สังคม
อดีตนักกีฬาคนพิการทีมชาติ นั่งวิลแชร์ชูป้ายขอความเป็นธรรม เพื่อน 4 คน ยืมเงินกว่า 2 แสน เงียบหายไม่ยอมคืน
โดย nut_p
15 มี.ค. 2567
120 views
อดีตนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย เฟสปิกเกม ปี 2542 นั่งวินแชร์ชูป้ายทวงเงินเพื่อน 3 วันติด หลังเพื่อนร่วมงาน 4 คนยืมเงินปันผลสหกรณ์ ไปรวมกว่า 2.2 แสนบาท นาน 2 ปี แล้วเงียบหายไป วอนนำมาคืนเพราะเดือดร้อนหนักต้องนำเงินไปกายภาพบำบัดรักษาตัวเอง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 มี.ค.67 นายอานนท์วัฒน์ คุ้มถนอม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.5 ต.หนองกุงเซิน อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น อดีตนักกีฬาเฟสปิกเกมทีมชาติ ปี 2542 นั่งวินแชร์ พร้อมชูป้ายสีแดงขนาดใหญ่ อยู่ที่บริเวณริมถนน หน้าโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมเขียนป้ายข้อความ ระบุ "ขอความเป็นธรรม เพื่อนยืมเงินไป บางคนหลักแสน บางคนหลักหมื่น แต่ไม่ทำตามข้อตกลง" ทำให้เป็นที่สงสัยสำหรับผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปสอบถามจึงทราบว่า สาเหตุที่ นายอานนท์ ต้องนำป้ายมาชูขอความเป็นธรรมนั้น มาจากเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกัน ภายในโรงแรมดังกล่าว จำนวน 4 คน ยืมเงินไปลงทุน เมื่อ 2 ปีทีี่แล้ว แต่ไม่คืนเงินให้ รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งหมดจำนวนกว่า 220,000 บาท จึงเดินทางมาจากหอพัก เพื่อมาชูป้ายทวงเงิน ซึ่งทำมาติดต่อกันแล้ว 3 วัน หวังจะได้เงินคืน
นายอานนท์วัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ทำงานภายในโรงแรมแห่งหนึ่งใน ใจกลางเมืองขอนแก่น ก่อนจะลาออกมาประมาณ 2 ปี แล้วได้รับเงิน ซึ่งเป็นเงินปันผลสหกรณ์ จากทางบริษัท จำนวน 500,000 บาท จากนั้นได้มีอดีตเพื่อนร่วมงานรายหนึ่ง ได้เดินทางมาขอยืมเงินตนที่ห้อง ตอนแรกก็ไม่ให้ พอยืมบ่อยครั้งตนก็เลยใจอ่อน และคิดว่าพอออกจากงานมา ก็จะยังคงมีรายได้ เพราะเพื่อนตกลงว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน แต่ตอนหลังมาไม่ยอมจ่าย ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท ส่วนเงินที่ได้กลับคืนมาจำนวน 37,600 บาท จากนั้นก็หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง ตนไม่ รู้จะทำยังไง จึงนำป้ายมานั่งชูข้อความเป็นธรรม เผื่อเพื่อนจะมองเห็นข้อความ แล้วนำเงินมาคืนให้
นายอานนท์วัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า เพื่อนที่ยืมเงินไปมีทั้งหมดมีจำนวน 4 คน เป็นเพื่อนร่วมงานเก่าทั้งหมด คนแรกยืมไป 120,00 บาท คนที่สอง 40,000 บาท คนที่สาม 40,000 บาท และคนสุดท้าย 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 230,000 บาท หนึ่งในนี้มีจำนวน 2 คนที่ติดต่อไม่ได้เลย ซึ่งตนถูกยืมเงินไปตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เป็นระยะเวลากว่า 2 ปีแล้ว ตอนนี้จึงอยากวิงวอนลูกนี้ทุกคน นำเงินมาคืนด้วย เพราะตนต้องการจะกลับบ้าน ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้านเกิด ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เพราะแม่อายุ 90 ปีแล้ว และวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ตนออกมาชูป้ายทวงเงินเพื่อน เพื่อหวังว่าจะได้เงินคืน เพราะทุกวันนี้ ตั้งแต่ออกจากงานมา ต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เงินที่เหลือก็ต้องใช้จ่ายในกาารักษากายภาพบำบัดตัวเอง อาทิตย์ละ 500 บาท ค่าหอพักก็ต้องจ่าย เงินที่เก็บไว้ตั้งแต่เป็นนักกีฬาเฟสปิกเกมส์ ตอนนี้ก็หมดไปเรื่อยๆ ดังนั้นตนจึงตัดสินใจออกมาถือป้ายถวงหนี้อย่างที่เห็นนี้และจะทำไปจนกว่าเพื่อนจะคืนเงิน