สังคม

เพื่อนบ้านสุดทน ร้อง 'เป็นหนึ่ง' ช่วยเหลือลูกสาวถูกพ่อทำร้าย

โดย chawalwit_m

29 เม.ย. 2567

196 views

วันที่ 29 เม.ย.2567 ที่อาคาร 18 บ้านเอื้ออาทรเสมา-ฟ้าคราม คลองสอง ต .คูคต อ.ลำลูกกา จ ปทุมธานี นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ผู้ก่อตั้งเพจเป็นหนึ่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดปทุมธานี บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ได้ร่วมกันเข้าข่วยเหลือ เด็กหญิงอายุ 15 ปี ซึ่งถูกพ่อเลี้ยงเดียวแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย จนชาวบ้านทนไม่ไหว เพราะความสงสารจึงร้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจและเข้าช่วยเหลือในวันนี้

เมื่อเดินทางไปถึง บริเวณห้องดังกล่าว ที่อาคาร 18 บ้านเอื้ออาทรเสมา-ฟ้าคราม คลองสอง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ. ปทุมธานี พบพ่อและลูกสาวอยู่ด้วยกัน ภายในห้อง เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการเจรจาพูดคุยกันอยู่นาน เพื่อที่จะนำเด็กออกมาแต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เชิญพ่อและตัวเด็ก มาทำการพหุดคุยกันต่อที่ สภ.คูคต ที่ห้องประชุมชั้น 2 เพื่อให้เด็กได้ตัดสินใจ ว่าจะไปอยู่กับพ่อ บ้านพักเด็ก หรือ ย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำ โดยได้พูดคุยกันอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงออกมาจากห้องประชุม

จากการสอบถาม นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ผู้ก่อตั้งเพจเป็นหนึ่ง กล่าวว่า โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ บ้านเอื้ออาทรเสมา-ฟ้าคราม คลองสอง ต.คูคต ซึ่งทางเราได้รับแจ้งมาจากชาวบ้าน ว่าพ่อชอบทำร้ายลูกเป็นประจำ ทางเราจึงได้ลงพื้นที่ ร่วมกับ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดปทุมธานี บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ซึ่งพอเราเข้าพื้นที่เนี้ยเมื่อพบคุณพ่อเขา จะเป็นคนพูดเสียงดังอารมณืขึ้นก็ขึ้นเลย พอลงก็ลงเร็วเช่นกัน ซึ่งเคสนี้ทางบ้านพักเด็กและ พมจ.ปทุมธานี เคยเข้าช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2565 แล้ว โดยพฤติกรรมของพ่อ หลังจากที่เราพูดคุยกับน้อง พ่อเองก็จะชอบใช้การพูดและแววตาเชิงบังคับลูกมากกว่า ว่าต้องให้ลูกตอบหรือพูดกับเจ้าหน้าที่อย่างไร ปฎิเสธกับเจ้าหน้าที่อย่างไร


ซึ่งพอเราได้พูดคุยกับน้องแล้ว น้องก็ระบายออกมาทั้งหมด ว่าสิ่งที่พวกพี่เห็นในวันนี้ ที่พ่อพูดมันไม่ใช่ร่างจริงของพ่อเลย ซึ่งเข้าจะถูกพ่อทำร้าย ถ้าพ่อจับอะไรได้ก็จะฟาด บางที่ก็ไล่ออกจากห้อง บางที่ก็ต้องไปนอนทางหนีไฟ หรือไม่ก็ไปอยู่บ้านเพื่อน ซึ่งพอไปอยู่กับเพื่อนทางแม่เพื่อนก็สงสาร ก็หางานให้ทำก็คือทำงานด้วยกันกับเขา พ่อก็ไปแจ้งความจับแม่เพื่อนคดีพากผู้เยาว์ ซึ่งเด็กเองเขาก็ไม่ได้อยากอยู่กับพ่อเด็กนะ เพราะพ่อมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ด้วยเขาไม่มีใคร และเขาไม่อยากทิ้งพ่อ ก็ต้องทนอยู่กับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง การใช้อารมณ์

ซึ่งตอนนี้เราก็เลยปรับอารมณ์คุยกับเด็กว่าถ้าเราอยากอยูกับพ่อ หนูก็ต้องใจเเข็งให้พ่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้พ่อไปรักษา เพราะทราบว่าเคยไปตรวจสุขภาพจิตแล้วมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตด้วย แต่ไม่ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้น้องก็อยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กแล้วก็บ้านพักเด็กก็จะประสานเรื่องเรียน ซึ่งเราได้คุยกันแล้ว ว่าจะเอาน้องเข้าโรงเรียนประจำ ซึ่งคุณพ่อจะได้เจอน้องก็ช่วงปิดเทอม แต่ในระหว่างนี้ทางคุณพ่อ ก็ต้องประบเปลี่ยนพฤติกรรม และทำข้อตกลงกับภาครัฐอีกครั้งนึง เพราะเราจะต้องรื้อคำสั่งศาลใหม่หมดเลย


จากที่มีคำสั่งให้พ่อเป็นผู้ดูแล ตอนนี้ก็ต้องมาดำเนินการใหม่ทั้งหมด เพราะพ่อยังไม่หยุดพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง เคยไปราวีที่โรงเรียน เคยไปด่าเจ้าหนา้ที่บ้านพักเด็ก คือไปมาหมดแล้ว จนชาวบ้านนั้นเอือมระอา เพราะเรามองว่าถ้าพ่อจะย้ายที่พักออก พ่อไม่อยู่เหมือนเดิมก็ได้ มันไม่ได้เป็นการแก้ปัญญา เพราะคุณย้ายไปแล้วยังมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับลูกเหมือนเดิม ชาวบ้านก็จะมาร้องเราอีก โดยหน่วยงานภาครัฐก็ต้องเข้ามาช่วยเหลือเด็กคนนี้ด้านไหนอีก และตอนนี้ก็ขอให้แยกเด็กออกมาก่อน ส่วนเรื่องของพ่อก็ว่าไปตามกระบวนการอีกทีนึง

โดยเด็กพักอยู่กับพ่อแค่เพียง 2 คน โดยเเม่เด็กทิ้งไปตั้งแต่เล็กโดยพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่ 2 ขวบ ซึ่งเราเข้าใจพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่อาจจะไม่ได้มีความใส่ใจในเรื่องการเลี้ยงลูกสาว เด็กก็ไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควร เด็กก็อาจจะเกเรนอกลู่นอกทางบ้าน ทุกอย่างมันก็อยู่ที่การเลี้ยงดูทั้งหมด แต่นะตอนนี้เอง เด็กเริ่มโตขึ้นแล้ว น้องเขาก็มีสังคม มีเพื่อนไปไหนมาไหนเขาก็ต้องอายไหม มีพ่อต้องตามไปด่า เขาก็เกิดความเครียด


เมื่อกี้ก็ร้องไห้ออกมาเล่าให้ฟังทั้งหมด เวลาเขากินแตงโมมากกว่าพ่อ พ่อก็ดีอะไรแบบนี้ รู้แล้วก็น่าสงสาร หลังจากที่ได้คุยกับเด็กนั้น ตอนนี้เด็กมีสภาพจิตใจที่แย่ ซึ่งตอนนี้เราพยายามแยกพ่อเพราะว่าจากที่ตกลงกันแล้ว ให้น้องย้ายไปอยู่ชั่วคราวที่บ้านพักเด็กก่อน เพื่อที่จะคุยเรื่องเรียนที่จะเข้าโรงเรียนประจำ ซึ่งพ่อเขาก็ขอคุยกับลูก แต่การคุยกับลูกคำพูดพ่อเขาก็ให้ไปนะ แต่การใช้แววตากับเด็กกดดันและ และใช้คำพูดว่าเองจะไปเรียนพ่อไม่ว่า เองจะไปอยู่ไหนพ่อไม่ว่า แต่พ่อสามารถตามเองไปได้ทุกที่ ซึ่งน้องก็เริ่มกดดัน เรารู้แล้วก็เลยแยกพ่อออก แล้วเด็กก็ร้องให้พร้อมบอกว่าพ่อใช้สายตากดดันหนูตลอด ซึ่งหนูไม่อยากอยู่ในสภาพนี้แล้ว

ตอนนี้ก็ให้เด็กอยู่บ้านพักเด็กชั่วคราวก่อนซึ่งวันนี้ถึงวันที่ 3 พ.ค. ก่อนเพื่อจะดำเนินการเรื่องเรียนที่โรงเรียนประจำ แล้วจะให้น้องกลับ แต่จากที่เราดูพฤติกรรมของพ่อแล้วก็น่าจะไม่ให้น้องกลับน่าจะอยู่ยาว ในส่วนทางด้านกฎหมาย ก็จะให้ทาง พมจ.ปทุมธานีเป็นผู้ดำเนินการ เพราะก่อนหน้านี้เคยมรเรื่องร้องเรียนกันมาแล้วรอบนึงถึงขั้นขึ้นศาลมาแล้วแต่ตอนนี้เหมือนนับ 1 ใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ศาลเคยให้โอกาศพ่อมาแล้วครั้งนึงในการเลี้ยงดูลูก เพราะเขามีสิทธิ์ แต่พฤติกรรมความรุนแรงครั้งที่แล้วมารอบหนึ่งและครั้งนี้ก็เกิดขึ้นอีก ก็ต้องให้ศาลตัดสินว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้แยกน้องออกมาจากพ่อแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่พมจ.ได้ประสานไปยังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ บางกรวย เพื่อที่จะฝากน้องเข้าเรียนต่อในชั้นม.4 ระหว่างที่รอเปิดเทอมน้องจะอยู่ที่บ้านพักเด็ก จ.นนทบุรี ก่อนเบื้องต้น

คุณอาจสนใจ

Related News