สาวไรเดอร์ร้อง ถูกรถชนฟันหัก-กระดูกร้าว คู่กรณีหมางเมิน อีกฝ่ายโต้ไม่ได้หนี ยันรับผิดชอบทุกอย่าง

สาวไรเดอร์ขี่รถไปส่งอาหาร ถูกรถยนต์ขับชนจนกระดูกแขนขวาร้าว ไม่สามารถทำงานได้ ร้องสื่อถูกคู่กรณีหมางเมิน คู่กรณีโต้ ยอมรับผิดให้ไม่โต้แย้ง เพราะตนมีประกันและเป็นรถใหญ่อยากให้ประกันช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาล ไม่คิดว่าจะมาร้องสื่อ

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง พบนางสาวโบว์ อายุ 38 ปี ร้องสื่อว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนขี่รถไปส่งอาหารให้กับลูกค้า เมื่อถึงบริเวณถนนสายโค้งปลากัด มุ่งหน้าไปหนองผักหนาม ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ได้มีรถยนต์ขับมาชนตนจนทำให้ฟันหน้าหัก 4 ซี่ กระดูกแขนขวาร้าว และวันที่ 3 ขณะที่ตนยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้ขอทางโรงพยาบาลออกมาหาเจ้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ และชี้ว่าฝั่งของคนขับรถยนต์เป็นผู้ผิด ซึ่งต่อมาก็ได้มีการพูดคุย ตนได้ขอให้ทางฝั่งคู่กรณีช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล เบื้องต้นที่เกินจาก พรบ.ที่จ่ายแล้ว ทางคู่กรณีก็รับปาก รอบแรกได้ช่วยเหลือมา 5,000 บาท แต่ตนยังต้องไปพบแพทย์ตามใบนัด ซึ่งหลังจากนั้นตนไม่สามารถติดต่อฝั่งคู่กรณีได้อีกเลย

ต่อมาเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนัดให้ 2 ฝ่าย มาตกลง ทางคู่กรณีได้มากับฝ่ายประกัน ซึ่งเริ่มแรกตนเรียกไป 300,000 บาท เพราะฟันหน้าของตนหัก 4 ซี่ เป็นการประเมินราคา หากตนต้องไปทำ รากฟันเทียมด้วย และเป็นค่าเยียวยาตนเนื่องจากตนต้องมาเกิดอุบัติเหตุ และไม่สามารถทำงานได้

ซึ่งตนเป็นเสาหลักของครอบครัว มีพ่อและแม่ที่ป่วย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ และตอนนี้ตนไม่สามารถทำงานมีรายได้ แต่ยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางไป และมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการหาหมอ ซึ่งตนนั้นอยากให้ทางคู่กรณีออกมารับผิดชอบและเห็นใจตนบ้าง อยากให้เข้ามาช่วยจ่ายค่ารักษาของตนจนกว่าตนจะหายดีเพราะใบเสร็จต่างๆ ทางคู่กรณีสามารถนำไปเบิกกับประกันของเขาได้ แต่ตนนั้นไม่มีเงินที่จะสำรองจ่ายไปก่อน

ตนสงสัยเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกทางคู่กรณีและประกันเข้าไปคุยจากนั้นจึงเรียกตนเข้าไปทีหลัง ก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เข้าไปคุยพร้อมกันกับเขา แล้วประกันจะมาจ่ายข้อเสนอ 50,000 บาท ตามใบรับรองแพทย์ที่มีซึ่งตนนั้น ไม่รับตามข้อเสนอ เพราะว่าตนยังต้องรักษาตัวอีกหลายเดือน และก็ระหว่างรักษาตัวตนไม่สามารถทำงานได้เลย

ตนจึงเกรงว่าคดีของตนจะมีเงื่อนงำอะไรหรือไม่ เพราะคู่กรณีจากที่ตนเห็น คือเขารู้จักเจ้าที่ตำรวจ สภ.นี้เป็นอย่างดี

แต่อย่างไรแล้วตนก็ขอความเห็นใจฝั่งคู่กรณีมากกว่า ขอให้หันมามองและเห็นใจตนบ้างสิ่งที่ตนต้องมานั่งเจ็บตัว และไม่สามารถหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้ มันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่ตนทำ มันเกิดจากความประมาทของเขา และหลังจากนี้ชีวิตตนจะเป็นอย่างไร พ่อแม่ที่ป่วยจะเอาเงินที่ไหนมารักษา

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังคู่กรณี ให้ข้อมูลว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับผิดเพราะเนื่องจากว่าตนเป็นรถใหญ่และอยากให้ทางประกันฝ่ายตนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้เขา

โดยในครั้งแรกตนช่วยค่าใช้จ่ายไปแล้ว 5,000 บาท และครั้งต่อไปทางตนได้แจ้งว่าหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขอเป็นใบเสร็จเพื่อที่จะมาตั้งเบิก และหากเขาต้องพักรักษาตัวในระยะเวลาเท่าไหร่ ก็ขอให้นำใบรับรองแพทย์ส่งมาให้ทางตนเพื่อที่จะให้ประกันไปตั้งเบิกกับบริษัท ตนยืนยันว่าตนรับผิดชอบในการรักษา

ส่วนเรื่องที่ตนไม่รับสายนั้น มันมีครั้งหนึ่งที่เขาโทรมาและตนคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันอยู่จึงไม่ได้รับสาย เขาก็มีการส่งข้อความเข้ามาจนเข้าใจว่าหากตนพูดคุยไปนานขนาดนั้นอาจจะเป็นการปะทะคารมกัน จึงเลี่ยงที่จะไม่คุยโดยตรง ขอคุยกันต่อหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น เพราะป้องกันเหตุความรุนแรง ในการปะทะคารมกัน

ตนก็ฝากถึงคู่กรณีว่าหากมีค่าใช้จ่ายใดๆ ก็ขอให้นำใบเสร็จส่งมาให้ตนหรือให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตนจะได้รวบรวมและส่งให้ประกัน เพื่อที่จะตั้งเบิกค่าสินไหมทดแทนให้ตามที่บริษัทประกันรับผิดชอบ