หนุ่มกระบะออลนิวเครียดหนัก ประเมินค่าเสียหายโรลส์รอยซ์ 2 ล้านบาท วอนสาวจีนเห็นใจลดค่าใช้จ่าย

หนุ่มขับกระบะชนโรลส์รอยซ์ เข้าพบตำรวจเจรจากับคู่กรณี รับสารภาพคดีอาญาขับชนท้าย เสียค่าปรับ 1,000 บาท ส่วนค่าเสียหายรถโรลส์รอยซ์ เบื้องต้นประมาณ 2 ล้านกว่าบาท จะขายซากรถมาจ่ายและขอผ่อนส่วนที่เหลือ พร้อมวิงวอนขอความเห็นใจจากคู่กรณีด้วย ทนายความสาวจีน ระบุ เจ้าตัวขอคิดดูก่อน ว่าจะควักกระเป๋าช่วยเหลือเท่าไหร่

วันที่ 18 ส.ค.66 เวลา 12.30 น. ภายหลังนายพงษ์เทพ รื่นเริง อายุ 23 ปี หรือ แซม คนขับรถกระบะ พร้อมด้วยทนายรัชพล ศิริสาคร เข้าเจรจากับทนายความของคุณซุน หญิงชาวจีนเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ และตัวแทนบริษัทประกันภัยรถโรลส์รอยซ์ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นายแซม ได้เดินออกจากห้องสอบสวนไปพร้อมกับภรรยา และเดินทางกลับทันที โดยบอกกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ตนเองมีความเครียดอย่างมาก ไม่รู้จะพูดยังไง ขอไปเคลียร์กับตัวเองก่อน ยังไม่พร้อมจะพูดอะไร ซึ่งถ้าฝั่งคู่กรณีเรียกค่าเสียหายมาเท่าไหร่ ก็ต้องไปคุยกันอีกที

โดยตอนนี้ตนเองก็มีภาระคือต้องเลี้ยงดูครอบครัว ก็อยากขอความเห็นใจจากเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ให่ไม่เอาเรื่อง แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุขับมาด้วยความเร็วประมาณ 110-120 กม./ชม. และไม่ได้มีการจี้ท้ายแต่อย่างใด พร้อมฝากไปถึงคนที่ขับรถใกล้เคียงกับตนตอนเกิดเหตุ และมีภาพจากกล้องหน้ารถ ก็ให้ช่วยส่งมาให้ด้วย ตอนนี้ตนต้องการมาก

ด้าน นางสาวชนิดา คำแสง น้าของนายแซม เปิดเผยว่า ตนเองขอเป็นตัวแทนของแซมกล่าวขอโทษคุณซุนจากใจ ยอมรับว่าหลานผิดจริงที่ไปชนท้ายคู่กรณี วันนี้ตำรวจจึงได้เชิญมาไกล่เกลี่ย และได้รับสารภาพในคดีอาญาข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสีบหาย เสียค่าปรับสูงสุดไป 1,000 บาท

โดยหลังจากนี้จะให้ทางประกันมาเคลียร์อีกทีว่าจะต้องจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่ ยินดีชดใช้เต็มที่ ซึ่งต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน ประกันจึงจะแจ้งราคาที่แน่ชัดมาอีกที โดยเบื้องต้นคุยกับหลาน บอกว่า จะขายซากรถแล้วเอาเงินมาให้ ส่วนที่เหลือก็จะขอผ่อนจ่าย แต่หลานไม่มีทรัพย์สินอื่นใดเลยนอกจากรถคันนี้ ก็หวังได้รับความเห็นใจจากคุณซุน เพราะยินดีรับผิดชอบ ส่วนในครอบครัวยังไม่ได้คุยกันว่าจะช่วยเหลือหลานอย่างไรบ้าง

ขณะที่ นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความของคุณซุน กล่าวว่า จากเมื่อวานได้ทางคู่กรณีได้ออกสื่อว่าอยากให้คุณซุนพิจารณาช่วยเหลือนั้น เบื้องต้นตนเองก็ได้ไปคุยกับคุณซุนว่า ค่าเสียหายน่าจะเยอะ และคู่กรณีก็อาจจะไม่มีเงิน ทางคุณซุน จึงบอกว่า ขอคิดดูก่อน โดยตอนนี้ทางประกันได้มาตรวจดูความเสียหายของรถแล้ว เบื้องต้นความเสียหายน่าจะประมาณ 2 ล้านต้นๆ แต่ต้องรอประเมินราคาที่แน่ชัด น่าจะทราบในสัปดาห์หน้า

ซึ่งเมื่อทราบยอดทั้งหมดแล้ว จะคุยกับคุณซุนอีกครั้งว่าจะสามารถช่วยเหลือคู่กรณีได้เท่าไหร่ ซึ่งคุณซุนจะต้องเป็นผู้ควักกระเป๋าตัวเอง จ่ายเงินส่วนนั้นให้กับบริษัทประกัน ซึ่งคุณซุนบอกว่า อยากรู้ยอดก่อน แต่ไม่ได้ติดใจในประเด็นอื่นใดจากการให้สัมภาษณ์ของคู่กรณี

ส่วนทางคู่กรณีนั้น บอกว่าประกันขาด ซึ่งจากการที่เจรจากัน คู่กรณีก็พูดตรงๆ ว่า ทำอาชีพหาเช้ากินค่ำ รายได้ไม่ได้มากมาย ถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณซุนช่วยดูแล ลดค่าใช้จ่ายให้

ส่วนประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการอาศัยอยู่ในประเทศไทยของคุณซุน ยืนยันว่า อาศัยอยู่อย่างมีวีซ่าถูกต้อง โดยมีลูก 2 คน คนโตอายุ 10 ขวบ มาเรียนที่ประเทศไทย และเพิ่งคลอดลูกคนเล็กได้ 5-6 เดือน จึงมีวีซ่าติดตามบุตร และประกอบธุรกิจร้านอาหาร ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งยืนยันไม่ใช่จีนเทา ไม่งั้นคงไม่กล้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสามีของคุณซุน ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศจีน ครอบครัวจึงค่อนข้างมีฐานะอยู่แล้ว

ทนายรัชพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากให้ระวัง เวลาขับขอให้ขับห่างๆ รถหรู เคสนี้เป็นตัวอย่างว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว ความเสียหายมันสูง และฝากเรื่องการแต่งรถว่า มีกฎหมายควบคุมอยู่ เพื่อให้รถปลอดภัยทั้งต่อตนเองและเพื่อนร่วมทาง การไปแต่งรถอาจทำให้รถไม่ได้มาตรฐาน

กรณีนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ เพราะพบว่ารอยเบรกมีแค่ข้างเดียว ก็น่าสงสัยว่า เบรกอีกข้างทำงานหรือไม่ ซึ่งอาจเกิดจากความประมาท หรือสมรรถภาพของรถที่ทำให้ไม่สามารถเบรกอยู่ ทั้งนี้ เชื่อว่านายแซม ไม่น่าจะขับซิ่งในช่วงเกิดเหตุ เพราะมีครอบครัวนั่งมาในรถด้วยอีก 6 คน

สำหรับภาพจากกล้องบนมอเตอร์เวย์ ตำรวจระบุว่า มุมกล้องที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุที่สุด ไม่สามารถจับภาพขณะเกิดเหตุได้ เนื่องจากเป็นมุมอับ ส่วนมุมกล้องอื่นๆ ก็เป็นภาพระยะไกลที่เห็นลักษณะการเกิดเหตุไม่ชัดเจน

แต่จากภาพรวมของสภาพการจราจรในขณะนั้น พบว่า มีการจราจรที่เคลื่อนตัวค่อนข้างช้า เนื่องจากเป็นช่วงขึ้นสะพานข้ามคลอง และรถหลายๆ คันได้ขับตามกันมา หากรถคันหน้าเบรกหรือชะลอ ก็อาจทำให้เบรกไม่ทันได้ ซึ่งทางคนขับรถกระบะ ได้ให้การกับตำรวจว่า พยายามจะเบรกแล้วแต่ไม่ทัน จึงได้พยายามหักหลบออกทางซ้ายแต่ก็ไม่พ้น