สังคม

ผัวร้องสายไหมต้องรอด เมียโดนอุ้มหายหลังไม่ยอมจ่ายหนี้ สุดท้ายโอละพ่อที่แท้กุเรื่อง ลั่นถ้าทำอีกจะขอเลิก

โดย weerawit_c

4 ธ.ค. 2566

479 views

วานนี้ (3 พ.ย.66) เวลา 18.30 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำนายเอก (นามสมมติ) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง หลังเจ้าหนี้เงินกู้พาพวกอุ้มหายไปจากที่ทำงาน โดยอ้างว่า หากไม่นำเงินมาคืนจะทำร้ายร่างกาย


โดยนายเอก (นามสมมติ) เปิดเผยว่า คบกับภรรยาคนนี้มา 10 กว่าปี เมื่อก่อนไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน แต่พักหลังๆเริ่มหมุนเงินไม่ทัน ภรรยามีอาชีพแบ็คสเตจ แต่หลังงานเริ่มน้อย ทำให้การเงินมีปัญหา ภรรยาจึงไปกู้ยืมจากเจ้าหนี้นอกระบบ รวมเป็นเงิน 150,000 บาท ซึ่งมีการใช้หนีไปแล้วบางส่วน เหลืออีก 90,000 บาท ซึ่งภรรยาไม่มีเงินให้แล้ว จึงได้ต่อรองเจ้าหนี้


จนเป็นที่สรุปว่าให้ทะยอยจ่ายเงินจำนวน 90,000 คืน 4 งวด หากผิดนัดจะมีการคิดดอกด้วย โดยงวดแรกคือวันที่ 30พ.ย.ที่ผ่านมา ต้องจ่ายให้เจ้าหน้า 37,000 บาท แต่ตนจ่ายให้ไม่ครบ และขอเลื่อนที่เหลือไปรวมกับยอดงวดถัดไป จนกระทั้ง ซึ่งในวันเดียวกัน ตนได้ไปส่งภรรยาที่ปั๊มน้ำมันหน้าบ้าน ตามความต้องการของภรรยา เพราะโดยปกติจะไปส่งที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ทำงาน (งานแสดงโขน)


จากนั้นเพื่อนของภรรยาก็มารับและเดินทางไปทำงาน จนกระทั้งเวลา 11.00น. ภรรยาไลน์มาหาว่าเข้าที่ทำงานไม่ได้ เพราะมีกลุ่มชายประมาณ7-8คนมียืนดักรอที่หน้าทางเข้าทำงาน จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป จนแฟนได้ติดต่อผ่านไลน์และบอกว่าถูกเจ้าหนีอุ้มไป และถูกทำร้ายร่างกายให้หาเงินมาคืนให้ครบ ไม่งั้นจะถูกส่งไปขายที่อื่น แต่แรกตนยังไม่ปักใจเชื่อ จนกระทั่งเมื่อคืนภรรยาไปคอลไลน์ไปหาญาติด้วยใบหน้าเปื้อนเลือด และบอกว่าให้ช่วยหาเงินไม่งั้นจะถูกทำร้ายร่างกาย


ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาแจ้งความตนหาเงินได้ 10,000 บาท และโอนเข้าบัญชีภรรยาไปแล้ว เพราะคนร้ายจะให้ใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารภรรยาตน โดยการพูดคุยทั้งหมดผ่านไลน์จะถูกควบคุมและตรวจสอบโดยคนร้าย เพราะตนเคยขอให้เขาส่งโลเคชั่นมาแต่ไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าภรรยาไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกใคร เพราะสภาพภรรยาดูแย่มาก


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถูกร้องเรียนมาตั้งแต่เมื่อ 2 วันที่แล้ว ซึ่งในตอนแรกตนก็มองว่าอาจจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาหรือไม่ แต่เมื่อคืนมีภาพที่ภรรยาของนายเอก(นามสมมติ) คอลวีดีโอมาในสภาพเลือดเต็มใบหน้า มีแผลใต้ตา จึงคิดว่าเรื่องนี้ควรแจ้งความไว้ก่อน หากเป็นเรื่องจริงจะได้ติดตามตัว และช่วยเหลือกันได้ทันท่วงที ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงถือว่าอุกอาจมาก เพราะมาดักอุ้มคนในสถานที่สาธารณะมาก


ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ทำการสืบสวน และเดินทางไปยังศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดที่ นางสาวเปมิกา(สงวนนามสกุล) ภรรยาของนายเอก(นามสมมติ) ทำงานอยู่ ในขณะเดียวกันเหมือน นางสาวเปรมมิกา เหมือนจะจับสัญญาณความผิดปกติได้ จึงได้ทำการโอนเงินคือนายเอก โดยอ้างว่ายืมเพื่อนมาเพื่อนโอนให้นายเอก เอาไว้ใช้เพราะเป็นห่วง


ต่อมามีรายงานว่าภายหลังชุดสืบสวนได้เข้าไปถึงตัวของนางสาวเปมิกา และพบว่านางสาวเปมิกาไม่ได้ถูกกักขัง หรือถูกทำร้ยร่างกาย แต่นางสาวเปมิกายังทำงานตามปกติ โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพเบื้องต้นว่า สร้างเรื่องทุกอย่างขึ้นจริง แต่ยังไม่มีการสอบถามเหตุผล เนื่องจากเจ้าตัวยังอยู่ในระหว่างทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยให้นางสาวเปมิกาทำงานจนแล้วเสร็จก่อน จึงเชิญตัวเข้ามาพูดคุยที่ สน.ห้วยขวาง


โดยก่อนหน้านี้นายเอก (นามสมมติ) สามีของนางสาวเปมิกาเคยให้ข้อมูลว่า นางสางเปมิกา เคยอ้างว่าถูกเจ้าหนี้อุ้มไปเรียกเงิน 2 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้หากเขาโกหกอีกตนเองจะเลิกลากับนางสาวเปมิกาจริงๆ

คุณอาจสนใจ

Related News