สังคม

โอละพ่อ! สาวหล่อกุเรื่องถูก 2 ไอ้โม่งแทง ที่แท้ซื้อมีดแทงตัวเอง หวังเจ้าหนี้เห็นใจ ไม่ทวงเงิน

โดย nut_p

1 ก.พ. 2567

103 views

โอละพ่อ! สาวหล่อกุเรื่องถูก 2 ไอ้โม่งขี่จยย.ประกบ ใช้มีดแทงท้อง ตร.เช็กกล้องวงจรปิดไม่พบเหตุการณ์ตามกล้าวอ้าง สุดท้ายสารภาพว่า ซื้อมีดมาแทงตัวเอง เหตุเครียดปัญหาครอบครัว ไม่มีเงินจ่ายหนี้ หวังเจ้าหนี้เห็นใจ ไม่กล้ามาทวงหนี้อีก



วันที่ 1 ก.พ.67 กรณี น.ส.วาสนา ศรีสง่า อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/1 ม.3 ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ถูกมีดแทงบริเวณช่องท้อง นอนรอความช่วยเหลือที่บ้านชาวบ้านข้างทาง กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลสตึก ก่อนจะส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์



ซึ่งจากการสอบถามนางศรีนภา ศรีโสภา อายุ 63 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ที่ให้การช่วยเหลือ เล่าว่าคนเจ็บ เคยเป็นลูกศิษย์ นับถือตนเองเป็นแม่ ช่วงเกิดเหตุคนเจ็บ เห็นขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้ว ขอความช่วยเหลือบอกว่าถูกคนร้ายสวมไอ้โม่ง ปิดหน้าปิดตาจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์แล้วเดินลงมาหา โดย 1 ในคนร้ายได้ล็อกคอตนเอง แล้วให้อีกคนหนึ่งใช้อาวุธมีดจ้วงแทงไปที่หน้าท้อง จำนวน 1 ครั้ง



หลังจากตำรวจชุดสืบสวนได้ข้อมูล ได้เริ่มแกะภาพจากกล้องวงจรปิดตามที่ผู้บาดเจ็บกล่าวอ้าง และตามไปดูกล้องวงจรปิดทุกจุดตามเส้นทาง ปรากฏว่า ไม่พบบุคคลต้องสงสัยตามที่สาวหวึ่งกล่าวอ้าง



จนกระทั่งตำรวจชุดสืบสวน สภ.สตึก ตามไปซัก น.ส.วาสนา อีกครั้งที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ หลังอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยน.ส.วาสนา ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เรื่องทั้งหมดตนกุเรื่องขึ้นมาเอง สาเหตุเพราะเครียดที่ติดหนี้กับนายทุน แต่ไม่มีเงินจ่าย จึงไปซื้อมีดปอกผลไม้กับร้านค้า แล้วเอามาแทงตัวเอง  ก่อนจะสร้างเรื่องว่ามีคนร้ายสวมไอ้โม่งมาแทง 2 คน คนหนื่งล็อกคอ อีกคนหนึ่งแทง



ยอมรับว่า การกุเรื่องขึ้นเพื่อต้องการให้เรื่องถึงตำรวจ แล้วกลุ่มนายทุนจะไม่กล้ามาทวงอีก คือต้องการให้ตำรวจเป็นโล่บังเจ้าหนี้



พ.ต.ท วัฒนา มางาม รองผกก.(สอบสวน) สภ.สตึก เปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.วาสนา ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ผู้บาดเจ็บให้การรับสารภาพว่าใช้อาวุธมีดปอกผลไม้ ที่ซื้อมาแทงตนเอง เนื่องจากขาดเกิดความเครียด เรื่องหนี้สินและปัญหาครอบครัว หลังเกิดเหตุโยนอาวุธมีดทิ้งไว้ป่าข้างทาง แล้วกุเรื่องว่ามีคนร้ายสวมไอ้โม่ง จำนวน 2 คน เข้ามาทำร้าย เพื่อให้เจ้าหนี้เกิดความเห็นใจ



อย่างไรก็ตาม น.ส.วาสนา ได้ขอโทษตำรวจที่ทำไปเพราะคิดสั้น ๆ ส่วนตำรวจยกโทษให้จะไม่ดำเนินคดี แต่ขออบรมที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 ชม. เพื่อไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้อีก เพราะอาจจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ

คุณอาจสนใจ

Related News