สังคม
ทำเซียนเหมือนเรียนมา! จับหนุ่มผสมยาหลอนประสาท-แก๊สหัวเราะ ขายออนไลน์ รายได้วันละ 3 หมื่น
โดย nut_p
7 มิ.ย. 2567
314 views
ทำเซียนเหมือนเรียนมา! จับหนุ่มวัย 24 ปี ผสมยาหลอนประสาท-แก๊สหัวเราะ ขายออนไลน์ รายได้วันละ 3 หมื่น เจ้าตัวเผย ศึกษาจาก Google จนรู้สรรพคุณของยาแต่ละตัว จึงนำมาขายออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา รตอ.อำพร นิลบรรพ หน.ชปข.ตชด.434 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.434 พัทลุง เจ้าหน้าที่ สืบสวนการข่าว กอรมน.พัทลุง ชุด.ฝ่ายปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองพัทลุง และชุดสืบสวน สภ.ป่าพะยอม นำหมายศาลจังหวัดพัทลุง เข้าค้นบ้านเลขที่ 5 ม.5 ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง หลังสืบทราบว่าเจ้าของบ้านเลขที่ดังกล่าวเปิดบ้านขายยาออนไลน์ โดยมีลูกค้าที่ประเทศ ก่อนจับกุมตัวนายภาณุเดช รามริน อายุ 24 ปี หนุ่มเจ้าของบ้านดังกล่าวสอบสวน ที่สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง พร้อมยาแผนปัจจุบันหลายรายการ โดบพบว่ายาทั้งหมดไม่มี อย.และมีการสั่งชื้อโดยตรงจากประเทศเพื่อนบ้าน
โดยนายภาณุเดช มีพฤติการณ์หรือร่วมคือเป็นยาที่ผิดกฎหมายทุกอย่าง โดยขายกันในกลุ่ม LINE และจัดส่งตามไปรษณีย์มีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาทจัดส่งเป็นพัสดุ ส่วนมากกลุ่มลูกค้าเป็นนักศึกษาและกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงแต่ทั้งร้านของในจังหวัดพัทลุงลูกค้าส่วนมากจะเป็นกลุ่มนักศึกษา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดแก๊สหัวเราะ หรือ แก๊สไนตรัสออกไซด์ จัดเป็นยาตามมาตรา 4(4) แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ 2510 ตามกฎหมายถือเป็นยาที่ใช้ในทางการแพทย์ กรณีมีผู้ผลิตหรือนำลูกโป่งอัดแก๊สไนตรัสออกไซด์ (แก๊สหัวเราะ) ไปจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติยา ในข้อหาจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากพบ
ในกรณีที่แก๊สไนตรัสออกไซด์ที่นำบรรจุนั้นเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับข้อหา
1.ฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด มาตรา 35(5) ม.94 ม.149(2) ป.ยาเสพติด
2.ฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 3 หรือประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต ม.35(5) ม.94 ม.149(3) ป.ยาเสพติด
3.ฐาน จำหน่าย หรือ มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดมาตรา ม.34,ม.35,ม.91,ม.146 วรรคหนึ่ง ป.ยาเสพติด
4.ฐานขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด ม.12 พรบ.ยา พ.ศ.2510
5.ฐานจำหน่ายยาไม่มีทะเบียนตำรับ ผิด ม.72(4) พรบ.ยา พ.ศ.2510
สำหรับยาชนิดต่างที่มีอาการออกฤทธิ์ทางประสาท เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายภาณุเดช ได้นำมาผสม และจำหน่ายให้กลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง มาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งยาออกฤทธิ์ทางประสาทนั้นที่มีสูตรผสมต่าง ๆ ที่พบในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พบในพื้นที่จังหวัดพัทลุง
โดยนาย ภาณุเดช รามริน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหา บอกว่า ยาทั้งหมดสั่งมาจากหลายประเทศ เช่น ประเทศกัมพูชา ประเทศลาว ประเทศรัสเซีย ประเทศ ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนหนึ่งได้ศึกษาจาก Google จนรู้สรรพคุณของยาแต่ละตัว จึงได้ทดลองสั่งมาใช้กับตัวเอง และเมื่อได้ผล ก็จะสั่งมาจำนวนมาก เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเพื่อน และขายในระบบออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้
เภสัชกรหญิง ชุตินธร ไชยเพชร บอกว่ายาพวกนี้ถ้าใช้อยู่ในการดูแลของหมอ หมอก็จะสั่งยาจากอาการของผู้ป่วย ดูว่าคนไข้อยู่ในอาการที่ควบคุมได้หรือไม่ หากอยู่ในอาการควบคุมไม่ได้ คนไข้ก็ต้องกลับไปพบหมอเพื่อปรับยาตามวิชาชีพ หากคนไข้หายามาใช้เอง ยาบางตัวอาจจะเสริมฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ มันจะมีผลต่อระบบประสาท สมองอาจจะรวน ยาพวกนี้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในสมอง นั้นคือเป้าหมายหลักของยาประเภทนี้ การใช้ยาต้องใช้ตามหมอสั่ง หากคนไข้ควบคุมอาการไม่ได้ควรไปพบหมอเพื่อปรับยาไปตามแนวทางการรักษา ยาบางตัวหากใช้มั่ว ๆ ฤทธิ์ยาจะตีกันอาจจะเกิดฤทธิ์กับคนไข้หากรับยาเกินขนาดทำให้เกิดอาการง่วง และอาการข้างเคียง อาจจะมองเห็นเป็นภาพหลอน
สิ่งที่หมอแนะนำคือหากคนไข้มีภาวะทางจิตใจควรไปพบแพทย์ ต้องเปิดใจกับหมอ การซื้อยามากินเองเป็นอันตรายต่อร่างกาย เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผลข้างเคียงหลังใช้ยาชนิดต่างมีอะไรบ้าง ฉะนั้นต้องอยู่ในความดูแลของหมอเท่านั้น