อาชญากรรม
รวบคาเข็ม! หนุ่มจบนิเทศสวมรอยเป็นหมอบริการฉีด โบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ นาน 5 ปี คลินิกดังย่านสวนหลวง
โดย petchpawee_k
25 ก.พ. 2566
284 views
บุกจับคาเข็ม หนุ่มจบนิเทศ สวมรอยเป็นหมอเสริมความงาม ให้ผู้รับบริการกว่า 120 ราย พบฉีดฟิลเลอร์หน้าผากด้วย ซึ่งแพทย์โดยทั่วไปไม่รับฉีด เหตุมีอันตรายสูง เพราะมีเส้นเลือดเชื่อมต่อไปยังจอประสาทตา และสมอง ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
วานนี้ (24 ก.พ.66) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วยตำรวจ ปคบ. / กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นแพทย์ทำงานคลินิกเสริมความงาม โดยได้ร่วมกันจับกุม นายพัสกร อายุ 36 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา และขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต”
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มีคลินิกเสริมความงามเปิดให้บริการรับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ และร้อยไหม โดยแพทย์ซึ่งไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ในซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร จึงทำการสืบสวนขยายผลจนทราบข้อมูลว่า สถานพยาบาลดังกล่าว ชื่อ “วีบีจีคลินิก” มี นายพัสกร แสดงตนแอบอ้างเป็นนายแพทย์ ให้บริการฉีดรักษา เสริมความงามแก่ประชาชนทั่วไปจริง ซึ่งไม่มีความรู้ ความชำนาญ อย่างแพทย์ผู้มีวิชาชีพ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อและเข้ารับบริการ โดยไม่ได้ตรวจสอบว่าแพทย์ที่ทำการรักษา เป็นแพทย์จริงหรือไม่ เสี่ยงต่อสุขภาพ และอาจถึงแก่ชีวิตได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมสถานพยาบาลดังกล่าวในทันที ต่อมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการตรวจสอบ “วีบีจีคลินิก” ในพื้นที่เขตสวนหลวง กทม. พบว่าคลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปอยู่ และพบ นายพัสกรฯ แสดงตัวเป็นแพทย์ ทำการตรวจรักษา โดยเป็นผู้ผสมตัวยา และกำลังฉีดยาเข้าเส้นเลือดให้ผู้ที่เข้ารับบริการด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัว นายพัสกรฯ และได้ตรวจยึด เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยาอื่นที่เป็นความผิด กว่า 26 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน ของ ปคบ.ดำเนินคดี
โดยเจ้าหน้าที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ได้ตรวจสอบ ใบประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบประกอบกิจการดำเนินสถานพยาบาล สถานพยาบาล พบว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ได้รับรักษาพยาบาลนอกเวลาที่ได้รับอนุญาต และไม่มีแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลป์ให้การรักษา
เบื้องต้น นายพัสกรฯ รับว่าตนไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แต่อย่างใด โดยเรียนจบเพียงการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จากนั้นได้เข้าทำงานในคลินิกเสริมความงามในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล เนื่องจากมีความสนใจในด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และเห็นช่องทางว่ามีรายได้ดี จึงเริ่มรับงานโดยแอบอ้างตัวเป็นแพทย์เฉพาะทาง รับฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อกซ์ ร้อยไหม นอกสถานที่ในลักษณะหมอกระเป๋า และรับงานรักษาในคลินิกกรณีคลินิกนัดหมายลูกค้าให้ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี มีรายได้เดือนละ 30,000-40,000 บาท
จากข้อมูลการสืบสวน นายพัสกรฯ ได้ทำการให้บริการเสริมความงามให้ผู้รับบริการคลินิคดังกล่าวกว่า 120 ราย และให้บริการรับฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากด้วย ซึ่งแพทย์โดยทั่วไปไม่รับฉีดบริเวณดังกล่าวเนื่องบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีความอันตรายสูง เพราะมีเส้นเลือดเชื่อมต่อไปยังจอประสาทตา และสมอง หากแพทย์ที่ทำการฉีดไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้อาจเกิดผลกระทบโดยตรงถึงขั้นตาบอดได้
ทั้งนี้ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดใน 6 กระทง ประกอบด้วย
1.ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต
4.จำหน่ายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
5.จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
6.จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนส่งตัวผู้กระทำผิดให้พนักงานสืบสวนดำเนินคดี และจะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาลมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และในส่วนเจ้าของคลินิกดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผล และออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต”ต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง จับหมอเถื่อน ,หมอเสริมความงาม ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฉีดโบท็อกซ์ ,หมอกระเป๋า