สังคม

แม่ลูกสองร้องทนายช่วย หลังเจออุบัติเหตุเลื่อยไฟฟ้าตัดขาขาด 2 ข้าง ทำประกันอุบัติเหตุ แต่เคลมไม่ได้

โดย panisa_p

5 ก.ค. 2567

411 views

วันที่ 5 กรกฎาคม 67 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  นายประดิษฐ์ อายุ 33 ปี พร้อมภรรยา นางสาวโชติกา อายุ 30 ปีซึ่งพิการขาขาดทั้ง 2 ข้าง ลงจากรถ ขี่หลังสามีเดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานี นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ ว่าที่ ร.ต.รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธาน นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือครอบครัว หลังภรรยาประสบอุบัติเหตุ ถูกเลื่อยไฟฟ้าจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ตัดสินใจตัดขาทั้งสองข้างออก กลายเป็นคนพิการ แต่พอแจ้งประกันที่ทำไว้ กลับได้รับการปฏิเสธจากบริษัทประกันภัย โดยอ้างว่าผู้เสียหาย ทำประกันภัยไว้หลายบริษัท จงใจปกปิดข้อมูลจึงต้องนำเรื่องมาร้องเรียน เพื่อขอให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือ


น.ส.โชติกา เล่าว่า ปัจจุบันตนอยู่กินกับสามี มีลูกสาว 2 คนเป็นหญิงทั้งคู่ อายุ 5 ขวบและ 3 ขวบ ตนกับสามีประกอบอาชีพค้าขาย ที่บ้านตนเองในจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม 67 ที่ผ่านมา ตนกับน้องชายต้องการตัดต้นไม้ใหญ่ ที่อยู่ข้างรั้วบ้าน โดยน้องชายได้นำเลื่อยไฟฟ้ามาทำการตัดต้นไม้ดังกล่าว


ระหว่างที่กำลังตัดต้นไม้อยู่จนต้นไม้ใกล้จะขาด ตอนนั้นตนจึงเอามือเพื่อที่จะผลักต้นไม้ให้ล้มลงไปด้านข้าง เลื่อยไฟฟ้าที่น้องชายถืออยู่สะบัดมาโดนขา 2 ข้างของตนเองจนลึกเห็นกระดูก สามีรีบวิ่งออกมาจากบ้านและนำตัวตนเองส่งโรงพยาบาล แต่อุปกรณ์เครื่องมือการรักษาไม่พอ จึงนำส่งต่อที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดอุดรธานี แพทย์ต้องทำการตัดขาทั้งสองข้างออก เนื่องจากไม่สามารถทำการรักษาได้ ทำให้ตนกลายเป็นคนพิการทันที


ต่อมา ตนได้ทำเรื่องและติดต่อไปที่บริษัทประกันชีวิต ซึ่งตนได้ทำประกันอุบัติเหตุ PA ไว้ วงเงิน 10 ล้านบาท นอกจากนี้ตนเองยังมีกรมธรรม์อีก 5 เล่มที่ทำไว้กับอีกหลายบริษัท รวมแล้ว 6 เล่ม วงเงิน 29 ล้านบาท ปรากฏว่าทางบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ตนติดต่อไป ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินที่ตนทำไว้และอ้างว่าตนเองมีกรมธรรม์หลายเล่ม ถือเป็นการปกปิดข้อมูล จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะรับผิดชอบ ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจ ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนทำกรมธรรม์แบบสุขภาพ เนื่องจากมีโรคกระเพาะเลยใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลบ่อย จึงไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้อีก เลยเปลี่ยนมาทำเป็นแบบประกันชีวิตและทุพพลภาพ หากประสบอุบัติเหตุตายหรือพิการครอบครัวจะได้ไม่ลำบาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกบริษัทปฏิเสธการรักษา จึงต้องมาร้องมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อให้ช่วยเหลือ


ทางทนายรณรงค์ จึงให้ผู้เสียหายโทรคุยกับน้องชาย เพื่อที่จะเคลียร์ให้กับสังคมได้รู้ว่าไม่ได้ตัดขาตัวเองเพื่อหวังเงินประกัน ซึ่งทางน้องชายก็ได้ตอบมาทางโทรศัพท์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจที่ทำให้พี่สาวต้องมาเป็นคนพิการ และคงไม่มีใครที่อยากจะให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก ซึ่งหลังเกิดเหตุน้องชายก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ในข้อหาประมาททำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพิการไปตลอดชีวิต คงไม่มีใครมีความคิดที่จะมาทำร้ายตัวเอง และทำให้น้องต้องมาเสี่ยงติดคุก เพื่อหวังเงินประกัน มันไม่คุ้มกับเงินที่ได้มา


ทนายรณณรงค์เอง กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องตนได้มอบหมายให้นายชาญชัย ที่ปรึกษามูลนิธิ นำผู้เสียหายขึ้นรถเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานใหญ่ กรุงเทพ เพื่อให้เรียกคู่กรณีทางบริษัทประกันภัยมาเจรจรเจรจาไกล่เกลี่ยในเรื่องที่เกิดขึ้น หากไม่มีการรับผิดชอบหรือชดใช้ ตนจะพาผู้เสียหายไปร้องสำนักงานอัยการสูงสุดทันที

คุณอาจสนใจ

Related News