ข่าวโซเชียล

เน็ตไอดอลสาวโพสต์อุทาหรณ์ ฉีดฟิลเลอร์หมอกระเป๋า หวิดตาบอด เกือบเอาชีวิตไม่รอด

โดย nicharee_m

6 เม.ย. 2566

391 views

อุทาหรณ์เตือนใจ ฉีดฟิลเลอร์หมอกระเป๋า หวิดดับ!

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.66 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Mali Kanjanaphuping (มะลิ) กาญจนา ภูพิง ได้โพสต์เล่าประสบการณ์ อุทาหรณ์เตือนใจสายฉีดเสริมความงาม โดยเธอเล่าว่า

เมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค. มะลิได้ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้งสองข้าง หลังฉีดเสร็จไม่ถึงชั่วโมง เริ่มมีรอยช้ำขึ้นที่หน้าแก้มฝั่งขวา และแสบโพรงจมูกขวามากๆ น้ำมูกไหลไม่หยุด

เช้าวันที่ 18 มี.ค. มะลิบินไปโปรโมทภาพยนตร์ บังเอิญรัก ข่อยฮักเจ้า ที่จ.อุดรธานี ซึ่งมะลิไม่สามารถเข้าร่วมงานวันนั้นได้ เพราะต้องรีบไปโรงพยาบาลให้คุณหมอดูอาการ เนื่องจากระดับความแสบโพรงจมูกมากขึ้น น้ำมูก-น้ำตาด้านขวาไหลไม่หยุด คุณหมอเจาะเลือดให้ยาฆ่าเชื้อ-ยาแก้แพ้ และให้ยามาทานตามอาการ แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้

เช้าวันที่ 19 มี.ค. มะลิข้ามมาโปรโมทหนังที่ฝั่งลาว วันนี้อาการแย่ลงกว่าเดิม หน้าเริ่มบวมขึ้น ปากบวม มีแผลในปากหลายจุด และเหมือนมีสิวขึ้นเล็กน้อย

เช้าวันที่ 20 มี.ค. ตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกทั้งเสียใจ ทั้งกลัว และสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะอาการทั้งหมดของเมื่อวานมันคูณสิบในวันนี้ เพียงแค่ข้ามคืนตุ่มที่เหมือนสิวขึ้นเยอะกว่าเดิมมาก มะลิรีบบินกลับกรุงเทพ พอลงเครื่องก็รีบไปหาคุณหมอเฉพาะทางด้านผิวหนังที่รู้จักทันที (ไม่ใช่คนที่ฉีดให้นะคะและไม่ใช่คลินิกที่ไปฉีด) Weerawit Link Wateetip ที่ ATier Wellness & Surgery

พี่หมอลิงค์เห็นปุ๊บบอกเลยว่าอาการนี้คือ “ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด” ซึ่งอันตรายมากๆ เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่ Flow เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงในจุดต่างๆได้ เสี่ยงมากที่ฟิลเลอร์จะไหลเข้าตา เนื้อเยื่อตายบริเวณที่เลือดไม่ไปเลี้ยง ส่วนตุ่มที่มะลิคิดว่าเป็นสิว ความจริงแล้วมันคือหนอง จากการอักเสบรุนแรง!! ต้องรีบฉีดสลายด่วน พี่หมอลิงค์จึงให้คำปรึกษาอย่างละเอียดและให้การรักษาเบื้องต้น ทั้งฉีดสลายฟิลเลอร์ ฉายแสงลดการอักเสบและสมานแผลบนผิว ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด etc. หลังจากนั้นจึงส่งเคสไปให้ทาง รพ.รามาธิบดีต่อ

สภาพจิตใจช่วงอาทิตย์แรกแย่มากๆ ยอมรับเลยว่ามีคิดสั้นบ่อยครั้ง คิดแค่ว่าอยากจบชีวิตตัวเองตอนนี้ เพื่อที่จะไม่ต้องทนเจ็บต่อไปอีกแล้ว อยากวิ่งออกไปให้รถชนให้มันเจ็บครั้งเดียวแล้วจบไปเลยยังดีกว่า

ส่วนคนที่ฉีดให้มะลิเขาไม่ได้เป็นหมอ เขาเป็นพยาบาล ถ้ามะลิรักษาตัวเองเรียบร้อยเมื่อไหร่จะรีบดำเนินคดีกับเขาทันที

มะลิอยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง และเตือนเพื่อนๆหลายคนไว้ การฉีดฟิลเลอร์ไม่ผิด แต่คนที่ฉีดให้ต้องเป็นหมอจริงๆ ต้องมี **ประสบการณ์ฉีดมาเยอะ** มีความชำนาญและความรู้ว่าต้องฉีดอย่างไรจริงๆ เพราะต่อให้เป็นหมอฉีดแล้วพลาดขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ทราบสาเหตุและรักษาแก้ไขได้ถูกวิธี ทันท่วงที

สายฉีดควรเช็คคลินิก เช็คคุณหมอ เช็คฟิลเลอร์ให้ชัวร์ว่าของแท้หรือเปล่า อย่าเห็นแก่ของถูก และถึงเป็นยาที่ผ่าน อย. ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะปลอดภัย เพราะมีโอกาสเกิดอันตรายจากการฉีดที่ผิดพลาด ผิดตำแหน่ง เพราะไม่ได้เรียนเฉพาะทาง ไม่รู้ว่าบริเวณไหนอันตราย ข้อห้ามข้อควรระวังในการฉีด รวมทั้งข้อแนะนำหลังการฉีดที่เหมาะสม อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะเวลามันพลาดขึ้นมา มันจะเจ็บหนัก จ่ายหนักกว่าเดิมหลายเท่า หรือบางครั้งมันอาจจะทำให้เราพิการขั้นตาบอด หรือ ไม่สามารถรักษาให้หายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้อีก!

มะลิยังถือว่าโชคดีมากที่ยังสามารถรักษาได้ทันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ บทเรียนนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตเลยก็ว่าได้

ทีมข่าวพูดคุยกับคุณมะลิ เล่าว่า ขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นยังเหลือแค่แผลเป็นที่หน้าบางส่วนซึ่งแพทย์ยังนีดไปตรวจและรอทำเลเซอร์รักษารอยแผลเป็น

หลังจากที่เข้ารักษาตัวได้คุยกับพยายาลคนที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ ซึ่งตอนแรก เขาไม่ยอมรับและอ้างว่า เป็นเพระ คุณมะลิแพ้ยาชา หรือแพ้ฟิลเลอร์ แต่เมื่อนพผลตรวจจากแพทย์ที่รักษา ระบุอาการ พยาบาลรายนั่นก็ยอมรับและบอกว่าจะพยายามหาเงินมาชดเชยให้ แต่ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยขอโทษจริงจัง จึงทำให้เธอตัดสินใจว่าจะต้องแจ้งความดำเนินคดี

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจใช้บริการหมอกระเป็นรายนี้ แม้จะมีการออกข่าวเตือนกันบ่อยๆ คุณมะลิเล่าว่า เพราะตนเองชะล่าใจ เดิมเคยไปรีวิว คลินิกเสริมความงามที่พยาบาลรายนี้ทำงานจึงรู้จักกัน ต่อมาเห็นรุ่นพี่มรวงการนางแบบ แนะนำมาจึงตัดสินใจลองใช้บริการ ไม่ติดว่าจะมีปัญหาหรือจะเกิดอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด



คุณอาจสนใจ

Related News