ครอบครัวเด็ก 5 ขวบทำใจไม่ได้ เตรียมจัดงานศพหลังปีใหม่ เผยคู่กรณีมาเยี่ยมครั้งเดียว-ให้เงิน 1 หมื่น

ครอบครัวทำใจไม่ได้ เด็ก 5 ขวบ เหยื่อถูกข้าราชการเกษียณเมาแล้วขับรถชนเสียชีวิต ครอบครัวเตรียมจัดงานศพหลังปีใหม่ พ่อของเด็กเผยฝ่ายคู่กรณีมาเยี่ยมเพียงครั้งเดียว มอบกระเช้า-เงิน 1 หมื่นบาท

จากกรณี นายสมศักดิ์ อายุ 75 ปี ข้าราชการบำนาญ อดีตเกษตรจังหวัดนครราชสีมา เมาแล้วขับรถพุ่งชน ร.ต.ท.วิมุตต์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา เสียชีวิตบริเวณหน้าโรงเรียนดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ มีเด็กนักเรียนและผู้ปกครองได้รับบาดเจ็บนับสิบคน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2567 ซึ่งต่อมาเด็ก อายุ 5 ขวบ เสียชีวิตลงอีกราย เมื่อวานนี้ (30 ธ.ค. 2567) รวมอุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

ล่าสุดวันนี้ (31 ธ.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของเด็ก 5 ขวบ และพูดคุยกับนายประเสริฐ อายุ 40 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต โดยเปิดเผยว่า ครอบครัวของเขายังคงทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะนอกจากจะสูญเสียลูกชายไปแล้ว ภรรยาก็ได้รับบาดเจ็บหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ภรรยาออกมาจากโรงพยาบาล และรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งในระหว่างที่ภรรยาและลูกนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทางคู่กรณีได้ส่งตัวแทนมามอบกระเช้าเพื่อแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับมอบเงินสดให้อีก 10,000 บาท แต่สิ่งที่คู่กรณีนั้นนำมามอบให้คงไม่เพียงพอต่อความสูญเสียที่ครอบครัวได้รับ

และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ตัวเขาและครอบครัวรู้สึกสะเทือนใจก็คือ การที่จะต้องบอกกับภรรยาว่าได้สูญเสียลูกชายไปแล้ว ก่อนหน้านี้ตนเองและญาติก็ต้องโกหกภรรยาตลอดเวลาว่า ลูกชายยังปลอดภัยดี เพราะไม่กล้าบอกความจริง เนื่องจากกลัวอาการของภรรยาจะทรุดหนัก จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ครอบครัวและญาติรวมตัวกันบอกกับภรรยาว่าสูญเสียลูกชายไปแล้ว ซึ่งหลังจากทราบเรื่องภรรยาก็ร้องไห้ออกมาตลอดเวลา เพราะทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชายในครั้งนี้ ซึ่งอยากฝากไปยังคู่กรณีที่เมาแล้วขับว่าให้รับผิดชอบกับการกระทำที่ทำขึ้น

ขณะที่พี่ชายของผู้เสียชีวิต อายุ 31 ปี เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุแม่ออกไปรับน้องที่หน้าโรงเรียน ก่อนที่จะถูกรถคู่กรณีชนจนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ มีเลือดคั่งในสมองและกระดูกขาซ้ายร้าว ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังจากแม่ได้สติแล้ว แม่ก็ถามหาน้องตลอดว่าอาการน้องเป็นยังไงบ้าง เขาและญาติๆ ก็ต้องโกหกว่า น้องหายดีแล้ว ไม่เป็นอะไรมาก จนกระทั่งน้องเสียชีวิตลง ครอบครัวจึงได้รวมตัวกันบอกกับแม่ว่า น้องได้จากไปแล้ว ซึ่งหลังจากที่แม่รู้ก็ปล่อยโฮออกมาเลย

สำหรับคู่กรณีนั้น เขาคิดว่าคู่กรณีใจดำมาก เนื่องจากในช่วงหลังเกิดเหตุนั้นมาเยี่ยมเพียงครั้งเดียว และยังเป็นการส่งตัวแทนมาอีก หลังจากนั้นก็หายหน้าไปเลย ที่จริงแล้วคู่กรณีควรจะหมั่นมาเยี่ยมถามข่าวกับทางผู้เสียหายให้มากกว่านี้ สำหรับคู่กรณีถ้าอยากมาขอขมาหรือมาร่วมงานศพ ครอบครัวก็ยินดี แต่ถ้าถามว่าให้อภัยหรือไม่ ตอนนี้คงตอบยาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันหนักเกินไป โดยทางครอบครัวจะนำร่างของน้องชายไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 2 ม.ค. 2568 ที่วัดบ้านพระ ต.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา