำเงินนักเรียนไปใช้ผิดประเภท เป็นการใช้เงินที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งโรงเรียนไม่เคยแจ้งให้ พ่อแม่ของนักเรียนทราบมาก่อนว่า บุตรได้รับทุนการศึกษา



ซึ่งในคำถามดังกล่าวนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวต่อผู้ปกครองในที่ประชุมว่า เห็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดิม ทำมา ด้วยการนำเงินโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน ที่นักเรียนจะต้องได้คนละ 500 บาท ไปใช้จ่ายในการซื้อชุดพละให้นักเรียน และซื้อสิ่งจำเป็นอื่นๆ จึงทำตาม เพราะไม่คิดว่าจะเกิดปัญหา แต่ตอนนี้ทราบแล้วว่านำเงินไปใช้ผิดประเภท และจะแก้ไขให้ทุกอย่าง และขอยืนยันว่า ทุกกองทุนที่นักเรียนจะได้เงินมานั้น โรงเรียนมีหน้าที่เพียงส่งรายชื่อให้กองทุนนั้นๆ ไม่มีสิทธิ์พิจารณาว่าจะให้หรือไม่ให้ และในวันนี้ การที่โรงเรียนมอบเงินทุนให้นักเรียนเป็นเงินสดคนละ 500 บาท เพราะได้รับการอนุมัติจาก สพป.ขอนแก่น เขต 2 จึงได้ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาให้ทราบว่าได้เงินมาแล้ว และได้รับอนุมัติแจกเงินแล้ว จึงแจ้งผู้ปกครองนักเรียนมารับเงินในวันนี้ และการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จบลงที่โรงเรียนจ่ายเงินทุนให้กับผู้ปกครองตามที่ได้รับการอนุมัติ 114 รายๆละ 500 บาท



ต่อมาผู้ปกครองท่านหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ ว่า เป็นมารดาที่มีบุตรเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ 3 คน โดยบุตรคนโตนั้นมีชื่อรับทุนในโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน ซึ่งต้องได้รับเงิน 500 บาทในเทอมแรกของปี พ.ศ. 2564 เป็นช่วงที่ลูกตนโตเรียนอยู่ชั้น ป.6 แต่ขณะนี้ลูกเรียนจบชั้นป.6 แล้ว และไปเรียนในระดับมัธยมที่โรงเรียนอื่นแล้ว ส่วนบุตรคนที่ 2 จากการตรวจสอบพบว่า มีชื่อรับทุนดังกล่าวในช่วงเรียน ป.3 เทอม 2 ของพ.ศ.2563 และขณะนี้จบชั้นป.6 แล้ว ไปเรียนในระดับมัธยมที่โรงเรียนอื่นแล้ว


ส่วนบุตรคนที่ 3 ขณะนี้เรียนอยู่ชั้นป.2 ที่โรงเรียนแห่งนี้ มีชื่อรับทุนในโครงการดังกล่าวในเทอมแรก ขอยืนยันว่าที่ผ่านมา มาประชุมผู้ปกครองเป็นบางครั้ง แม้ไม่ได้มาทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยทราบว่าโรงเรียนมีทุนการศึกษาให้นักเรียน และไม่เคยรู้ว่า ลูก 2 คน ที่เรียนจบชั้นประถมจากโรงเรียนแห่งนี้มีชื่อรับทุนการศึกษาในโครงการดังกล่าวด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเชื่อได้ว่าทางโรงเรียนนำเงินทุนของนักเรียน ไปใช้ผิดประเภท เพราะตามความเข้าใจส่วนตัว นักเรียนที่มีชื่อรับทุน พ่อแม่ ต้องมารับกับลูก และถ้าโรงเรียนจะนำเงินทุนการศึกษาของนักเรียนไปใช้ ต้องแจ้งให้พ่อแม่ของนักเรียนทราบเรื่อง เพื่ออนุมัติการใช้เงิน แต่ที่ผ่านมา โรงเรียนไม่เคยแจ้ง จึงรับฟังที่ผอ.ชี้แจงได้ แต่ยอมรับไม่ได้



เช่นเดียวกับนางสาวนพรัตน์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้แดงขึ้นมาเพราะมีครูในโรงเรียน นำรายชื่อของนักเรียนที่มีชื่อรับทุนการศึกษาจากโครงการดังกล่าว ส่งให้ผู้ปกครองนักเรียนทราบ จึงได้รู้ และทำการตรวจสอบกับ สพป.ขอนแก่น เขต 2 ว่าที่โรงเรียนแห่งนี้ มีโครงการนี้มีโครงการดังกล่าวจริงหรือไม่ และนักเรียนที่มีรายชื่อรับทุนนั้น ได้รับจริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับ เงินหายไปไหน หรือทางโรงเรียนนำเงินไปทำอะไร แต่ทางสพป.ขอนแก่น เขต 2 ไม่รับเรื่องเพื่อตรวจสอบให้ จึงได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแฮด ให้ทำการตรวจสอบการจ่ายเงินทุนในโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน ของโรงเรียนดังกล่าว และจะเข้าร้องเรียนที่ ปปช.ขอนแก่นต่อด้วย



ทางด้านแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีบุตร 2 คน บุตรคนโตเคยมีชื่อรับทุนในโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน 500 บาท ตอนเรียนชั้น ป.4 จนจบชั้นป.6 แต่ไม่เคยได้รับแม้แต่ครั้งเดียว แต่ได้รับทุนในโครงการยากจนพิเศษ เทอมละ 1,500 บาท จึงอยากให้โรงเรียนพิจารณาเงินที่ต้องจ่ายให้นักเรียนคนละ 500 บาท บุตรตนมีชื่อรับทุน แต่ไม่ได้รับ รวม 3 ปี เป็นเงิน 3,000 บาท ขอให้ทางโรงเรียนนำเงินมาจ่ายให้ด้วย ส่วนบุตรคนที่ 2 นั้น เรียนชั้น ป.3 และเพิ่มมีชื่อรับเงินทุนในโครงการดังกล่าว ในปี 2567 เป็นเทอมแรก ฝากถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาแก้ไขการใช้ระเบียบ การใช้งบประมาณเงินทุนการศึกษาในโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน 500 บาท อย่ามีกฏที่ชี้ช่องโหว่ให้โรงเรียนนำเงินทุนของนักเรียนไปใช้อย่างอื่น เพราะผู้ปกครองของนักเรียน หลายคนไม่มีจะกิน หากได้เงินทุนของบุตรมาก็สามารถนำมาใช้จ่ายในครอบครัวได้ ขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยพิจารณาแก้ไขให้ด้วย



ขณะที่นางสาวลูกน้ำ มีบุตรเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ กล่าวว่า มีบุตรเรียนชั้น ป.4 มีชื่อรับทุนการศึกษาในโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน 500 บาท ตั้งแต่ปี 2564 มาจนถึงปี 2566 และเพิ่งได้ในเทอมแรกของปี 2567 อยากถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่า บุตรตนมีชื่อตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปี 2566 รวม 3 ปี 6 เทอม เป็นเงิน 3,000 บาท เงินจำนวนดังกล่าวหายไปไหน เพราะตั้งแต่บุตรเข้าเรียนก็ซื้อชุดกีฬาเองมาตลอด ชุดละ 120 บาท ที่ผอ.ชี้แจงในที่ประชุมว่าทำตามผอ.คนเดิมเคยทำที่จัดสรรเงินไปใช้ซื้อชุดกีฬาให้นักเรียน อยากจะบอกว่า ผอ.ข้ามขั้นตอน เพราะผอ.ไม่เคยแจ้งให้ผู้ปกครองนักเรียนทราบ จึงเป็นการใช้เงินผิดประเภท จึงอยากให้ผอ.นำเงินมาคืนให้ครบทุกบาทด้วย



นอกจากนี้ ฝ่ายผู้ปกครองที่ร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแฮด ได้มอบเอกสารที่มีรายละเอียดการรับเงินโครงการปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน 500 บาท ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2ของปีการศึกษา 2563 จนถึงปีการศึกษา 2567 ภาคเรียนที่ 1 มามอบให้กับผู้สื่อข่าว ซึ่งมีรายละเอียดที่ระบุในเอกสารว่า ปีการศึกษา 2563 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 70 คน เป็นจำนวนเงิน 35,000 บาท ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 104 คน เป็นจำนวนเงิน 52,000 บาท ปีการศึกษา 2564 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 82 คน เป็นจำนวนเงิน 41,000 บาทปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 101 คน เป็นจำนวนเงิน 50,500 บาท ปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 100 คน เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 125 คน เป็นจำนวนเงิน 62,500 บาท ปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 119 คน เป็นจำนวนเงิน 59,500 บาท และปัจจุบัน ปีการศึกษา 2567 ภาคเรียนที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 59,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 410,000 บาท



ขณะที่นางละอองดาว หนึ่งในคณะกรรมการสถานศึกษา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการจะมีการประชุมหารือกับคณะกรรมการสถานศึกษาตลอด แต่ไม่เคยแจ้งให้ทราบว่ามีทุนการศึกษา โครงการ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน คนละ 500 บาทแต่อย่างใด จึงไม่ทราบรายละเอียด ล่าสุดแจ้งเพียงว่าจะมอบทุนการศึกษาตามที่ สพป.ขอนแก่น เขต 2 อนุมัติ จึงมาร่วมประชุมด้วย ถึงได้รู้ว่า มีทุนการศึกษาจากโครงการดังกล่าว และถ้าเป็นตามที่ผู้ปกครองนักเรียน สอบถามผู้อำนวยการในที่ประชุม แล้วผู้อำนวยการบอกว่านำเงินไปใช้ตามที่พูดมานั้น โดยส่วนตัวจึงคิดว่า เอาเงินไปใช้ผิดประเภท เพราะเงินทุน ก็ต้องจ่ายเป็นเงินสดให้นักเรียนเท่านั้น และเมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ ในการประชุมครั้งต่อไป ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องชี้แจงให้โปร่งใสให้ได้



ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เงินปัจจัยพื้นฐาน 500 บาทนั้น ทางโรงเรียนได้รับการจัดสรรมาจากทางกองทุนนักเรียนยากจน ซึ่งไม่ได้ให้นักเรียนทุกคน ส่วนการจ่ายเงิน ก็มีระเบียบในการจ่าย 4 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย


1.ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน

2.ค่าเสื้อผ้าและวัสดุแต่งกายนักเรียน

3.ค่าอาหารกลางวัน

4.ค่าพาหนะในการเดินทางจะจ่ายเป็นเงินสดหรือจ้างเหมาก็ได้ ซึ่งทางโรงเรียนได้นำเงินทุนดังกล่าวไปบริหารในการจัดซื้อตามระเบียบทั้ง 4 ข้อที่โรงเรียนสามารถทำได้ แต่มี 2 ปีหลังนี้ที่ต้องจ่ายให้เป็นเงินสด เนื่องจากมีหนังสือจากทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 2 ให้ดำเนินการจ่ายเป็นเงินสดแทนการนำไปบริหารตามระเบียบที่สามารถทำได้ทั้ง 4 ข้อ และทางโรงเรียนก็มีการจ่ายเงินสดซึ่งมีเอกสารหลักฐานครบ ยกเว้นภาคเรียนนี้ที่เงินทุนเพิ่งมาโดยจะจ่ายในวันนี้ แต่เกิดข้อร้องเรียนขึ้นก่อน และทางโรงเรียนไม่ได้มีเจตนาที่จะนำเงินของเด็กไป



ที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ได้รับทุนปัจจัยประมาณภาคเรียนละ 20-30 คน แต่ปีนี้ได้รับทุนทั้งหมดถึง 114 คน ทำให้ช่วงที่ได้ทุนมาช่วงแรกที่ได้น้อยจึงนำไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและชุดกีฬาแจกนักเรียนแทน ตามระเบียบที่สามารถทำได้ทั้ง 4 ข้อ และทางโรงเรียนเองก็มีการสื่อสารกับทางผู้ปกครองตลอด แต่ช่วงหลังไม่ได้มีการประชุมผู้ปกครองเนื่องจากผู้ปกครองติดงานทำให้ไม่มีเวลา จึงเป็นการแจ้งผ่านไลน์กลุ่มของครูประจำชั้นกับผู้ปกครองให้มารับเงินแทนในห้องเรียน และในวันนี้ก็มีการกลับมาประชุมอีกครั้ง โดยนักเรียนที่ได้รับเงินทุนดังกล่าวนี้เป็นการจัดสรรให้แต่แต่ระดับชั้น ป.1-ม.3 หากมีรายชื่อได้รับก็จะได้รับตลอด และบางรายอาจจะได้รับในช่วงระหว่าง ป.2-ม.3 แต่หากมีรายชื่อที่ได้รับก็จะได้รับตลอดจนครบ



ตนเองมารับตำแหน่งต่อจากผู้อำนวยการคนเดิมได้ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2563 โดยทางโรงเรียนมีแนวปฏิบัติมาด้วยการจัดหาจัดซื้ออุปกรณ์กีฬา เสื้อกีฬา เครื่องแบบนักเรียนให้แก่นักเรียนมาโดยตลอด และไม่ได้มีการแจ้งกับผู้ปกครอง พอตนเองมารับตำแหน่งต่อก็ดำเนินการซื้อชุดกีฬาให้กับนักเรียนที่ได้รับจัดสรร และจัดหาอุปกรณ์การเรียนเครื่องแบบนักเรียนที่นักเรียนขาดแคลน ซึ่งจะมีผู้ปกครองบางรายบอกว่าลูกตัวเองไม่ได้รับ เพราะเป็นการจัดสรรมาให้เพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้บุตรหลานของผู้ปกครองบางคนไม่มีชื่อที่จะได้รับเงินทุนไปร้องเรียน


โดยไม่ได้มาติดต่อทางโรงเรียนว่ามีชื่อบุตรหลานของตัวเองหรือไม่ และปีนี้มีนักเรียนได้รับทุนเยอะกว่าปีที่ผ่านมาโดยจะมีการแจกพร้อมกับเงินทุนเสมอภาค ที่ผ่านการประชุมของคณะกรรมการสถานศึกษาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ปกครองได้รับข่าวสารจนเกิดความเข้าใจผิดทำให้เดินทางไปร้องเรียนดังกล่าวขึ้น ทางโรงเรียนมีการประชุมผู้ปกครองทุกภาคการศึกษา ซึ่งก็มีผู้ปกครองพูดในที่ประชุมถึงเรื่องดังกล่าวว่าทำไมบางคนได้รับและบางคนไม่ได้รับ โดยทางโรงเรียนก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ในส่วนนี้ทางโรงเรียนไม่ได้เป็นผู้พิจารณา แต่จะเป็นในส่วนของทางกองทุนเป็นผู้พิจารณาเอง โดยทางโรงเรียนมีหน้าที่เพียงออกเยี่ยมบ้านและนำข้อมูลส่งให้กับทางกองทุนไปพิจารณา หากใครได้รับแล้วก็จะมีการได้รับไปตลอด ยืนยันว่าไม่ได้นำเงินทุนไปใช้ผิดประเภทแต่สามารถทำได้ตามระเบียบทั้ง 4 ข้อ ที่เป็นระเบียบตายตัว



ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นมา มีสาเหตุมาจากที่ทางโรงเรียนหยุดจ้างครูอัตราจ้างรายหนึ่ง ที่คณะครูในโรงเรียนและกรรมการสถานศึกษาเห็นพฤติกรรมของครูรายนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะมาสอนหนังสือช้า ทำให้เกิดความไม่พอใจ จนทำให้เกิดผลกระทบภายในโรงเรียนขึ้นมา โดยไม่ได้พาผู้ปกครองมาสอบถามโดยตรงกับทางโรงเรียน แต่กลับพาผู้ปกครองไปร้องเรียนที่อื่นแทน

คุณอาจสนใจ