‘ป้าบริโอในตำนาน’ อาละวาด! ลุยพร้อมลูกชาย บุกทำร้ายเพื่อนบ้าน ก่อนฉกไอโฟนแล้วหนี

‘ป้าบริโอในตำนาน’ พร้อมลูกชายอาละวาด บุกทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้านแม่ลูกอ่อน ก่อนชิงโทรศัพท์ไอโฟนแล้วหนี

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 ธ.ค. 2566 น.ส.นาเดียร์ จันทร์เพชร อายุ 19 ปี และนายคิริเมขล์ สังข์นิล อายุ 20 ปี สองสามีภรรยา ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าได้รับความเดือดร้อนจากป้าบริโอในตำนานและนายอินเดีย (ไม่ทราบนามสกุล) ลูกชายป้า โดยถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และถูกป้าบริโอฉวยโอกาสเอาโทรศัพท์ไอโฟน 11 ไป เหตุเกิดในหมู่บ้านกาญมณี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2566 เวลา 14.51 น. และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน

ภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านผู้บาดเจ็บบันทึกภาพ น.ส.นาเดียร์ กำลังถูกลูกชายของป้าบริโอทำร้าย ทั้งจิกผมและใช้เล็บจิกไปที่ใบหน้า ก่อนที่ชายคนก่อเหตุจะหยิบโทรศัพท์ของผู้บาดเจ็บส่งให้กับป้าบริโอ ซึ่งเวลานั่นป้าบริโอกำลังถ่ายคลิปวิดีโออยู่ หลังป้าบริโอได้โทรศัพท์ของผู้บาดเจ็บไปก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน จากนั้นออกมาช่วยลูกชายจิกผมผู้บาดเจ็บ ก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าบ้านไปอีกครั้ง โดยผู้บาดเจ็บก็เดินไปตามทวงโทรศัพท์มือถือคืน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่าบ้านของผู้เสียหายและบ้านของป้าบริโอเป็นบ้านแฝด ผนังบ้านด้านหนึ่งติดกัน หันหน้าบ้านเข้าสวนสาธารณะโดยมีถนนหมู่บ้านผ่าน จุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าบ้านของทั้งสองครอบครัว ตรวจสอบสภาพร่างกาย น.ส.นาเดียร์ มีบาดแผลที่เปลือกตาซ้าย เหนือคิ้วซ้าย ปากด้านบนแตก ตามตัวมีรอยฟกช้ำ ส่วนนายคิริเมขล์มีบาดแผลที่โหนกแก้มข้างซ้าย จากการถูกต่อยด้วยกุญแจรถ

น.ส.นาเดียร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. หลังจากพาลูกชาย วัย 1 เดือนกลับจากไปหาหมอและมานั่งอยู่โต๊ะหินที่หน้าบ้าน แฟนของเธอออกไปทำรถข้างนอก ลูกชายป้าบริโอได้เดินมาด้อมๆ มองๆ ที่หน้าบ้านเพื่อสังเกตว่าเธออยู่คนเดียวหรือเปล่า จากนั้นเดินมาทำทีเก็บใบไม้ที่หน้าบ้านเธอ เธอเลยถามไปว่ามาทำไม ผู้ก่อเหตุบอกว่ามาเก็บใบไม้ จึงบอกกับผู้ก่อเหตุไปว่าไม่ชอบให้คนอื่นมาที่หน้าบ้านของเธอ จะมาที่หน้าบ้านของอื่นทำไม ผู้ก่อเหตุก็ด่าด้วยคำหยาบคายทันที จากนั้นก็นำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอเธอ เธอจึงเดินออกไปหน้าบ้าน นำโทรศัพท์ออกไปไลฟ์สดว่าแม่ลูกคู่นี้พูดจาแบบนี้ วอนให้นักข่าวและตำรวจเข้ามาดูหน่อย แต่ผู้ก่อเหตุกลับกลายเป็นคนพูดจาดีมากขึ้นมา เธอจึงพยายามจะเดินไปหาแม่เขา แต่ผู้ก่อเหตุได้กันไว้โดยการถีบและจิกหัวเธอ เธอเลยจิกหัวเขากลับแล้วลากตัวไปที่หน้าบ้านของเธอเพื่อให้กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ เขาจะได้ไม่ไปอ้างอย่างอื่นได้ ขณะที่แม่เขาก็พยายามถ่ายคลิป ส่วนผู้ก่อเหตุก็มาคว้าเอาโทรศัพท์ของเธอไปให้แม่เขาเอาไปเก็บไว้ในบ้าน ลูกเขายังใช้มือจิกที่ลูกตาและใบหน้าของเธอ จากนั้นแม่เขาวิ่งออกมาให้เธอปล่อยลูกเขา เธอก็ปล่อยและแยกย้ายกันเข้าบ้าน จนแฟนกลับมา

นายคิริเมขล์ กล่าวว่า เมื่อกลับมาถึงบ้าน พบว่าคู่กรณีกำลังจะขับรถออกจากบ้านไป แต่ระหว่างที่เขากำลังจะปิดประตูรถ จึงถามว่ามาทำร้ายแฟนตนเองทำไม ลูกซึ่งเป็นคู่กรณีก็ได้กระโดดถีบเขาทันที โดยคนแม่ก็ยืนด่าด้วยคำหยาบคาย พร้อมทั้งถ่ายคลิป ระหว่างนั้นปัดโทรศัพท์เขาเพื่อไม่ให้ถ่าย ขณะนั้นผู้ก่อเหตุเอากุญแจรถมากำไว้ในมือและต่อยมาที่ใบหน้า เขาจึงคว้ากุญแจมาถือไว้ แต่เมื่อตำรวจมาถึงคู่กรณีบอกว่าตัวเขาขโมยกุญแจ โดยปกติบ้านเขาและบ้านป้าบริโอก็มีปัญหากันเกือบทุกวันอยู่แล้ว ปัญหาน่าจะเกิดจากบ้านนั้นที่อะไรสะกิดใจหน่อยก็ทำใจไม่ได้ แค่เด็กในบ้านอายุเดือนกว่าร้องอยู่ในบ้าน ยังมาด่าพูดจาหยาบคาย พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายไว้ทุกครั้ง หรือแม้แต่ใครขับรถผ่านไฟส่องเข้าไปในบ้านก็ไปแจ้งความ ใครไปจอดรถหน้าบ้านก็ด่า หรือแม้แต่ช่างมาล้างแอร์ที่บ้านตนเอง ก็ไปแจ้งความว่าน้ำหยดไปในบ้านทั้งที่ไม่มีน้ำหยดไปสักหยด

นายคิริเมขล์ กล่าวต่อว่า อยู่บ้านหลังนี้ก่อนเขามาเป็น 10 ปี รู้สึกรำคาญมาก กลางคืนก็เคาะผนังบ้าน พยายามจะแก้ปัญหาเพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ บางเรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจมาให้ไปโรงพักแต่คู่กรณีไม่ไป ซึ่งเหตุการณ์ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน และตอนนี้เด็กเล็กในบ้านเริ่มมีหลายคน กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ก็อยากให้หน่วยงานต่างๆ ลงมาช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่มีใครลงมา เกรงว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามป้าบริโอในตำนาน โดยกดกริ่งเรียก ปรากฏว่าป้าบริโอไม่ออกมาให้ข้อมูลแต่กลับไปยืนอยู่บนระเบียงบ้านแล้วตะโกนลงมาว่าจะสอบถามไปทำไม และเธอก็ไม่ใช่เพื่อนบ้านใคร จากนั้นได้ถ่ายภาพผู้สื่อข่าวและผู้บาดเจ็บ โดยไม่เปิดประตูออกมาและไม่ให้ข้อมูลใดๆ