สังคม

รวบคาไลฟ์! หมอกระเป๋า ฉีดฟิลเลอร์-โบท็อกซ์ ทำเหยื่อหน้าพัง ตาหวิดบอด

โดย nicharee_m

5 ต.ค. 2566

262 views

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหมอกระเป๋าฉีดสารแปลกปลอม (สารเหลว) เหยื่อหน้าพัง ตาหวิดบอด หนีไม่รอดถูกจับคาไลฟ์สด

วันที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 10.30 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นางสาวธัญทิพย์ หรือจูน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพล ที่ จ.118/2566 ลงวันที่ 26 กันยายน 2566

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนสุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผู้ต้องหาได้เดินทางไปทางภาคอีสาน และได้มาพบกับผู้เสียหายที่ร้านนวดแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่นพร้อมกับกระเป๋าหิ้วเหมือนกระเป๋าเครื่องสำอาง จากนั้นผู้ต้องหาได้แนะนำตัวเองว่าเป็นครูสอนทำผม และเคยทำที่คลินิกความงามมากว่า 10 ปี มีความชำนาญเรื่องการออกแบบใบหน้า และสามารถฉีดฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ได้ในราคาไม่แพง และไม่ต้องเดินทางไปฉีดที่คลินิก และคำโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็น “ฟิลเลอร์แท้ โบท็อกซ์แท้ 1,000,000%” จนผู้เสียหายหลงเชื่อและตกลงฉีดโดยคำแนะนำของผู้ต้องหา

และผู้ต้องหายังชักชวนพนักงานในร้านนวด อีก 3 รายด้วยโดยตกลงราคากันที่รายละ 10,000 บาท แต่หากใครอยากทำจุดไหนเพิ่มก็จะบวกราคาไปอีก ซึ่งในระหว่างขั้นตอนการฉีดสาร ผู้ต้องหาไม่มีการทำความสะอาดมือและใบหน้าผู้เสียหาย ไม่สวมถุงมือ ใช้นิ้วมือในการเช็ดเลือดจากใบหน้าผู้เสียหาย โดยซับกับทิชชู จากนั้นวางทิชชูกองรวมไว้ที่พื้นในลักษณะไม่ถูกสุขลักษณะตามหลักการแพทย์ที่ถูกต้อง

ต่อมาหลังจากผู้เสียหาย ฉีดไปได้เพียง 1 วัน กลับมีอาการหนองขึ้นทั่วบริเวณใบหน้า ตาบวมปิด ปวดและมีอาการคลื่นไส้อาเจียน จึงโทรติดต่อไปยังผู้ต้องหา ผู้ต้องหาบ่ายเบี่ยงและแจ้งว่าเป็นอาการปกติหลังฉีด เดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ผ่านไป 1 อาทิตย์ อาการเริ่มหนักขึ้นผู้เสียหายจึงเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขอนแก่น

แพทย์ระบุแจ้งว่า “เป็นภาวะอักเสบจากสิ่งแปลกปลอมสารเหลวทั่วใบหน้า” ต้องทำการผ่าตัดเอาสารเหลวออกทั้งหมด โดยไม่สามารถเจาะ หรือดูดออกได้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหลายแสนบาทต่อครั้ง ผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินจำนวนมากได้จึงขอรักษาตามอาการ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานสาหัส ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้เป็นปกติจนถึงปัจจุบัน แต่ยังคงเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง พยายามติดต่อผู้ต้องหาก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก

​ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ได้เฝ้าแกะรอยผู้ต้องหา โดยสืบทราบว่า นางสาวธัญทิพย์ฯ หรือครูจูน ได้เดินทางมาสอนทำผม อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบนางสาวธัญทิพย์ฯ ยืนอยู่บนเวที ทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเพจทำผม จึงเชิญตัวลงมา และได้ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งนางสาวธัญทิพย์ฯ แจ้งว่าไม่ได้พกทำบัตรประชาชนมาด้วย

จึงได้ตรวจสอบเอกสารใบขับขี่รถยนต์ พบว่ามีตำหนิรูปพรรณ ชื่อหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนตรงตามหมายจับ จึงได้แสดงหมายจับ ให้ นางสาวธัญทิพย์ฯ (ผู้ต้องหา) ตรวจดู อ่าน พร้อมทั้งแจ้งข้อความในหมายจับ ทั้งนี้ นางสาวธัญทิพย์ หรือจูน ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาฯ ดังกล่าวจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมควบคุมตัวมาทำบันทึกการจับกุมตัวที่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เสร็จแล้วนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การภาคเสธ โดยรับว่าเคยทำมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยที่ไม่ความรู้ด้านการแพทย์มาก่อน ไม่เคยจบการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แต่อย่างใด อาศัยแอบอ้างโฆษณาหลอกลวงทำหัตถการให้กับลูกค้าที่มาทำผมที่ร้าน


คุณอาจสนใจ

Related News