เจ้าของร้านเหล้าดังเมากร่าง อ้างเส้นใหญ่ ใช้ปืนตบหน้าดีเจดั้งหักเลือดอาบ เหตุไม่เปิดเพลงตามสั่ง

เจ้าของร้านเหล้าเมาโชว์กร่าง อ้างเส้นใหญ่เคลียร์ตำรวจได้ ใช้ปืนตบดีเจหนุ่ม วัย 27 ปี เหตุไม่เปิดเพลงตามคำสั่ง แถมเรียกเพื่อนรุมต่อย ตั้งใจถอดปลั๊กวงจรปิด ทำลายหลักฐาน แถมเปิดร้านเกินเวลากฎหมายกำหนด ส่วนดีเจหนุ่ม พร้อมแฟนสาวขับรถหนีตามข้ามจังหวัด โร่แจ้งความร้องสื่อ ขอความเป็นธรรมเอาผิดถึงที่สุด


วันนี้ (1 ก.ค.67) ดีเจ อายุ 27 ปี ถูกชายอ้างเป็นเจ้าของร้านเหล้าชื่อดัง ตั้งอยู่แถวถนนเลียบแม่น้ำโขง เมาโชว์กร่าง อ้างเส้นใหญ่ชกต่อย พร้อมเอาปืบตบหน้าดั้งหัก เลือดอาบ เหตุไม่พอใจเปิดเพลงไม่ถูกใจจนมีการดุด่า พูดจาหยาบคาย และทำร้ายร่างกาย รวมถึงเรียกเพื่อนอีก 2 -3 คน มารุมทำร้าย โชคดีแฟนสาว ดีเจหนุ่ม พยายาม ช่วยกันหนีออกมาได้ และขับรถยนต์หนีกลับบ้าน ที่ จ.สกลนคร เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 2 วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา


ภายหลัง ดีเจหนุ่มพร้อมแฟนสาว ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมนำภาพวันเกิดเหตุ มาเผยแพร่ทางสื่อ และเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เนื่องจากคนก่อเหตุ อ้างว่า มีอิทธิพล เคลียร์ตำรวจได้ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เบื้องต้นตำรวจ สภ.เมืองนครพนม อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เก็บหลักฐาน และตรวจร่างกาย ยืนยันการถูกทำร้าย เพื่อดำเนินคดีกับคนก่อเหตุ ตามกฎหมาย


สอบถาม ดีเจ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตอนมีอาชีพทำงานเป็นดีเจเปิดเพลงร้านเหล้า ยอมรับว่าวันเกิดเหตุมีชายอ้างว่า เป็นหุ้นส่วน เจ้าของร้านเหล้าชื่อดังแห่งหนึ่ง มาเปิดเพลงที่ร้าน จ.นครพนม จึงมาทำงานตามปกติ ถึงเวลาเลิกประมาณตี 2 จึงเปิดเพลงไว้ และเดินเข้าห้องน้ำ ต่อมามีชายอ้างเป็นหุ้นส่วนเจ้าของร้าน มาสอบถาม ไม่พอใจหาว่าตนไม่ทำตามคำสั่ง ทั้งที่เลยเวลาปิดร้านแล้ว และดุด่าพูดจาหยาบคาย และมีการถอดปลั๊กกล้องวงจรปิด ก่อนชกต่อยทำร้าย เอาปืนตบหน้า พร้อมเรียกเพื่อนอีก 2 -3 คนมาช่วยรุมทำร้ายตน ส่วนแฟนสาว ที่อยู่ด้วยกันถูกล็อคตัวไม่ให้เข้ามาห้าม ถือว่าทำเกิดกว่าเหตุ ตนขอเอาผิดให้ถึงที่สุด


ส่วนแฟนดีเจ เปิดเผยว่า โชคดีที่ตนไม่ถูกทำร้าย แต่ไม่สามารถช่วยแฟนได้ เพราะถูกล็อคตัว ถือว่าทำเกินกว่าเหตุ ยอมรับได้รับค่าจ้าง แต่มาทำร้ายร่างกาย แค่ไม่พอใจเกี่ยวกับการเปิดเพลง และยังมีการโชว์กร่าง อ้างไม่มีใครเอาผิดได้ แม้แต่ตำรวจ เคลียร์แล้ว ตนจึงต้องออกมาร้องทุกข์ ให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด โชคดีหนีกลับบ้านทัน