โฆษก ตร.ภ.4 ยันเพิ่มสายตรวจ รร. หลังยกเลิก 'ครูเวร' แต่ติดใจ จัดสรรน้ำมันให้น้อย ไม่สอดคล้องภาระงาน

โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เผย มีการสั่งการสถานีตำรวจ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน เพิ่มความถี่เข้าตรวจและรักษาความปลอดภัยโรงเรียนทุกแห่ง หลังมีมติยกเลิก 'ครูเวร' แต่ติดใจ จัดสรรน้ำมันให้น้อยมาก ไม่สอดคล้องภาระงาน



เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 ม.ค.2567 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้สั่งการให้สถานีตำรวจในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน เพิ่มความถี่ในการเข้าตรวจและรักษาความปลอดภัยให้กับโรงเรียนทุกแห่งภายหลังจากมีมติ คณะรัฐมนตรียกเลิกครูนอนเวรและรักษาการณ์จากเดิมที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้พบว่าบางแห่งมีการว่าจ้าง รปภ.,ว่าจ้างหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะจากองค์การทหารผ่านศึก เข้ามาปฎิบัติหน้าที่แต่ก็ยังคงมีอีกหลายแห่งโรงเรียนและชุมชนต้องร่วมกันดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัด อปพร.เข้าเวรยาม,การติดตั้งกล้องวงจรปิด,การปิดกั้นพื้นที่เสี่ยง แต่ถึงอย่างไรตำรวจทุกโรงพักก็พร้อมที่จะร่วมปฎิบัติงานร่วมกันกับโรงเรียน ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ แต่ด้วยกำลังของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ และการออกตรวจในแต่ละพื้นที่บางจุดห่างไกล จึงยังคงเป็นอุปสรรคในการปฎิบัติงานอยู่เช่นกัน



“มั่นใจว่าจะมีข้อตกลงใจร่วมกันร่วมระหว่างโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ,กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นภาพใหญ่ที่จะเกิดขึ้น แต่ในระดับพื้นที่สถานีตำรวจจะประเมินความเสี่ยง และการกำหนดห้วงเวลาในการเข้าตรวจด้วยชุดสายตรวจรถยนต์ รวมทั้งสายตรวจตำรวจ หรือตำรวจอาสา ที่ประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อให้เกิดความมั่นใจและอุ่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัย หรือหากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใดมีความประสงค์ที่จะติดตั้งตู้แดง ก็สามารถที่จะเสนอเรื่องให้กับสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือที่ บช.ภ.4 ได้ทันที”



รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า ด้วยอัตรางานที่รับผิดชอบและกำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานอยู่นั้น สามารถที่จะตั้งข้อสังเกตุได้ว่าบางอย่างไม่สัมพันธ์กัน โดยเฉพาะเรื่องการได้รับการจัดสรรน้ำมันให้กับสถานีตำรวจแต่ละแห่งนั้นน้อยมาก ไม่สอดคล้องกับภาระงาน ยกตัวอย่างเช่นการออกตรวจพื้นที่ ที่กำลังเจ้าหน้าที่ทุกผลัดจะต้องบริหารจัดการเวลาและออกตรวจให้ครบตามจุดที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล,สถานที่ราชการ,หมู่บ้าน,ชุมชน, สวนสาธารณะ,สถานีขนส่ง,สถานีรถไฟ,ท่าอากาศยานฯรวมไปถึงสถานที่จุดเสี่ยงและจุดเซฟโซน ขณะที่บางพื้นที่นั้นแต่ละจุดอยู่ห่างไกลกันมาก อย่างไรก็ดีด้วยการหน้าที่ตำรวจทุกคนจะปฎิบัติงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อรักษาความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจกับประชาชนในทุกพื้นที่และทุกหน่วยงานอย่างครอบคลุมและเต็มที่ที่สุด