สังคม

ป้าจะเป็นลม! หลงเชื่อมุกฟอกเงิน โอนเงินมรดก ให้แก๊งคอลฯเซนเตอร์ 1.5 ล้าน

โดย thichaphat_d

31 ส.ค. 2566

2K views

ป้าวัย 59 หลงเชื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้มุกฟอกเงิน โอนเงินมรดกก้อนสุดท้ายจากแม่ ให้ทั้งหมด 3 ครั้ง จนสูญเงิน 1.5 ล้าน

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 30 ส.ค.66 นางมณฑา มาหะวิสุทธิ์ อายุ 59 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ณัฐพัชร์ วิริยาลัย สว.สอบสวนสภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ในฐานความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ หลังถูกหลอกให้โอนเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท เข้าบัญชีของคนร้าย



โดยนางมณฑา ผู้เสียหายรายนี้ เปิดเผยว่า คนร้ายได้โทรศัพท์หาพร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน โดยสามารถจับตัวผู้ต้องหาคดีฟอกเงินได้รายหนึ่ง และให้การซัดทอดว่าได้ซื้อบัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของตนมาในราคา 1.5 หมื่นบาท ทำให้ตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการฟอกเงิน จึงต้องขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนทั้งหมด โดยให้โอนเงินที่มีอยู่ในทุกบัญชีเข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

ตนเห็นว่าคนร้ายพูดจามีหลักการจึงหลงเชื่อ ครั้งแรกจึงโอนเงินจำนวน 7 แสนบาทเข้าไปยังบัญชีที่คนร้ายบอก เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ครั้งที่ 2 ได้โอนเงินไปอีกจำนวน 8 แสนบาท และครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายตน ได้โอนเงินไปอีกจำนวน 4 หมื่นบาท 3 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 1,540,000 ล้านบาท จนกระทั่งเริ่มเอะใจและมารู้ตัวอีกทีว่า ถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอก ก็ทำให้เงินฝากที่เก็บสะสมมาหมดเกลี้ยงบัญชีไปแล้ว จึงตัดสินใจมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ



นางมณฑา ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า คนร้ายอ้างตัวว่าชื่อพันตำรวจโทฉัตรมงคล บุญกลาง เป็นตำรวจ สภ.มุกดาหาร โทรมาแจ้งกับตนว่าคนร้ายคดีฟอกเงินหนึ่งรายได้ซัดทอดว่า ติดต่อขอซื้อบัญชีธนาคารมาจากตนในราคา 1.5 หมื่นบาท และยังบอกอีกว่ามีการแบ่งเงินให้ตนมาอีก 10% โดยคนร้ายที่ปลอมเป็นตำรวจอ้างว่าถ้าตนบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคดีฟอกเงินรายนี้ ให้นำบัญชีเงินฝากทั้งหมดไปโอนเงินให้ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.ตรวจสอบก่อน จึงหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายไป 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,540,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของชีวิต


ทางด้าน น.ส.กัญณา เฉยเจริญ อายุ 57 ปี น้องสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า มีบัญชีธนาคารอยู่เล่มหนึ่งที่เป็นชื่อของพี่สาว ซึ่งเป็นบัญชีมรดกของแม่มีเงิน 8 แสนบาท แต่เมื่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว พี่สาวเป็นตนเป็นคนจัดการมรดกแบ่งมรดกให้กับพี่น้องทั้ง 5 คน โดยที่ตนเอาเงินสดของตนแบ่งให้พี่น้องไปก่อน เพราะเห็นว่าบัญชีของแม่เป็นบัญชีเงินฝากพิเศษออมทรัพย์ ซึ่งดอกเบี้ยสูงก็เลยคงเก็บเอาไว้ แต่ยังคงใช้ชื่อบัญชีของนางมณฑา ผู้เป็นพี่สาวอยู่ ไม่คิดว่าพี่สาวจะมาถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกเอาเงินไปจนหมดบัญชี ซึ่งตนก็ยังไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใดพี่สาวถึงไปเชื่อทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพทุกอย่าง จนถึงกับขนาดไปธนาคารเพื่อถอนเงินสดออกมาแล้วโอนเงินสดไปให้กลุ่มมิจฉาชีพทันที โดยไม่ปรึกษากับตนที่เป็นเจ้าของเงินในบัญชีเลย จนทำให้สูญเงินไปถึง 1,540,000 บาท ซึ่งคงเป็นเรื่องยากที่จะตามเงินจำนวนนี้กลับคืนมาได้



เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำเอกสารให้ผู้เสียหายไปยื่นเรื่องตรวจสอบหมายเลขบัญชีปลายทางที่โอนเงินสดไป เพื่อทำเรื่องอายัดเงิน ส่วนทางด้านคดีความจะดำเนินงานประสานเจ้าหน้าที่ สอท.ดำเนินการต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News