รวบโจรแต่งหล่อ! สวมชุดสูทตระเวนลักเงินวัด เผยสร้างความน่าเชื่อถือ ไม่ให้เป็นที่สงสัย

ตำรวจเชียงใหม่ตามรวบจอมโจรสุดเนี๊ยบ สวมชุดสูทแต่หล่อตระเวนลักทรัพย์ งัดตู้บริจาคเงินในวัด สารภาพหาเงินแทงพนันออนไลน์และใช้จ่าย ตรวจประวัติพบมีหมายจับที่ ชิงทรัพย์ ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างผือกได้จับแจ้งจากนายบารมี อโศกพิทักษ์รัตนะ กรรมการฝ่ายกฎหมาย วัดสันติธรรม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลาประมาณ 10.15 ได้มีคนร้ายเป็นชาย เข้าไปยังพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม และได้ก่อเหตุงัดตู้บริจาค จำนวน 2 ตู้ ได้ทรัพย์สินไปเป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีจนถึงที่สุด

โดยนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของทางวัดที่สามารถบันทึกพฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้ไว้ได้อย่างชัดเจน โดยมรการแต่งกายดีมาก สวมชุดสูทสีดำ กางขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมใส่หน้ากากอนามัยสีดำ แต่งตัวมาอย่างเนี๊ยบเหมือนนายแบบ เดินเข้ามาในวัด หลังจากนั้นทาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเอกชนและของเทศบาลนครเชียงใหม่ สืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุเรื่อยมา

ต่อมาวันที่ 10 ก.ค. 67 เจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาควัดสันติธรรม พักหอพักรินรดา เรสซิเด้น ถ.ช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบ ขณะที่กำลังสอบถามเจ้าของหอพัก ได้มีชายเดินออกจากลิฟต์ของหอพัก กำลังจะเดินออกไปข้างนอกหอพัก ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณสัณฐานตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์งัดตู้บริจาควัดสันติธรรมที่เกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แสดงตัวพร้อมกับแจ้งความประสงค์ให้ทราบ

เบื้องต้น นายนริศชาติ หรือไผ่ พุทธา ให้การรับสารภาพว่า เป็นชายที่ปรากฏในสำเนาภาพถ่าย จากกล้องวงจรปิดของวัดสันติธรรมที่เกิดเหตุ เป็นตนกำลังก่อเหตุลักทรัพย์จากตู้บริจาคของวัด ได้เงินสดไป จำนวน 1,800 บาท หลังจากนั้นก็กลับที่พัก เมื่อได้เงินมาก็นำไปเล่นการพนันออนไลน์ หลังจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจจึงให้ นายนริศชาติฯ นำพาไปตรวจค้นห้องพัก ห้อง 406 ซึ่งเป็นห้องพักของ นายนริศชาติฯ ผลการตรวจค้นพบ ของกลางภายในห้องพัก จึงได้ร่วมกันตรวจยึดส่งพนักงาสอบสวน เพื่อนำมาประกอบคดี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ ในสถานที่บูชาสาธารณะ

และการจากสอบสวนขยายผลการจับกุม นายนริศชาติฯ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ตนได้เหตุลักทรัพย์ตามตู้บริจาคตามวัดต่างๆ ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่มาแล้วประมาณ 20 ครั้ง ทำทีเข้าไปในวัดเหมือนประชาชนทั่วไป เพื่อเข้าไปสักการะบูชาพระ การแต่งการภูมิฐานใส่สูท หรือแต่งกายสุภาพเรียบร้อยน่าเชื่อถือ ไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย อาศัยจังหวะที่ไม่มีคน ก็ใช้ลวดแขวนเสื้อดัดแปลงตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 5-6 นิ้ว แล้วใช้หมากฝรั่งติดที่ปลาย จากนั้นก็แหย่เข้าไปในช่องใส่เงินตู้บริจาค เมื่อธนบัตรติดปลายลวดแขวนเสื้อก็ดึงออกมา แต่ละครั้งจะได้เงินประมาณหลักร้อย มากที่สุด 1,800 บาท

และจากการตรวจสอบประวัติ นายนริศชาติฯ ผู้ต้องหา เป็นบุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 337/2564 ลงวันที่ 1 กันยายน 2564 ฐานความผิด ชิงทรัพย์ ข่มขื่นกระทำชำเราโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขื่นได้ และบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยมีอาวุธ