แม่ทำใจไม่ได้ ลูกวัย 5 เดือน มีหนองออกจากหู ไปหาหมอบอกไม่อันตราย กลับมาอยู่บ้านได้ 5 วัน เสียชีวิต

วันที่ 24 ต.ค. 66 นางสาวเพ็ญพิชชา อายุ 26 ปี พร้อมด้วยสามี ได้เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังพาลูกสาว อายุ 5 เดือน ป่วยคล้ายเป็นหวัด มีน้ำสีขาวขุ่นคล้ายน้ำหนองออกจากหู แม่พาไปพบแพทย์รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตรวจอาการก่อนให้ยาแล้วกลับบ้าน 2 วันนัดไปตรวจอีกครั้ง บอกเด็กไม่เป็นอันตราย สุดท้ายวันที่ 5 เด็กเสียชีวิต เพราะปอดติดเชื้อ 

นางสาวเพ็ญพิชชา กล่าวว่า ลูกสาวมีอาการป่วยคล้ายจะเป็นหวัด มีไข้ หายใจติดขัด มีน้ำสีขาวขุ่นคล้ายน้ำหนองออกมาจากหูข้างซ้าย จึงรีบพาไปพบแพทย์ทันที เมื่อถึงโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน แม่ขอให้ตรวจลูกอย่างละเอียด เพราะลูกมีอาการซึม น่าเป็นห่วง พยาบาลได้พาไปเอกซเรย์ปอด ล้างจมูก ดูดเสมหะในโพรงจมูก ปาก คอ ก่อนจะพบแพทย์เพื่อดูอาการอีกครั้ง

แพทย์ชี้ว่า จากที่ตรวจแล้วแยกได้เป็น 2 ข้อ ดังนี้ 1.เป็นโรคเกี่ยวกับหวัด มีน้ำมูก หายใจครืดคราด 2.เยื่อแก้วหูชั้นกลางเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ จากนั้นแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อและยาหยอดหูกลับบ้าน ก่อนจะนัดให้มาดูอาการอีกครั้งในวันที่ 26 ก.ย. ด้วยความกังวลใจแม่จึงถามแพทย์ก่อนกลับว่า หนองออกหูมันอันตรายไหม แพทย์ตอบว่า ยังไม่อันตราย ถ้าไม่รีบมารักษา ปล่อยไว้นานกว่านี้ เชื้อลงปอดก็อันตรายถึงชีวิตได้

หลังจากกลับจากโรงพยาบาล แม่ได้ป้อนยาลูกสาวตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ใช้ยาภายนอกในการหยอดหูก็ถูกวิธีทุกอย่าง กระทั่งวันที่ 26 ก.ย. แม่พาลูกไปโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดฟังผล ติดตามดูอาการ แต่ไม่ได้พบแพทย์คนเดิม ซึ่งคาดว่าจะเป็นแพทย์เวร หรือแพทย์ที่มาเข้าเวรแทน ซึ่งแพทย์คนดังกล่าวเหมือนจะไม่ทราบว่าเด็กมีประวัติการรักษาและเป็นวันนัดมาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการ ทีแรกจะให้ยาฆ่าเชื้อแล้วกลับบ้าน แต่แม่บอกว่ายาฆ่าเชื้อเพิ่งได้ไป แพทย์จึงย้อนกลับไปดูประวัติคนไข้และส่งต่อให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางตรวจหู โดยแพทย์ได้ทำการดูดหนองออกจากหู และวินิจฉัยว่า เป็นโรคหูโปร่งติดเชื้อ ไม่มีอันตรายใดๆ จากนั้นแม่ก็จ่ายเงินค่ารักษาแล้วพาลูกกลับบ้าน

ต่อมาช่วงเช้ามืดวันที่ 28 ก.ย. น้องมีอาการหายใจเหนื่อยขณะดูดนม เวลาประมาณ 22.00 น. แม่ได้พาลูกเข้านอนตามปกติ จนช่วงตี 3 แม่เห็นลูกนอนนิ่ง ตัวเย็น ผิดสังเกต เพราะปกติลูกจะต้องตื่นมากินนม จึงตกใจมากรีบเรียกรถมูลนิธิมาช่วยนำลูกส่งโรงพยาบาล ระหว่างทางได้มีการปั๊มหัวใจแต่ไม่มีการตอบสนอง เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์แจ้งว่า ลูกเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 ชม.

ต่อมาได้มีการชันสูตรศพ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายในใบมรณบัตรว่า ปอดอักเสบ จนถึงตอนนี้แม่ยังทำใจไม่ได้ ลูกป่วยพยายามจะรักษาให้ดีที่สุด แต่เพียง 5 วันลูกก็มาเสียชีวิต แม่เชื่อว่าหากตั้งแต่วันแรกคุณหมอรับลูกเข้าแอดมิดที่โรงพยาบาล ดูแลใกล้ชิด ลูกก็คงไม่จากไปเร็วแบบนี้ ตอนนี้ศพลูกสาวยังอยู่ที่วัดไผ่เงิน อยากให้โรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ แม่จะยังไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม