สังคม

ไม่ได้นิ่งนอนใจ! สำนักพุทธฯเชียงราย ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปมพระโผล่ร่วมวง น้ำเต้า-ปู-ปลา

โดย chiwatthanai_t

11 ต.ค. 2566

152 views

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ ได้โพสข้อความระบุว่า “6 4 เอี่ยว เจริญพร น้ำเต้า ปู ปลา เลขารองเจ้าคณะภาค และเจ้าอาวาสวัดดังใน อ.เมืองเชียงราย ทำแบบนี้ได้หรอเจ้าคะ สำนักพุทธตรวจสอบด่วน” โดยแนบภาพถ่ายของพระภิกษุขณะกำลังเล่นการพนันมะโขกโหลกและบาคาร่า อย่างสนุกสนานโดยมีแก้วน้ำสีเหลืองคล้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลวางอยู่ด้วย จนเป็นที่วิพากาวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นการทำให้ภาพพจน์ของพระสงห์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้รับการเสื่อมเสีย


ด้าน พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย มีคำสั่งให้คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมอบหมายให้ พระครูสิริธรรมนิวิฐ เจ้าหน้าที่คณะอำเภอเมือง ร่วมกับ นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือ ที่วัดศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและวางมาตรการบทลงโทษกับคณะสงฆ์ที่ปรากฎภาพดังกล่าว


ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเหตุซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว โดยมีพระสงฆ์ใน จ.เชียงราย จำนวน 5 รูป ได้รับกิจนิมนต์ ซึ่งประกอบด้วย เจ้าคณะตำบล 1 รูป เจ้าอาวาสวัด 2 รูป และพระลูกวัดอีก 2 รูป ไปร่วมงานวัดเวียงแก้ว อยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่เพิ่งจะมาเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงวันที่ 10 ที่ผ่านมา


นายโสไกร กล่าวว่า หลังทราบเรื่องทางสำนักพุทธ จ.เชียงราย ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ร่วมกับคณะสงฆ์เชียงราย ตั้งกรรมการสอบสวนในทันที ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 5 รูป ก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลในภาพจริง โดยอ้างว่าการละเล่นเหล่านั้นเป็นประเพณีของท้องถิ่นที่เล่นกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ถือเป็นการกระทำผิดวินัยของสงฆ์และเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ในวันนี้จึงมีนัดหมายประชุมเพื่อพิจารณาบทลงโทษกันอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าพระสงฆ์ทั้ง 5 รูป ได้หลบหนีไปทั้งหมด ทำให้ไม่ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติม หรือดำเนินการบทลงโทษ


นายโสไกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจากการพิจารณาของคณะสงฆ์อย่างถี่ถ้วนได้มีมติและคำสั่งให้ปลดพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปออกจากตำแหน่งที่มีอยู่ทั้งหมด โดยไม่สามารถที่จะยุ่งเกี่ยวกับทางคณะสงห์หรือกับทางวัดต่างๆได้อีก แต่ยังไม่ขั้นที่ปาราซิก เพราะถือเป็นความผิดวินัยที่ยังไม่ร้ายแรงมากนัก และทางผู้กระทำผิดยังไม่ได้ชี้แจงโดยละเอียดเพราะหลบหนีไปก่อน


อย่างไรก็ตามโทษจะถึงปาราซิกหรือไม่นั้น ทางคณะสงฆ์จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ซ้ำขึ้นมาอีกทางคณะสงฆ์ได้มีการวางกฎ สำหรับพระภิกษุที่จะเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะต้องรับได้อนุญาติจากทางวัดหรือทางคณะสงฆ์ระดับอำเภอหรือระดับจังหวัดก่อน และต้องมีการกิจนิมนต์มาแสดงว่ามีการนิมนต์ให้ไปร่วมงานต่างๆจริง ไม่สามารถที่จะเดินทางโดยพละการได้อีก และอยากเตือนให้พระภิกษุสงฆ์ควรตระการเข้าไปร่วมในวงอโคจร นั้นเป็นเรื่องไม่ดีและไม่เหมาะสมควรหลีกเลี่ยงเข้าไปในทุกสถานการณ์ แม้กิจกรรมเหล่านั้นจะเป็นเรื่องปกติของท้องถิ่นนั้นๆ แต่หากพระภิกษุสงฆ์เข้าไปก็เป็นภาพที่ไม่งาม และทำให้ภาพของพระสงฆ์ได้รับความเสื่อมเสีย

คุณอาจสนใจ

Related News