คนขับกระบะชนโรลส์รอยซ์ เตรียมเข้าเคลียร์คดีพรุ่งนี้ ผู้เชี่ยวชาญชี้ค่าเสียหายราว 3 ล้าน

ตำรวจยืนยัน ว่า รถยนต์หรูถูกระกระบะชนท้าย ไม่ใช่รถคันเดียวกันกับรถที่ยึดจากการกวาดล้างแก๊งจีนเทา ส่วนจะตรวจสอบความเป็นมา ตำรวจเจ้าของคดีจะเป็นคนตรวจสอบความผิดปกติ ขณะเจ้าของรถกระบะที่ขับชนท้าย เตรียมเจรจาขอโทษคู่กรณี พร้อมหาเงินชดใช้



นายแซม คนขับรถกระบะ เปิดใจ หลังรายการโหนกระแส ยืนยันว่า วันเกิดเหตุ กำลังจะพาลูก และครอบครัวรวม 7 คน ไปแก้บนที่วัดหลวงพ่อโสธร โดยขึ้นมอเตอร์เวย์ ระหว่างขับไป รถโรลส์-รอยซ์ ของคู่กรณี ก็เบรกกะทันหัน พยายามเบรก ก่อนที่จะชนท้าย ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเร็ว หรือ ปาดไปมา ตอนนั้นใช้ความเร็วเพียง 110-120 กม. ต่อชั่วโมง โดยสภาพจราจรติดขัดบางช่วง ก็พอจะเร่งความเร็วไปที่ 110-120 ได้บ้าง



ยอมรับว่าเห็นรถโรลส์-รอยซ์ คู่กรณีอยู่บนถนนมาสักระยะแล้ว หลังเกิดเหตุ ตน และแม่ยายก็ลงมาจากรถ ก่อนที่หญิงเจ้าของรถคู่กรณีก็ลงมา เป็นชาวจีน โดยแม่ยาย สื่อสารกับหญิงรถชาวจีนผ่าน google Translate ถามว่า "ทำไมคุณถึงเบรก" หญิงชาวจีนบอกว่า "ข้างหน้ามีรถเบรกกะทันหัน เลยต้องเบรก"



โดยนายแซม อ้างว่า คุยกันอยู่ 5 นาที ก่อนที่หญิงชาวจีนบอกว่า ถ้าไม่งั้น จะกลับไปจัดการรถของฉันเอง ส่วนคุณก็ไปจัดการรถของคุณ ก่อนจะขึ้นรถ แล้วบอกว่าต้องไปแล้วนะ และขับออกไป ไม่ได้มีการส่งสัญญาณมือให้ขับตามมาหรือใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ตนเองยังไปไม่ได้เพราะหม้อน้ำแตก ต้องรอสักพัก กว่ารถลากจะมาถึง



ตอนแรกคิดว่าเรื่องราวนี้จะจบลงไปแล้ว พอมาเป็นข่าวจากที่เครียดอยู่แล้ว ก็ยิ่งเครียดกว่าเดิม และจากที่ประเมินค่าซ่อมอาจจะถึง 2 ล้านบาท เท่าที่คิดออกคือ หาเงินแสนไปซ่อมรถตัวเอง และเอาไปรถขาย หาเงินมาให้คู่กรณี



โดยวันพรุ่งนี้ ตนเอง และ ทนายรัชพล ศิริสาคร จะเดินทางไปเจรจาไกล่เกลี่ย กันในเวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8



ด้านนายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถ ระบุว่า ถ้าประเมินจากรูปภาพแล้ว ความเสียหาย ค่าซ่อมแซมรถโรลส์-รอยซ์ ถ้าซ่อมโดยศูนย์บริการที่ถูกต้อง ประเมินว่าราคาอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท



ส่วนนายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความของหญิงชาวจีนเจ้าของรถรถโรลส์รอยซ์ บอกว่า ลูกความเล่าว่า วันเกิดเหตุ ขับรถมาปกติอยู่เลนขวา ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. และตกใจ ที่อยู่ดีๆ มีรถกระบะมาชนท้าย ยืนยันว่า ลูกความมีใบขับขี่ เป็นใบขับขี่สากล เมื่อวานมอบให้ตำรวจแล้ว เท่าที่คุยเมื่อวานกับตำรวจ บอกว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ให้เป็นหน้าที่ของประกันดีกว่า ราคาซ่อมค่อนข้างจะสูง พรุ่งนี้ตำรวจจึงนัดประกัน และคู่กรณีให้มาเจอกันที่โรงพักอีกครั้ง ส่วนค่าซ่อมแซม ล่าสุดคุยกับประกันภัย บอกว่ายังไม่ได้สรุปยอดที่แน่นอน



ส่วนที่สังคมบางส่วนตั้งประเด็นคำถามว่าลูกความ เจ้าของรถทำอาชีพอะไร และอยู่ในเมืองไทยถูกต้องหรือไม่ ทนายความ อธิบายว่า ลูกความอายุ 38 ปี ไม่ใช่ 21 ปี ตามที่มีการลงข่าวกันก่อนหน้านี้ เป็นคนจีนมีสามีเป็นคนจีน



อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้มาเที่ยวแล้วชอบมาก จึงให้ลูกชายมาเรียนที่ประเทศไทย ตอนนี้จึงมีวีซ่าติดตามบุตรอยู่ที่ประเทศไทย อยู่มาแล้ว 6-7 ปี ส่วนสามีอยู่ที่จีน มาเยี่ยมบ้างบางครั้ง



ส่วนประเด็นที่บางคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นจีนเทาหรือไม่ ทางล่ามก็ได้แปลให้คุณซุนฟังมาตลอด ซึ่งทนายความก็บอกว่าไม่สามารถห้ามสังคมได้ และอธิบายว่าตอนนี้มีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ และถ้าเขาเป็นจีนเทาจริง เมื่อวานคงไม่กล้าไปยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ